xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ชี้ แท็บเล็ตช่วยเติมความรู้นอกห้องเรียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกรัฐมนตรี
นายกฯ เปิดโครงการแท็บเล็ต ชี้ ไม่ได้เป็นการแจก แต่เป็นการเติมความรู้นอกตำราเรียน ด้าน “อนุดิษฐ์” ยันแท็บเล็ตล็อตแรก 2,000 เครื่อง ไม่มีปัญหาตามข่าวลือ ส่ง จม.ถึง บ.เสิ่นเจิ้นฯ เดินสายการผลิตแล้ว
 

วันนี้ (7 มิ.ย.) เวลา 14.00 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดงาน โครงการ One Tablet PC Per Child ภายใต้แนวคิด “เติมปัญญาด้วยเทคโนโลยี”

โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เจตนารมณ์สำคัญของโครงการ เพื่อต้องการที่จะปลูกฝังพัฒนาการเรียนรู้ที่ดีตั้งแต่เด็ก ซึ่งการที่เลือกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ ป.1 เนื่องจากเป็นวัยที่มีวุฒิภาวะต่อการเรียนรู้และรับความรู้ได้โดยไม่มีข้อจำกัด สามารถเรียนรู้ และปรับตัวกับเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว และดีกว่าปล่อยให้ไปเรียนข้างนอกโดยไม่มีการขัดเกลา อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ไม่ใช่เป็นการแจกแท็บเล็ต แต่เป็นโครงการเติมภูมิความรู้ที่นอกตำราเรียนให้แก่ลูกหลาน แท็บเล็ตจึงเป็นสิ่งที่รัฐบาล และ ศธ.มุ่งพัฒนา ความเจริญเติบโตทางสมองและความรู้รอบตัวให้แก่เด็ก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็ห่วงไม่น้อยกว่าผู้ปกครอง ว่า จะนำแท็บเล็ตไปใช้อย่างไรให้ถูกต้อง

ดังนั้น ที่ผ่านมา จึงให้มีการอบรมครูในการใช้แท็บเล็ต เพื่อค้นคว้าหาข้อมูลอย่างถูกต้องเหมาะสม รวมถึงมีระบบป้องกันในการเข้าสู่เนื้อหาที่ไม่มีประโยชน์ แต่จะมีเนื้อหาที่เหมือนกันในหนังสือเรียนหลักสูตรของ ศธ.เพื่อช่วยชดเชยเด็กต่างจังหวัดที่ไม่มีหนังสือเรียน และได้เติมเนื้อหาที่เป็นรูปแบบมัลติมิเดีย ทางด้านภาพวิดีโอ รวมถึงความรู้รอบตัวที่ควรจะมีนอกเหนือตำราเรียน ได้แก่ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำสอนตามหลักศาสนา เป็นต้น

“โครงการนี้เป็นโครงการนำร่องสำหรับเด็กชั้น ป.1 โดย ศธ.จะทำงานร่วมกับครู ที่ต้องมีการวัดผลประเมินผล ซึ่งต้องขอความร่วมมือกับครูในการนำสื่อการสอนนี้เข้าไปใช้ในห้องเรียน และเก็บข้อมูลพัฒนาการของเด็ก เพื่อจะดูว่าเมื่อเด็กใช้แล้วมีพัฒนาการดีขึ้นหรือไม่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ด้าน ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้บรรจุเนื้อหาสาระ จำนวน 367 บทเรียน ใน 5 กลุ่มสาระวิชา ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคม วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ รวมทั้ง E-book 8 เล่ม มัลติมิเดีย และแอปพลิเคชันที่ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาปัญญา 51 รายการ พร้อมกันนี้ สพฐ.ได้เตรียมอบรมแผนอบรมครู ให้แก่ครูผู้สอนทุกสังกัด เพื่อให้ครูสามารถใช้แท็บเล็ตในการเรียนการสอนได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และยังได้จัดให้มีสายฮอตไลน์ 1111 กด 8 เพื่อสอบถามการใช้ ศูนย์ซ่อมบำรุง สำหรับนักเรียนและผู้ปกครองเพื่ออำนวยความสะดวกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มีโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการการใช้เครื่องแท็บเล็ต กับเด็กชั้น ป.1 ใน 2 ปีที่ผ่านมา ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ได้ผลเป็นที่พอใจ เป็นการเปิดมิติใหม่การเรียนรู้ของนักเรียน ทำให้นักเรียนได้ใช้เวลาเพื่อการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น ทั้งฝึกการอ่าน การเขียน มากขึ้น มีโอกาสฝึกการสรุป การสร้างองค์ความรู้ และการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน ดังนั้น ทางชิคาโกมีแผนจะขยายไปยังโรงเรียนเต็มพื้นที่

ขณะที่ นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า ยืนยันว่า เครื่องแท็บเล็ตที่จัดส่งมาล็อตแรก 2,000 เครื่อง ไม่มีปัญหาเป็นเพียงข่าวลือ ซึ่งมีมาโดยตลอด โดยขณะนี้ทางไอซีทีได้ส่งจดหมายถึง บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ให้เดินสายพานการผลิตแล้ว โดยสามารถผลิตได้ 25,000 เครื่องต่อวัน และจะส่งล็อตใหญ่ประมาณ 400,000 เครื่องในเดือนกรกฎาคมนี้ และคาดว่า จะเริ่มทำสัญญาการจัดซื้อรอบสองได้ก่อนวันหมดสัญญารอบแรก 1 วัน ซึ่งจะหมดสัญญารอบแรกในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ และคาดว่า จะสามารถจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตรอบที่ 2 ได้ประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น