xs
xsm
sm
md
lg

Review: ASUS Transformer Prime แอนดรอยด์แท็บเล็ตระดับพรีเมียม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




จริงอยู่ที่ว่าแท็บเล็ตสายพันธุ์แอนดรอยด์ จะมีจำนวนมากมายให้เลือกหลากลายรุ่น แต่ถ้าวิเคราะห์กันที่ละจุด แท็บเล็ตที่เข้าขั้นทรงประสิทธิภาพ และสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด ณ ตอนนี้คงต้องบอกว่า Asus Transformer Prime คือ แอนดรอยด์ แท็บเล็ตที่อยู่เหนือกว่าทุกๆ รุ่นในกลุ่มเลยก็ว่าได้

ด้วยความที่เอซุส ตั้งใจจับประเด็นเอาชื่อ Transformer หุ่นรบยักษ์จากนอกโลก ที่ข้ามโลก ข้ามจักรวาลมาตีกันในพื้นโลกพิภพ ด้วยการที่ Transformer Prime เป็นแท็บเล็ตที่สามารถแปลงร่างได้ถึง 2 ขั้น นั่นคือจากแท็บเล็ต กลายเป็นเน็ตบุ๊ก หรือจากเน็ตบุ๊ก ให้ย้อนกลับไปเป็นแท็บเล็ต และนี่คือข้อดีที่เด่นชัดที่สุดของแท็บเล็ตจากค่ายนี้

การออกแบบและสเปก

ก่อนอื่นต้องพูดถึงตัววัสดุประกอบงาน วัสดุเป็นอลูมิเนียมขัดมันอย่างดี มีลวดลายเล็กน้อย สีสันสะท้อนแสง ดูมีความหรูหรา ถ้าหากนำตัวด็อค (คีย์บอร์ด) มาต่อเข้าด้วยกัน พบว่าจะมีลักษณะคล้ายกับ Ultrabook ของ Asus ที่ชื่อว่า Zenbook




การออกแบบของ Asus Transformer Prime จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นั่นคือ ส่วนของที่เป็นแท็บเล็ต กับส่วนที่เป็นเน็ตบุ๊ก

ขอเริ่มที่แท็บเล็ตก่อน จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว หน้าจอเป็นแบบ IPS+ ที่การันตีได้ถึงความคมชัดของภาพ อีกทั้งยังเป็นภาพเสมือนจริงอีกด้วย ซึ่งถือว่า Transformer Prime เป็นแท็บเล็ตที่มีหน้าจอดีที่สุดเลยก็ว่าได้



ด้านบน - เป็นปุ่มเปิด/ปิด เครื่อง มีลำโพงเล็กๆ อยู่ตรงกลาง



ด้านหน้า - มีโลโก้ Asus อยู่ทางซ้ายบน ตรงกลางมีกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล



ด้านขวา - มีแจ็คเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และลำโพง




ด้านซ้าย -  มีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง พอร์ต HDMI (ขนาดมินิ) และช่องใส่เอสดีการ์ด



ด้านล่าง - เป็นช่องสำหรับเสียบด็อค




ด้านหลัง - มีโลโก้ Asus ตรงกลางโดดเด่น และกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ลำโพง มีแอลอีดีแฟลช ให้อีก 1 ตัว




ต่อจากนั้นเมื่อเสียบแท็บเล็ตเข้ากับด็อคก็จะเป็นเน็ตบุ๊กฉบับกระเป๋าอีก 1 รุ่น



ด้านซ้าย - จะเป็นช่องสำหรับชาร์ตแบตเตอรี่ของด็อค ซึ่งเมื่อแท็บเล็ตเสียบกับด็อคจะเสมือนว่ามีแบตเตอรีเป็น 2 ก้อน ทำให้การใช้งาน Transformer Prime มีระยะการใช้งานที่ยาวนาน




ด้านขวา - มีพอร์ตยูเอสบี 1 พอร์ต และสล็อตสำหรับใส่เอสดีการ์ด (ตัวใหญ่)



ฟีเจอร์เด่นประจำเครื่อง





จากในนหน้าจอ Homescreen ของ Transformer Prime จะมีหน้าจอหลักให้เลือก 5 หน้า มุมด้านขวาบนจะเป็นทางเข้าสู่ App Drawer ด้านล่างซ้ายมีเมนูหลัก 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มโฮม และมัลติแทสกิง ส่วนด้านขวาล่างจะเป็นส่วนของการแจ้งเตือน (Notifications) ซึ่งจะคอยเตือนว่ามีข้อความใดส่งถึงผู้ใช้ รวมไปถึงการเปิดการใช้งาน WiFi, Bluetooth รวมไปถึงการตั้งค่าความสว่างหน้าจอ



สำหรับอินเตอร์เฟสแทบไม่มีความแตกต่างจาก Ice Cream Sandwich ฉบับมาตรฐานของกูเกิลเลยสักเท่าไรนัก เมื่อสัมผัสบริเวณหน้าจอค้างเอาไว้ ก็จะมีให้เลือก Gallery, Wallpaper และ Live Wallpaper



App Drawer - ดูไปจะคล้ายกับอินเตอร์เฟสของ Honeycomb พอสมควร เนื่องจาก ICS (Ice Cream Sandwich) แทบจะยกเครื่องมาจากแอนดรอยด์รุ่นเก่า



Widgets - ในส่วนของวิดเจ็ทจะย้ายไปอยู่ภายในส่วนของ App Drawer แทน โดยจะต้องเลือกจากแท็บด้านบน



Backup List - เป็นส่วนการสำรองแอปฯ ต่างเอาไว้สำหรับการใช้งานในภายหลัง



File Manager - ในส่วนนี้จะเป็นการเข้าไปดูแฟ้มต่างๆ ภายในตัวเครื่อง และถ้าหากผู้ใช้ได้เสียบอุปกรณ์ด็อคเข้าไป แล้วใช้แฟลชไดร์ฟเสียบในช่อง USB ก็จะมองเห็นในส่วนของแฟลชไดร์ฟได้ด้วย



Music - อินเตอร์เฟสเพลงก็ไม่มีอะไรพิเศษ โดยใช้อินเตอร์เฟสดั้งเดิมของ ICS มา




Cloud - ในส่วนของ ASUS มีบริการคลาวด์ให้ลองใช้งาน ซึ่งขนาดความจุมีมาให้ถึง 8GB ถ้ามีบัญชีผู้ใช้ระบบคลาวด์ ASUS แล้วก็ล็อกอินเข้าไปได้เลย แต่ถ้าไม่ก็สมัครสมาชิกใหม่ได้เลย





Tegra Zone - ส่วนนี้เป็นบริการจาก NVIDIA ที่จะนำเสนอแอปพลิเคชันเกมน่าเล่น ซึ่งเกมที่จะอยู่ใน Tegra Zone จะเป็นแอปฯ เกมแรงๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่าสเปกเครื่องของ Transformer Prime แรงฉิวอยู่แล้ว ดังนั้นการใช้งานด้านการเล่นเกมไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน





Browser - ทีมงานได้ทดสอบการใช้งาน Web Browser 2 ตัว ได้แก่ Browser ที่ติดมากับเครื่องกับ Chrome Browser ส่วนตัวแล้วทีมงานชอบ Chrome Browser มากกว่า เพราะการใช้งานให้อารมณ์และความรู้สึกเหมือนกับการใช้งาน Chrome บนพีซีหรือโน้ตบุ๊ก



Data Usage - ส่วนนี้ไม่แตกต่างจาก Galaxy Nexus ที่ทีมงานเคยรีวิวมาก่อนหน้านี้ โดยในส่วนของ Data Usage ค่อนข้างสวยงาม มีกราฟและแผนภูมิวงกลม แสดงปริมาณการใช้งานให้เห็นอย่างเด่นชัด



Google+ - บริการด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่คงไม่ต้องแนะนำกันมาก คงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว

ด้านการใช้งานจำพวกไฟล์เอกสาร หรือไฟล์ E-book ที่เป็น .epub หรือเป็น PDF ก็ใช้งานได้สบาย





สำหรับการทดสอบด้วยการทดสอบต่างๆ ได้คะแนนการทดสอบดังนี้






ทดสอบด้วย Quadrant Benchmark ได้ 3954 คะแนน ทดสอบด้วย AnTuTu ได้ผลคะแนนการทดสอบ 9514 ผลทดสอบการสัมผัสสามารถสัมผัสได้พร้อมกัน 10 จุด ทดสอบด้วย NenaMark2 ได้ไป 47.7fps และ NenaMark1 60.2fps

จุดขายของรุ่นนี้

สำหรับจุดขายของ ASUS Transformer อยู่ที่การใช้งานที่ครบเครื่องนอกจากรองรับการใช้งานจำพวกแท็บเล็ตทั่วๆ ไปแล้ว ยังสามารถต่อด็อคเข้าให้กลายเป็นแท็บเล็ต เพื่อรองรับการทำงานในหลากหลายรูปแบบ ทำให้แท็บเล็ต 1 เครื่องกลายเป็นเน็ตบุ๊กขนาดพกพา เบา สะดวกอีก 1 เครื่อง

นอกจากนี้ Transformer Prime ยังเป็นแท็บเล็ตที่มีสเปกแรงเหมาะสำหรับการใช้งานด้านการเล่นเกมแรงๆ ดูวิดีโอระดับความละเอียด 1080p หรือถ้าต่อจากด็อคแล้วดูหนังผ่านแท็บเล็ตก็ทำได้สบายๆ แถเล่นไฟล์ได้ด้วยทุกนามสกุล

ตอบโจทย์จุดขายได้หรือไม่ ?

ถึงแม้ว่าชุดออฟฟิศบนแอนดรอยด์ จะยังไม่เก่งกาจถึงขั้นโปรแกรมชุดออฟฟิศบนเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าหากใช้ในเรื่องของการพิมพ์งาน พิมพ์เอกสารสั้นๆ หรือส่งเมล จุดนี้สามารถตอบโจทย์ได้สบายเลย

ส่วนเรื่องของสเปกหายห่วงไม่ตกรุ่นง่ายๆ สามารถใช้งานได้ต่อไปยาวๆ

การใช้งานในรูปแบบเอนเตอร์เทนเมนต์ก็ เล่นได้หลากหลายนามสกุลทั้งไฟล์ avi หรือไฟล์ mkv เล่นผ่านแฟลชไดร์ฟได้ชนิดที่เรียกว่าไม่มีปัญหา

แต่อาจจะเรียกว่าเป็นที่น่าเสียดายสักนิดที่รุ่นนี้รองรับเฉพาะ Wi-Fi เท่านั้น ไม่มีรุ่นที่ออกมาสำหรับ 3G โดยเฉพาะ

ฟันธง คุ้มค่าต่อจำนวนเงินที่เสียไปหรือไม่ ?

ถึงแม้ว่า ASUS Transformer Prime จะเปิดตัวด้วยราคาที่ค่อนข้างแรงถึง 20,900 บาท แต่ด้วยฟีเจอร์ ความหลากหลายในการใช้งาน วัสดุประกอบงาน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่สามารถต่อกรกับ The new iPad ได้ไม่ยาก

ถ้าหากผู้ใช้ต้องการแท็บเล็ตที่มีความคล่องตัว Transformer Prime คือคำตอบที่ดีมาก การใช้งานเอนเตอร์เทนเมนต์ เกม ฟังเพลง ดูหนัง ก็ทำได้ อีกทั้งตัวหน้าจอเองก็มีความละเอียดมาก

เรียกว่าจะยก ASUS Transformer Prime คือแท็บเล็ตที่ดีที่สุดสายพันธุ์แอนดรอยด์ในเวลานี้ก็คงไม่ได้เป็นเรื่องที่เกินไปสักเท่าไหร่

Company Related Link :
ASUS











กำลังโหลดความคิดเห็น