xs
xsm
sm
md
lg

Review : Samsung Galaxy S Advance อีกหนึ่งทางเลือกของกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




อย่างที่ทราบในตลาดสมาร์ทโฟนปัจจุบัน จะเป็นการแข่งขันกันกับกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนตามระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น iOS ที่มีไอโฟน เพียงรุ่นเดียว แบล็กเบอรี่ ที่มี OS7 ส่วนวินโดวส์ โฟน ก็มีอยู่บ้างประปราย แต่คงต้องมาลุ้นกันอีกทีว่า ถ้าหาก Lumia สมาร์ทโฟนจากโนเกียที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone จะเป็นอย่างไร

แต่ที่แน่ๆ ถ้าหากวัดจากตลาดสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ คงต้องบอกว่าซัมซุง นี่แหละ ที่ถือเป็นผู้นำตลาดของเจ้าหุ่นกระป๋องเขียว ก็คงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงสักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าหากจะวิเคราะห์ดูว่าทำไมซัมซุงถึงประสบความสำเร็จในตลาดสมาร์ทโฟน นั่นคงเป็นเพราะว่ามีความลงตัวทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าเพอร์เฟ็ก แต่ก็ยังมีความลงตัวกว่าแบรนด์อื่นๆ ที่ใช้แอนดรอยด์เหมือนๆ กัน

อีกทั้งซัมซุงเอง ยังมีความพร้อมที่จะสามารถลงไปเล่นได้ทั้งตลาดสมาร์ทโฟนระดับสูง ระดับกลาง และระดับลงได้อย่างไม่เขอะเขิน แต่ถึงกระนั้นซัมซุงกลับเป็นแบรนด์ที่มีสมาร์ทโฟนออกมาทับไลน์กันค่อนข้างเยอะ เรียกว่ามีจนออกมาชนกันจนเกลื่อนเลย

ส่วนเครื่องที่จะรีวิวในบทความนี้จะเป็น Galaxy S Advance ที่จะว่าไปแล้วเป็นเหมือนการอัปเกรดจากรุ่น Galaxy S ก็ว่าได้ และรุ่นนี้จะน่าสนใจยังไงต้องติดตามจากบทความนี้



การออกแบบและสเปก

สำหรับ Galaxy S Advance สิ่งหนึ่งที่ต้องชมเลยก็คือวัสดุประกอบงาน และการออกแบบตัวเครื่องที่ทำได้ดี การจับที่ตัวเครื่องขณะใช้งานจริง สามารถจับได้กระชับเหมาะมือ หน้าจอขนาด 4 นิ้ว ที่ดูไม่ใหญ่ และไม่เล็กจนเกินไป ผู้ใช้ที่มีมือใหญ่ หรือมือเล็กสามารถใช้งานได้อย่างลงตัว ด้านหลังมีวัสดุที่เหมือนเป็นวัสดุกันลื่น ที่เป็นพลาสติกคุณภาพดี ส่วนด้านล่างตรงด้านหลังจะมีลักษณะเป็นส่วนโค้ง เหมือน Galaxy Nexus และ Nexus S พอสมควร ด้านอินเตอร์เฟสยังคงเป็น TouchWiz UI





ด้านหน้า - จะมีลำโพงสนทนา ด้านข้างเป็นกล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ ตรงกลางมีโลโก้ซัมซุงเด่นชัด ด้านล่างมี 1 ปุ่มที่เป็นฟิสิกคอล คือปุ่ม Home ส่วนด้านซ้ายจะเป็น Menu ด้านขวาเป็นปุ่ม Back



ด้านหลัง - มาพร้อมกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED แฟลช และมีลำโพง ถัดลงมามีโลโก้ซัมซุง วัสดุตรงพลาสติกด้านหลังเป็นแบบกันลื่นหลุดมือ





ด้านซ้าย - เป็นปุ่มเพิ่ม/ลด เสียง ด้านล่างมีช่องสำหรับแงะฝาหลัง



ด้านขวา - มีปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง

ด้านบน - ไม่มีอะไร



ด้านล่าง - มีพอร์ทไมโครยูเอสบี สำหรับชาร์จเครื่อง และโอนถ่ายไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ถัดมาข้างๆ เป็นลำโพงไมค์ และช่องเสียบหูฟัง



สำหรับสเปกภายใน Galaxy S Advance ประกอบไปด้วยซีพียูดูอัล-คอร์ 1GHz (Cortex A-9) หน้าจอ 4 นิ้ว Super AMOLED แอนดรอยด์ 2.3 กล้อง 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้ 1.3 ล้าน เล่น+บันทึก 720p RAM 768MB Storage 8/16GB มีแอปฯ AllShare แบตเตอรี 1,500 mAh

ฟีเจอร์เด่นประจำเครื่อง



Memo - แอปพลิเคชันสำหรับจดบันทึกกันลืมต่างๆ




Task Manager - สำหรับจัดการแอปพลิเคชันที่กำลังรันอยู่ มีส่วนของการจัดการ RAM และดูหน่วยความจำของเครื่องว่าตอนนี้ใช้งานเท่าไหร่ รวมไปถึงสามารถ uninstall app ได้



Diary - เป็นแอปฯ สำหรับเขียนไดอารีลงบนมือถือ สำหรับคนที่ชื่นชอบการจดไดอารี่




Photo editor - แอปพลิเคชันสำหรับตกแต่งภาพ เพื่อให้ภาพมีความสวยงาม และดูโดดเด่นยิ่งขึ้น สามารถดึงภาพจาก Gallery หรือจับภาพจากกล้องได้เลยก็ได้



Task - เป็นสมุดจดบันทึกงาน ว่าวันนี้มีภารกิจที่จะต้องทำอะไรบ้าง เปรียบเสมือนเป็นเลขาส่วนตัว



AllShare - แอปฯ สำหรับแชร์ไฟล์วิดีโอ ภาพถ่าย และเพลง ผ่าน WiFi โดยใช้เทคโนโลยี DLNA



Social Game - ศูนย์กลางสำหรับการดาวน์โหลดเกม ซึ่งเป็นแอปฯ ที่พัฒนาโดยซัมซุงเอง

Samsung Hub - แอป สโตร์ ของซัมซุงที่ผู้ใช้สามรถดาวน์โหลดแอปฯ ได้จากภายใน Samsung Hub ได้เลย นอกเหนือจากแอนดรอยด์ มาร์เก็ต

Social Hub - บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่สามารถผนวกได้ทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และอีเมล




Web Browser - สำหรับแอปฯ ท่องเว็บไซต์บนแอนดรอยด์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าการตัดคำหลังการซูมเพื่อขยายข้อความ จะทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก สามารถใช้งานเว็บได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน






ภาพถ่ายจากสถานที่ต่างๆ-






จุดขายของรุ่นนี้ 

สำหรับจุดขายของ Galaxy S Advance ในเรื่องของแอปพลิเคชันที่ให้มาอาจจะไม่มีความโดดเด่นมากนัก แต่ทว่าสิ่งที่น่าสนใจมันกลับเป็นส่วนของฮาร์ดแวร์ และงานประกอบเสียมากกว่า ขอเริ่มจากงานประกอบก่อน ยอมรับว่า Galaxy S Advance เป็นสมาร์ทโฟนที่มีงานประกอบดีพอตัว วัสดุไม่กรอบแกรบ การออกแบบมีกลิ่นอายของ Galaxy Nexus และ Nexus S อยู่นิดหน่อย ส่วนด้านหลังมีวัสดุกันลื่น และการจับตัวเครืองขณะใช้งานกระชับเหมาะมือมาก

ส่วนด้านฮาร์ดแวร์ เริ่มจากหน่วยประมวลผลกลางมีการอัปเกรดเป็นระดับดูอัล-คอร์ 1GHz ส่วนหน้าจอใช้เป็นความละเอียดแบบ Super AMOLED ดังนั้นภาพที่ได้จะสีสดอย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วทางผู้ผลิตชิป cortex-A9 ที่ใช้ใน Galaxy S Advance ได้เคลมว่ามีระบบจัดการพลังงานให้กินพลังงานต่ำ และมีระบบจัดการความร้อนที่ดีขึ้น

ตอบโจทย์จุดขายหรือไม่

Galaxy S Advance จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบราคาจำหน่ายที่แน่นอน แต่เชื่อว่าราคาค่างวดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ คงอยู่ในระดับ 13,000-15,000 บาท ซึ่งจัดอยู่ในตำแหน่งสมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มีสเปกสูงพอตัว อีกทั้งรุ่นนี้ จะได้รับสิทธิ์ในการอัปเกรดเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 ทำให้มีข้อสันนิษฐานว่า สาเหตุที่ Galaxy S รุ่นแรก ไม่ได้รับสิทธิ์ในการอัปเกรดเป็นแอนดรอยด์ 4.0 หรือไม่รับการอัปเกรดเป็น Value Pack นั่นเป็นเพราะว่าซัมซุงมีแผนที่จะเปิดตัวรุ่นนี้ใช่หรือไม่ ?

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่เสียไป

โดยส่วนตัวของมองว่า Galaxy S Advance จะเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มีสเปกค่อนข้างสูง แต่ไม่ต้องการที่จะจ่ายเงินซื้อสมาร์ทโฟนระดับไฮ-เอนด์ ตรงส่วนนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทางซัมซุงมองเอาไว้ ในลูกค้ากลุ่มนี้ จึงเลือกที่จะเปิดตลาดสมาร์ทโฟนตัวใหม่ (ที่ค่อนข้างซ้ำซ้อนกัน)

อีกทั้งลูกค้าที่ซื้อรุ่นนี้ไป จะได้รับการการันตีว่าจะได้ใช้ Ice Cream Sandwich 4.0 ระบบปฏิบัติการตัวใหม่จากฝั่งแอนดรอยด์ ทำให้ผู้ใช้รุ่นนี้น่าจะได้รับการอัปเกรดอีกนานพอสมควร ในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆ ที่ให้มาโดยพื้นฐานค่อนข้างครบถ้วนอยู่แล้ว

Company Related Link :
Samsung













กำลังโหลดความคิดเห็น