xs
xsm
sm
md
lg

“ศศิธารา” เต้น แก้ปัญหายอดค้างจ่ายค่าตำรา กว่า 100 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยอดค้างจ่ายตำราเรียนสูงกว่า 100 ล.“ศศิธารา” ในฐานะรักษาการ ผอ.องค์การค้า สั่ง จนท.เร่งสรุปข้อมูลว่า มีหน่วยงานใดเพื่อประสานผ่านต้นสังกัดช่วยกระตุ้น คาดช้าเพราะกระบวนการเบิกจ่ายงบ เล็งหารือ สพฐ.ต้องการรื้อฟื้นหนังสือหน้าที่พลเมือง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกครั้งหรือไม่ เหตุจากปัญหาของเด็กเยาวชนในปัจจุบัน



น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ประชุม สกสค.มีมติให้ตนรักษาการ ผอ.องค์การค้า สกสค.ไปจนกว่าการดำเนินการสรรหาและแต่งตั้ง ผอ.องค์การค้าฯ คนใหม่จะแล้วเสร็จ ดังนั้น เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ตนจึงได้ประชุมหารือกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ขององค์การค้า สกสค.ซึ่งได้รับรายงาน ว่า การจัดพิมพ์หนังสือเรียนในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่บางรายการที่มีความต้องการมากกว่าจำนวนที่พิมพ์จำหน่ายทำให้ต้องสั่งพิมพ์เพิ่มให้พอกับความต้องการ ขณะเดียวกัน ก็พบปัญหาว่าหนังสือบางรายการพิมพ์เกินกว่าความต้องการ จึงได้กำชับให้เร่งนำออกจำหน่ายให้หมด

ทั้งนี้ แม้การจัดพิมพ์หนังสือเรียนจะเป็นที่น่าพอใจ แต่ปัญหาหลักที่พบในขณะนี้ คือ การเก็บเงินจากหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ได้สั่งซื้อหนังสือเรียนยังมีความล่าช้ามาก จึงทำให้มียอดค้างชำระเป็นมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท และส่งผลให้เกิดปัญหาเงินทุนหมุนเวียนขององค์การค้า สกสค.ที่แต่ละเดือนจะต้องนำเงินไปใช้จ่ายเป็นเงินเดือน ค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้องค์การค้าฯเร่งจัดทำข้อมูลว่าส่วนราชการที่ยังไม่ได้จ่ายค่าหนังสือเรียนเป็นของหน่วยงานไหนบ้าง หากเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือโรงเรียนเอกชนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะได้ประสานหรือแจ้งข้อมูลไปยังผู้บริหารของ สพฐ.และ สช.เพื่อให้ช่วยประสานงานให้เพื่อให้มีความรวดเร็วในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ โดยเข้าใจว่า สาเหตุที่ยังมีความล่าช้าในการจ่ายเงินค่าหนังสือเรียน อาจเป็นเพราะอยู่ระหว่างกระบวนการเบิกเงินของทางราชการ

“สำหรับปัญหาหนี้สินขององค์การค้า สกสค.ยังไม่ลดลง หากบริหารจัดการองค์กรไม่ดีแล้วหนี้สินก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากรายได้จากการจัดพิมพ์หนังสือเรียนแล้วยังได้มอบให้องค์การค้าฯไปพิจารณาปรับการจัดทำสื่อที่จะบรรจุลงในแท็บเล็ตเพื่อเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้และปรับตัวให้ทันกับการแข่งขันในตลาด ส่วนเรื่องที่ดินที่เป็นทรัพย์สินขององค์การค้าฯที่เป็นโครงการคุรุธานีเดิม 10 กว่าแปลง ยังต้องรอการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าจะเป็นที่ราชพัสดุหรือไม่ และสามารถนำไปขายได้ไหม คาดว่า จะทราบผลปลายเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งหากมีการตีความออกมาว่าไม่ใช่ที่ดินราชพัสดุและนำไปขายได้จะต้องนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ชุดใหม่พิจารณาว่าจะให้นำที่ดินเหล่านี้มาขายเพื่อเพิ่มรายได้หรืออาจจะให้นำไปทำโครงการคุรุธานีเช่นเดิม” น.ส.ศศิธารา กล่าว

ปลัด ศธ.กล่าวด้วยว่า ยังได้มอบให้องค์การค้า สกสค.ไปดูว่าหนังสือเรียน หน้าที่พลเมือง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่เคยจัดพิมพ์ในอดีตยังมีอยู่หรือไม่ เพราะอยากจะให้มีการฟื้นการจัดพิมพ์หนังสือเหล่านี้อีก เนื่องจากในปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยมีปัญหาเยอะมาก แต่จะต้องหารือกับ สพฐ.ว่ามีความต้องการที่จะให้จัดพิมพ์หนังสือดังกล่าวหรือไม่ หากมีความจำเป็นองค์การค้าฯก็พร้อมจะนำมาปรับปรุงและจัดพิมพ์ใหม่อีกครั้ง เพื่อช่วยส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของเด็กไทยอีกทางหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น