กทม.ยันทำตามกฎหมายกรณีต่อสัญญาบีทีเอส ไม่หวั่น “ดีเอสไอ” จ้องสอบสวน เล็งฟ้องกลับเช่นกัน ก่อนโวยเป็นประเด็นการเมือง
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติให้ส่งหนังสือถึง 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้ว่าฯ กทม. บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ให้ส่งพยานและหลักฐานชี้แจงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ร้องให้ตรวจสอบการลงนามในการต่อสัญญาการให้บริการรถไฟฟ้า ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว แต่ทาง กทม.ยืนยันว่า ทำตามกฎหมายในการจัดจ้าง ซึ่งทุกฝ่ายมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น แต่ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะสุดท้ายเรื่องนี้คงต้องไปสิ้นสุดที่ศาล หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หากมีการรับเรื่องก็พร้อมจะอธิบาย เพราะได้ชี้แจงเรื่องนี้มาหลายหน่วยงานแล้ว
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า ส่วนการดำเนินการฟ้องกลับทางกฎหมาย กำลังดูอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ยืนยันว่า กทม.ทำเพื่อคนกรุงเทพฯ เพราะประหยัดงบประมาณจ้าง 17 ปี เป็น 30 ปี ถึง 6,000 ล้าน ซึ่งก็ตอบคำถามได้หมด ทั้งนี้ ก็เข้าใจมีเพียงบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจ จึงเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน
วันนี้ (8 มิ.ย.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติให้ส่งหนังสือถึง 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้ว่าฯ กทม. บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ให้ส่งพยานและหลักฐานชี้แจงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ร้องให้ตรวจสอบการลงนามในการต่อสัญญาการให้บริการรถไฟฟ้า ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว แต่ทาง กทม.ยืนยันว่า ทำตามกฎหมายในการจัดจ้าง ซึ่งทุกฝ่ายมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น แต่ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะสุดท้ายเรื่องนี้คงต้องไปสิ้นสุดที่ศาล หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หากมีการรับเรื่องก็พร้อมจะอธิบาย เพราะได้ชี้แจงเรื่องนี้มาหลายหน่วยงานแล้ว
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า ส่วนการดำเนินการฟ้องกลับทางกฎหมาย กำลังดูอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ยืนยันว่า กทม.ทำเพื่อคนกรุงเทพฯ เพราะประหยัดงบประมาณจ้าง 17 ปี เป็น 30 ปี ถึง 6,000 ล้าน ซึ่งก็ตอบคำถามได้หมด ทั้งนี้ ก็เข้าใจมีเพียงบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจ จึงเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน
