กทม.เตรียมยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดในคดีซานติก้าตามอัยการ ชี้ ต้องใช้บรรทัดฐานกับคดีก่อนหน้านี้
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองกลาง ได้ตัดสินคดีที่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับฟ้อง กทม.ซึ่งศาลตัดสินให้ กทม.จ่ายค่าชดเชย 7.9 แสนบาท ว่า ทาง กทม.เคารพการตัดสินของศาล แต่ กทม.ก็ต้องทำตามขั้นตอน โดยได้หารือกับสำนักกฎหมายและคดี กทม.แล้วขณะเดียวกัน ทางสำนักงานกฎหมายฯก็ได้สอบถามไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ซึ่งอสส.ได้ตอบกลับมา ว่า ควรส่งอุทธรณ์ในคดีดังกล่าวถึงศาลปกครองสูงสุด เพราะการฟ้องร้องคล้ายกับคดีแรกที่มีการฟ้องร้อง และ กทม.ต้องเสียค่าชดเชยให้เช่นกัน ซึ่งเมื่อคดีแรกอุทธรณ์คดีที่ 2 นี้ ก็ต้องอุทธรณ์เช่นกัน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ซึ่ง กทม.จะยื่นอุทธรณ์ในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ในเรื่องนี้จะหารือกับทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.หลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ว่า จะต้องเข้าไปพูดคุยกับทางโจทก์เพื่อไปชี้แจงว่าทำไม กทม.ถึงต้องมีการอุทธรณ์
“รู้สึกเสียใจ เพราะรู้ว่าทุกคนบอบช้ำจากการสูญเสียคนในครอบครัว หากเป็นเราก็ต้องฟ้อง กทม.เช่นกัน แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน จะทำตามความรู้สึกหรืออารมณ์ไม่ได้ ต้องฟังเสียงของฝ่ายกฎหมายด้วย ส่วนข้าราชการผู้ปฏิบัติงาน หากพบว่า ทำผิดจริงเอาผิดทางวินัยอย่างถึงที่สุดไม่มีการละเว้น ส่วนญาติผู้เสียชีวิตรายอื่นจะฟ้องร้องเพิ่มเติมคงไม่สามารถทำได้ เพราะคดีความหมดอายุ” พญ.มาลินี กล่าว
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองกลาง ได้ตัดสินคดีที่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับฟ้อง กทม.ซึ่งศาลตัดสินให้ กทม.จ่ายค่าชดเชย 7.9 แสนบาท ว่า ทาง กทม.เคารพการตัดสินของศาล แต่ กทม.ก็ต้องทำตามขั้นตอน โดยได้หารือกับสำนักกฎหมายและคดี กทม.แล้วขณะเดียวกัน ทางสำนักงานกฎหมายฯก็ได้สอบถามไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ซึ่งอสส.ได้ตอบกลับมา ว่า ควรส่งอุทธรณ์ในคดีดังกล่าวถึงศาลปกครองสูงสุด เพราะการฟ้องร้องคล้ายกับคดีแรกที่มีการฟ้องร้อง และ กทม.ต้องเสียค่าชดเชยให้เช่นกัน ซึ่งเมื่อคดีแรกอุทธรณ์คดีที่ 2 นี้ ก็ต้องอุทธรณ์เช่นกัน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน ซึ่ง กทม.จะยื่นอุทธรณ์ในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ในเรื่องนี้จะหารือกับทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.หลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ว่า จะต้องเข้าไปพูดคุยกับทางโจทก์เพื่อไปชี้แจงว่าทำไม กทม.ถึงต้องมีการอุทธรณ์
“รู้สึกเสียใจ เพราะรู้ว่าทุกคนบอบช้ำจากการสูญเสียคนในครอบครัว หากเป็นเราก็ต้องฟ้อง กทม.เช่นกัน แต่เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน จะทำตามความรู้สึกหรืออารมณ์ไม่ได้ ต้องฟังเสียงของฝ่ายกฎหมายด้วย ส่วนข้าราชการผู้ปฏิบัติงาน หากพบว่า ทำผิดจริงเอาผิดทางวินัยอย่างถึงที่สุดไม่มีการละเว้น ส่วนญาติผู้เสียชีวิตรายอื่นจะฟ้องร้องเพิ่มเติมคงไม่สามารถทำได้ เพราะคดีความหมดอายุ” พญ.มาลินี กล่าว
