ASTVผู้จัดการรายวัน -กทม.มอบหมายสำนักกฎหมายและคดี ตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่บกพร่องละเลยหน้าที่หรือไม่ เตรียมสู้ชั้นอุทธรณ์เหยื่อซานติก้า ด้าน“ธีระชน” ขอดูคำสั่งศาลปกครองกลาง ก่อนฟันธงยื่นอุทธรณ์ ชี้หากเป็นเอกชนจ่ายชดเชยไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังวานนี้ที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่นายบรรจบ และกรกนก ณรงค์ ซึ่งบิดาและมารดาของนายกริช ณรงค์ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารซานติก้าผับ เป็นเงิน 312,080 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดย ยื่นฟ้องกทม.ฐานละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ไม่ตรวจสอบควบคุม ดูแลสภาพโครงสร้าง ระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ในการป้องกันและบรรเทาอัคคีภัยของอาคารสถานบริการซานติก้าผับให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 นั้น
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ในเบื้องต้นต้องรอคำตัดสินฉบับสมบูรณ์จากศาลปกครองเพื่อนำมาวินิจฉัยตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยมอบหมายให้สำนักกฎหมายและคดี ตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ และอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.สามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลหลักฐานในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป อย่างไรก็ตาม กทม.เคารพการตัดสินใจของศาลปกครองกลาง แต่ในเรื่องความบกพร่องในหน้าที่นั้นยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอการตรวจสอบที่ชัดเจนอีกครั้ง
ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นคำสั่งศาลปกครองกลาง ซึ่งตนจะขอดูหลักของกฎหมายก่อนว่าจำเป็นที่จะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ แต่โดยหลักการแล้ว หน่วยงานของรัฐจะต้องยื่นอุทธรณ์ แต่ถ้าสามารถจ่ายเป็นค่าชดเชยได้ ก็จะได้เป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าราชการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวจะไม่ขอยื่นอุทธรณ์ เพราะหากตนเป็นเอกชน ก็สามารถจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อได้ทันที
“ผมคิดว่าการฟ้องร้องกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นการรักษาสิทธิ์ ตัวผู้เสียหายก็รักษาสิทธิ์ ขณะที่กทม.เองก็รักษาสิทธิ์เช่นเดียวกัน หากมีผู้เสียหายจำนวนมากฟ้องร้องกทม. แล้วข้าราชการมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะประชาชนจะได้รับสิทธิ์อย่างเป็นธรรม ” รองผู้ว่าฯกทม. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังวานนี้ที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) ชำระค่าสินไหมทดแทนแก่นายบรรจบ และกรกนก ณรงค์ ซึ่งบิดาและมารดาของนายกริช ณรงค์ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารซานติก้าผับ เป็นเงิน 312,080 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดย ยื่นฟ้องกทม.ฐานละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ไม่ตรวจสอบควบคุม ดูแลสภาพโครงสร้าง ระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ในการป้องกันและบรรเทาอัคคีภัยของอาคารสถานบริการซานติก้าผับให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 นั้น
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ในเบื้องต้นต้องรอคำตัดสินฉบับสมบูรณ์จากศาลปกครองเพื่อนำมาวินิจฉัยตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยมอบหมายให้สำนักกฎหมายและคดี ตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ และอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.สามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลหลักฐานในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป อย่างไรก็ตาม กทม.เคารพการตัดสินใจของศาลปกครองกลาง แต่ในเรื่องความบกพร่องในหน้าที่นั้นยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอการตรวจสอบที่ชัดเจนอีกครั้ง
ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นคำสั่งศาลปกครองกลาง ซึ่งตนจะขอดูหลักของกฎหมายก่อนว่าจำเป็นที่จะต้องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ แต่โดยหลักการแล้ว หน่วยงานของรัฐจะต้องยื่นอุทธรณ์ แต่ถ้าสามารถจ่ายเป็นค่าชดเชยได้ ก็จะได้เป็นกรณีตัวอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าราชการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวจะไม่ขอยื่นอุทธรณ์ เพราะหากตนเป็นเอกชน ก็สามารถจ่ายค่าชดเชยให้เหยื่อได้ทันที
“ผมคิดว่าการฟ้องร้องกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นการรักษาสิทธิ์ ตัวผู้เสียหายก็รักษาสิทธิ์ ขณะที่กทม.เองก็รักษาสิทธิ์เช่นเดียวกัน หากมีผู้เสียหายจำนวนมากฟ้องร้องกทม. แล้วข้าราชการมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะประชาชนจะได้รับสิทธิ์อย่างเป็นธรรม ” รองผู้ว่าฯกทม. กล่าว
