ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมต่อต้านโลกร้อน เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอให้ศาลพิจารณาเพื่อมีคำสั่งใหม่ สั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรม และ กนอ. ได้เพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการของทั้ง 2 โรงงาน หลังจากเกิดเหตุถังแก๊สระเบิด และก๊าซคลอรีนรั่ว เมื่อเร็วๆ นี้
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านโลกร้อน กล่าวว่า ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้เคยมีคำสั่งลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2552 ในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และชาวบ้านมาบตาพุดรวม 43 ราย ได้ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ รวม 8 หน่วยงาน เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานต่างๆ จำนวน 76 โรงงานในพื้นที่มาบตาพุดและใกล้เคียง และให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 67 วรรคสอง ตามที่ทราบกันแล้วนั้น
แต่เนื่องจากเมื่อวันที่ 5 และ 6 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในโรงงาน บีเอสที ในเครือบริษัทกรุงเทพซินธิติกส์ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และ บริษัท อดิตยาเบอร์ล่า เคมิคัลส์ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง ตามลำดับ ทำให้มีผู้ล้มตาย และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งสองโรงงานดังกล่าว เป็นโรงงานใน 76 โรงงานที่ทางสมาคมฯ และชาวบ้านได้ฟ้องร้อง และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด
ดังนั้น ในวันพฤหัสที่ 10 พฤษภาคม 2555 เวลา 10.00 น. สมาคมฯ จะได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้ศาลพิจารณาเพื่อมีคำสั่งใหม่ เพื่อสั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรม (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4) และ กนอ. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 8) ได้เพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการของทั้ง 2 โรงงานต่อไป ขณะเดียวกัน ก็จะขอให้ศาลสั่งให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้เพิกถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (E/HIA) ของทั้งสองโรงงานต่อไป
ด้านนายสุทธิ อัชฌาศัย แกนนำเครือข่าวประชาชนภาคตะวันออก เผยว่า จากเหตุการณในครั้งนี้ รัฐบาลจะต่องกลับมาดูปัญหาอย่างจริงจัง เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวไมได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่มันเกิดขึ้นซ้ำซาก เกิดแล้วเกิดอีก และมาตรการต่างๆ ที่ทางรัฐบาลได้กำหนดไว้ก็ไม่ได้ทำกันอย่างจริงจัง ดังนั้น จึงต้องหันกลับมาทบทวนกันใหม่ พร้อมทั้งต้องพิจารณาโรงงานทั้ง 76 โรงงานว่า จะดำเนินกานอย่างไรต่อไป ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว จาก 2 โรงงานดังกล่าว
และในวันที่ 11 พ.ค.55 นี้ทางเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น พร้อมทั้งโรงงานทั้งสองแห่งดังกล่าวด้วย