ปลัดกระทรวงแรงงานเผยแรงงานไทยหนีน้ำท่วมไปทำงานญี่ปุ่น ได้รับการคุ้มครองตามหลักประกันสุขภาพของประเทศ 4 กรณี"เจ็บป่วย-อุบัติเหตุ-ว่างงาน-เงินออมชราภาพ" จ่ายเงินสมทบคนละครึ่งกับนายจ้าง รับสิทธิเท่าคนญี่ปุ่น
นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นักวิชาการมีความกังวลเกี่ยวกับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานกับบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นอาจจะมีปัญหาระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศญี่ปุ่นไม่คุ้มครองนั้น ว่าจากการตรวจสอบกับอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานไทย ประจำประเทศญี่ปุ่นได้ชี้แจงว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุญาตให้แรงงานไทยที่ประสบอุทกภัยเดินทางไปทำงานที่ญี่ปุ่นเป็นกรณีพิเศษ ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งคาดว่าจะมีลูกจ้างเดินทางไปทำงานหลายพันคน ทั้งนี้แรงงานไทยเหล่านี้จะได้รับการคุ้มครองตามหลักประกันสุขภาพของประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่เดินทางเข้าในเขตประเทศญี่ปุ่นทันที ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกับกฎหมายคุ้มครองแรงงานของคนญี่ปุ่น
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อว่า ระบบประกันสุขภาพของญี่ปุ่นจะครอบคลุมเรื่องรักษาพยาบาล อุบัติเหตุจากการทำงาน ว่างงาน และเงินออมชราภาพ โดยแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในกลุ่มอายุไม่เกิน 40 ปี จะต้องจ่ายเงินสมทบ 9.48% ของค่าจ้าง โดยแบ่งจ่ายคนละครึ่งละระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ส่วนแรงงานที่อายุเกิน40 ปีขึ้นไป ก็จะต้องจ่ายเงินสมทบในอัตรา 10.99% ของค่าจ้าง และแบ่งจ่ายคนละครึ่งกับนายจ้างเช่นเดียวกัน
"บริษัทแรกที่กำลังจะเดินทางไปญี่ปุ่นในอาทิตย์หน้า คือบริษัทนิคอน ซึ่งได้เตรียมส่งแรงงานไทยไปทำงานหลายร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มีฝีมือที่สามารถทำงานกับเครื่องจักรที่ทันสมัยได้ อีกทั้งเครื่องจักรของไทยและญี่ปุ่นมีความใกล้เคียงกัน โดยบริษัทแม่เห็นว่าแรงงานกลุ่มนี้จะสามารถไปเพิ่มผลผลิตให้กับบริษัทแม่ได้และหลังจากนี้ ยังมีอีกหลายบริษัททยอยจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในหลายกลุ่มธุรกิจ" ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว
นพ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกังวลที่แรงงานไทยจะไม่ได้รับการดูแลคุ้มครองในหลักประกันสุขภาพของญี่ปุ่นนั้น ไม่เป็นความจริง แรงงานไทยทุกคนจะได้รับความคุ้มครองเทียบเท่ากับแรงงานญี่ปุ่น จึงขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้
