คสรท.เสนอนโยบาย 9 ข้อ แก้ปัญหาความยากจนให้คนงาน หวังพรรคการเมืองนำไปบริหารประเทศ ชี้ประเด็นเร่งด่วนที่สุด คือ การปรับขึ้นแรงงานขั้นต่ำ ให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพ
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) แถลงถึงข้อเสนอนโยบายด้านแรงงานต่อพรรคการเมือง ว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานจากภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมกันจัดทำนโยบาย เพื่อเสนอให้พรรคการเมืองนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนของคนงานทั้งในระบบและนอกระบบ โดยในโอกาสที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ทาง คสรท.จึงขอเสนอนโยบาย 9 ประเด็น ได้แก่ 1.การให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 เพื่อสร้างหลักประกันในสิทธิเสรีภาพในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง 2.แก้ไข พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 ให้สอดคล้องอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 เพื่อให้เกิดการคุ้มครองผู้ใช้แรงงานทุกภาคส่วน
นายชาลี กล่าวอีกว่า 3.การปฏิรูประบบประกันสังคมเพื่อความเป็นธรรมทางสังคม และปฏิรูปโครงสร้างการบริหารงานระบบประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ ผู้ประกันตนมีส่วนร่วม โปร่งใสตรวจสอบได้ 4.ค่าจ้างแรงงานที่เป็นธรรมโดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ทางสากลขององค์การแรงงาน ระหว่างประเทศ (ILO) และ โครงสร้างค่าจ้าง เพื่อให้มีหลักเกณฑ์การปรับค่าจ้างประจำปี 5.พัฒนารัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนและยกเลิกนโยบาย การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในกิจการสาธารณูปโภค 6.สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว.รวมถึงองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทุกระดับในเขตพื้นที่สถานประกอบการของคนงาน เพื่อสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนในพื้นที่ 7.จัดตั้งสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน 8.จัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยงจากการลงทุน เพื่อคุ้มครองสิทธิคนงานให้ได้รับค่าชดเชยที่เป็นธรรมและเป็นหลักประกันความมั่นคงในการทำงาน จากกรณีเจ้าของสถานประกอบการปิดกิจการและเลิกจ้าง 9.การคุ้มครองสิทธิแรงงานนอกระบบ และสิทธิแรงงานข้ามชาติ
“หลังการรับสมัคร ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ คสรท.จะยื่นข้อเสนอนโยบายต่อพรรคการเมืองทุกพรรค เพื่อให้บรรจุเป็นนโยบายพรรคการเมืองและนโยบายของรัฐบาล และจะติดตามผลักดันข้อเสนอทั้ง 9 ข้ออย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าเป็นนโยบายสำคัญในการแก้ปัญหาของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า คสรท.จะไม่โหวตโน แต่จะเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายสอดคล้อง และมีความเป็นไปได้ตามความต้องการของแรงงาน” นายชาลี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีผู้นำแรงงานลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทาง คสรท.จะให้การสนับสนุนหรือไม่ นายชาลี กล่าวว่า หากมีนโยบายตรงกับความต้องการของแรงงาน ทาง คสรท.ก็ยินดีให้การสนับสนุน เพราะผู้นำแรงงานมีความเข้าใจเรื่องแรงงาน และถือว่าเป็นตัวแทนของแรงงานในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการจัดตั้งพรรคการเมืองของแรงงานที่จะใช้ชื่อว่าพรรคแรงงานนั้น ขณะนี้ยังไม่ตกผลึก แต่อนาคตหากแรงงานร่วมมือกันเข้มแข็งกว่านี้ ก็จะสามารถจัดตั้งพรรคการเมืองนี้ได้
ด้าน นายชัยสิทธิ์ สุขสมบูรณ์ กรรมการ คสรท.กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนมากที่สุด ที่อยากให้พรรคการเมืองต่างๆ บรรจุเป็นนโยบายด้านแรงงาน คือ การปรับขึ้นแรงงานขั้นต่ำ ให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพ การให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 เพื่อให้สถานประกอบการต่างๆ มีสหภาพแรงงาน เพื่อมีอำนาจในการต่อรอง และปฏิรูปประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ รวมถึงผลักดันให้ประกันสังคมทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองไหนพูดในเรื่องดังกล่าวเลย
