ASTVผู้จัดการรายวัน-“สุริยะใส” เล็งยื่นข้อมูล กกต. ดัดหลัง "สมศักดิ์" ส่งส.ส..เป็นโมฆะ ยันกก.บห.เสียงข้างมากยังยืนยันไม่เคยมีมติส่งผู้สมัคร ด้าน“สมศักดิ์” ดื้อยันส่งผู้สมัคร ส.ส.แน่ ประเดิมยื่นปาร์ตี้ลิสต์ตั้งแต่วันแรก ก่อนจัดคนลงชิงเก้าอี้ ส.ส.ใน 21 จังหวัด ปัดรับเงินบริจาค “สนธิ” 3 ล้านโวยถูกใส่ร้าย แถมระบุ “ยะใส” ค้างเงินพรรค 6 แสน ด้าน “กลุ่มรักการเมืองใหม่” ชูป้ายด่า คนทรยศ ร้องขับพ้นพรรค
รายงานข่าวจากพรรคการเมืองใหม่แจ้งว่า วานนี้ (12 พ.ค.) เวลา 13.30 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ได้จัดงานเปิดตัวนโยบายพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ณ ที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ ถ.พระสุเมรุ
**ชูป้ายด่า คนทรยศ ร้องขับพ้นพรรค
มีรายงานว่า เวลาประมาณ 14.00 น. สมาชิกพรรคในนามกลุ่มรักการเมืองใหม่ ได้เดินทางไปยังบริเวณหน้าที่ทำการพรรค เพื่ออ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือถอดถอน นายสมศักดิ์ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ฐานทำผิดข้อบังคับพรรค
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวของนายสมศักดิ์ ที่ระบุว่า จะส่งผู้สมัครลงแข่งขันเลือกตั้งในทั่วประเทศนั้น ได้มีกลุ่มมวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมกลุ่มรักการเมืองใหม่ จำนวนหนึ่ง รวมตัวกันบริเวณหน้าพรรคการเมืองใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถอดถอน นายสมศักดิ์ ห้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค
เนื่องจาก นายสมศักดิ์ ได้ใช้อำนาจในตำแหน่งดำเนินการขัดต่อมติที่ประชุมใหญ่ที่เสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกพรรคกว่าร้อยละ 80 เห็นว่า ไม่ควรส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ได้มีเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองใหม่มารับหนังสือดังกล่าว พร้อมระบุถึงคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อถอดถอน นายสมศักดิ์ ให้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคโดยด่วนที่สุดด้วย ภายหลังจากยื่นหนังสือเสร็จ กลุ่มดังกล่าวก็ได้แยกย้ายโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ
**สมศักดิ์” ดื้อยันส่งผู้สมัคร ส.ส.แน่
ทั้งนี้ เวลา 13.50 น. นายสมศักดิ์ แถลงข่าวยืนยันว่าพรรคการเมืองใหม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งนี้แน่นอนทั้งแบบสัดส่วนและแบบแบ่งเขต เพราะกระบวนการของพรรคได้ดำเนินการมาตลอด ที่ผ่านมามีปัญหากับแกนนำพันธมิตรชี้นำไม่ให้ดำเนินการทางการเมือง ซึ่งถือว่าขัดต่อเจตนารมณ์ของการตั้งพรรคการเมือง ตามมาตรา 4 กำหนดไว้ว่าการตั้งพรรคการเมืองต้องมุ่งมีเจตนาที่จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง และพรรคได้เตรียมการทำงานแต่ละภาคแต่ละชุดไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยจะส่งผู้สมัครที่ได้เสนอตัวเข้ามามีทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ ภาคเหนือเช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ภาคตะวันตก เช่น เพชรบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ภาคใต้ เช่น สุราษฐ์ธานี ภูเก็ต กระบี่ พังงา ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ตราด กทม.และปริมณฑล รวม 21 จังหวัด สมัครเป็นประเภทแบ่งเขต สำหรับแบบสัดส่วน กรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคต้องลง และมีอีกหลายคนที่พร้อมลงเลือกตั้งแล้วจะเปิดตัวเป็นทางการอีกครั้งหลังจากเอาบัญชีสัดส่วนไปยื่น กกต.วันที่ 19 พ.ค.นี้
** ปัดรับเงินบริจาค 3 ล้านโวยถูกใส่ร้าย
กรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ประกาศบนเวทีว่าได้มอบเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาทให้กับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งตนได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบแล้วไม่พบเงินก้อนนี้ หากให้ได้มอบใครบางคนให้นายสนธิ ประกาศให้ทราบบนเวทีด้วย ซึ่งใส่ร้ายลักษณะนี้ทำให้พรรคเสียหายไม่ทราบว่าใครอมไปทำอะไร ตนต้องการทำให้เป้าหมายพรรคนี้ชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ใต้อธิพลอำนาจมืดของใคร และไม่เป็นพรรคนอมินีของพันธมิตรฯพอข่มขู่ไม่สำเร็จจะมาทวงคืนพรรคไม่ได้
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าความแตกแยกที่เกิดขึ้นในพรรคมาจากปัจจัยภายนอกซึ่งจะมากำหนดทิศทางของพรรคไม่ได้ เพราะพรรคต้องทำตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นหากถูกสั่งการได้ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เช่นการรณรงค์ไม่ให้มีการเลือกตั้งหรือโหวโนหากพรรคไปทำอย่างนั้นพรรคก็ผิดกฎหมาย ส่วนที่แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯมายื่นถอดถอนและขับไล่ ไม่วิตกกังวล หากต่อสู้ตามข้อเท็จจริงของกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าการส่งผู้สมัครเป็นมติของพรรคที่เคยประชุมมาก่อนหน้านี้ซึ่งกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่เห็นชอบ
หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงที่ตั้งที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ว่าตอนนี้ยังอยู่ที่นี่ไปก่อน แต่กำลังจะย้ายไปที่ใหม่เพราะค่าเช่าเดือนละ 2.8 แสนบาทซึ่งได้ชำระหนี้ไปเกือบสิบกว่าล้านบาทแล้ว การตั้งพรรคไม่จำเป็นต้องมีที่มาก สำหรับนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคและนายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรค ตอนนี้ยังอยู่แต่ไม่ทราบอนาคตเป็นอย่างไรทั้งสองคนออกมาบอกว่าต้องการดำเนินการไม่ให้ส่งผู้สมัคร ซึ่งไปพูดเพื่อทำลายพรรค และนายสุริยะใส เองยังค้างเงินพรรคอีก 6 แสนกว่าบาทไปขายบัตรระดมทุนเข้าพรรค แต่ไม่เอาเงินมาเข้าพรรคตนได้ให้รายงาน กกต.ทราบแล้ว นี่เป็นประเด็นปัญหาที่ไม่ยืนอยู่บนความถูกต้องมาตลอด จนแกนนำพันธมิตรฯ ออกมารณรงค์โหวตโนคืออะไรเพราะไม่ต้องการให้มีเลือกตั้ง หลังจากทหารบอกไม่มีปฏิวัติและเลือกตั้งแล้วจะไปประท้วงกันอีกมันคือระบบอะไร ซึ่งเราไม่เชื่อมั่นระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวรายงานในส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานพรรคได้ปรับเปลี่ยนบุคคลากรใหม่ทั้งหมดโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ชุดของนายสุริยะใสมานั่งทำงานเลย นอกจากนี้ระหว่างที่แถลงข่าวได้มีแนวร่วมพันธมิตรฯซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ราว 30 คน ในนามกลุ่มรักการเมืองใหม่ มาชุมนุมบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่ออ่านแถลงการณ์ขับไล่นายสมศักดิ์ ออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคด้วย พร้อมกับตะโกนขับไล่และให้คืนพรรคให้กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ทั้งนี้กลุ่มดังกล่าวเปิดเผยว่า ได้เตรียมล่ารายชื่อสมาชิกพรรคการเมืองใหม่เพื่อยื่นถอดถอนนายสมศักดิ์ โดยจะตั้งโต๊ะให้สมาชิกลงชื่อที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ ตั้งเป้าให้ได้ 1,500 รายชื่อ คือเป็น 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 15,000 คน
**“สุริยะใส” เล็งยื่นข้อมูล กกต. ดัดหลัง
มีรายงานว่า นายสุริยะใส ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า “พรรคการเมืองใหม่แถลงเตรียมส่งผู้สมัคร ส.ส.เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของคุณสมศักดิ์ และ กก.บห.บางคน เพราะ กก.บห.เสียงข้างมากยังยืนยันไม่เคยมีมติส่งผู้สมัคร และก็ไม่เคยมีการประชุม กก.คัดเลือกผู้สมัคร ตามมาตรา 37 และ 38 พรบ.พรรคการเมือง ผมและ กก.บห.เสียงข้างมากจะทำหนังสือถึง กกต.เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง ใครไปยื่นสมัครในนามพรรคก็ถือว่าโมฆะครับ"
รายงานข่าวจากพรรคการเมืองใหม่แจ้งว่า วานนี้ (12 พ.ค.) เวลา 13.30 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ได้จัดงานเปิดตัวนโยบายพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ณ ที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ ถ.พระสุเมรุ
**ชูป้ายด่า คนทรยศ ร้องขับพ้นพรรค
มีรายงานว่า เวลาประมาณ 14.00 น. สมาชิกพรรคในนามกลุ่มรักการเมืองใหม่ ได้เดินทางไปยังบริเวณหน้าที่ทำการพรรค เพื่ออ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือถอดถอน นายสมศักดิ์ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ฐานทำผิดข้อบังคับพรรค
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวของนายสมศักดิ์ ที่ระบุว่า จะส่งผู้สมัครลงแข่งขันเลือกตั้งในทั่วประเทศนั้น ได้มีกลุ่มมวลชนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมกลุ่มรักการเมืองใหม่ จำนวนหนึ่ง รวมตัวกันบริเวณหน้าพรรคการเมืองใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถอดถอน นายสมศักดิ์ ห้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค
เนื่องจาก นายสมศักดิ์ ได้ใช้อำนาจในตำแหน่งดำเนินการขัดต่อมติที่ประชุมใหญ่ที่เสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกพรรคกว่าร้อยละ 80 เห็นว่า ไม่ควรส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ได้มีเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองใหม่มารับหนังสือดังกล่าว พร้อมระบุถึงคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อถอดถอน นายสมศักดิ์ ให้ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคโดยด่วนที่สุดด้วย ภายหลังจากยื่นหนังสือเสร็จ กลุ่มดังกล่าวก็ได้แยกย้ายโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ
**สมศักดิ์” ดื้อยันส่งผู้สมัคร ส.ส.แน่
ทั้งนี้ เวลา 13.50 น. นายสมศักดิ์ แถลงข่าวยืนยันว่าพรรคการเมืองใหม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งนี้แน่นอนทั้งแบบสัดส่วนและแบบแบ่งเขต เพราะกระบวนการของพรรคได้ดำเนินการมาตลอด ที่ผ่านมามีปัญหากับแกนนำพันธมิตรชี้นำไม่ให้ดำเนินการทางการเมือง ซึ่งถือว่าขัดต่อเจตนารมณ์ของการตั้งพรรคการเมือง ตามมาตรา 4 กำหนดไว้ว่าการตั้งพรรคการเมืองต้องมุ่งมีเจตนาที่จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง และพรรคได้เตรียมการทำงานแต่ละภาคแต่ละชุดไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยจะส่งผู้สมัครที่ได้เสนอตัวเข้ามามีทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ ภาคเหนือเช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ภาคตะวันตก เช่น เพชรบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ภาคใต้ เช่น สุราษฐ์ธานี ภูเก็ต กระบี่ พังงา ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ตราด กทม.และปริมณฑล รวม 21 จังหวัด สมัครเป็นประเภทแบ่งเขต สำหรับแบบสัดส่วน กรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคต้องลง และมีอีกหลายคนที่พร้อมลงเลือกตั้งแล้วจะเปิดตัวเป็นทางการอีกครั้งหลังจากเอาบัญชีสัดส่วนไปยื่น กกต.วันที่ 19 พ.ค.นี้
** ปัดรับเงินบริจาค 3 ล้านโวยถูกใส่ร้าย
กรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ประกาศบนเวทีว่าได้มอบเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาทให้กับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งตนได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบแล้วไม่พบเงินก้อนนี้ หากให้ได้มอบใครบางคนให้นายสนธิ ประกาศให้ทราบบนเวทีด้วย ซึ่งใส่ร้ายลักษณะนี้ทำให้พรรคเสียหายไม่ทราบว่าใครอมไปทำอะไร ตนต้องการทำให้เป้าหมายพรรคนี้ชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ใต้อธิพลอำนาจมืดของใคร และไม่เป็นพรรคนอมินีของพันธมิตรฯพอข่มขู่ไม่สำเร็จจะมาทวงคืนพรรคไม่ได้
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่าความแตกแยกที่เกิดขึ้นในพรรคมาจากปัจจัยภายนอกซึ่งจะมากำหนดทิศทางของพรรคไม่ได้ เพราะพรรคต้องทำตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นหากถูกสั่งการได้ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เช่นการรณรงค์ไม่ให้มีการเลือกตั้งหรือโหวโนหากพรรคไปทำอย่างนั้นพรรคก็ผิดกฎหมาย ส่วนที่แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯมายื่นถอดถอนและขับไล่ ไม่วิตกกังวล หากต่อสู้ตามข้อเท็จจริงของกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าการส่งผู้สมัครเป็นมติของพรรคที่เคยประชุมมาก่อนหน้านี้ซึ่งกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่เห็นชอบ
หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงที่ตั้งที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ว่าตอนนี้ยังอยู่ที่นี่ไปก่อน แต่กำลังจะย้ายไปที่ใหม่เพราะค่าเช่าเดือนละ 2.8 แสนบาทซึ่งได้ชำระหนี้ไปเกือบสิบกว่าล้านบาทแล้ว การตั้งพรรคไม่จำเป็นต้องมีที่มาก สำหรับนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคและนายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรค ตอนนี้ยังอยู่แต่ไม่ทราบอนาคตเป็นอย่างไรทั้งสองคนออกมาบอกว่าต้องการดำเนินการไม่ให้ส่งผู้สมัคร ซึ่งไปพูดเพื่อทำลายพรรค และนายสุริยะใส เองยังค้างเงินพรรคอีก 6 แสนกว่าบาทไปขายบัตรระดมทุนเข้าพรรค แต่ไม่เอาเงินมาเข้าพรรคตนได้ให้รายงาน กกต.ทราบแล้ว นี่เป็นประเด็นปัญหาที่ไม่ยืนอยู่บนความถูกต้องมาตลอด จนแกนนำพันธมิตรฯ ออกมารณรงค์โหวตโนคืออะไรเพราะไม่ต้องการให้มีเลือกตั้ง หลังจากทหารบอกไม่มีปฏิวัติและเลือกตั้งแล้วจะไปประท้วงกันอีกมันคือระบบอะไร ซึ่งเราไม่เชื่อมั่นระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวรายงานในส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานพรรคได้ปรับเปลี่ยนบุคคลากรใหม่ทั้งหมดโดยไม่มีเจ้าหน้าที่ชุดของนายสุริยะใสมานั่งทำงานเลย นอกจากนี้ระหว่างที่แถลงข่าวได้มีแนวร่วมพันธมิตรฯซึ่งเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ราว 30 คน ในนามกลุ่มรักการเมืองใหม่ มาชุมนุมบริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่ออ่านแถลงการณ์ขับไล่นายสมศักดิ์ ออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคด้วย พร้อมกับตะโกนขับไล่และให้คืนพรรคให้กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ทั้งนี้กลุ่มดังกล่าวเปิดเผยว่า ได้เตรียมล่ารายชื่อสมาชิกพรรคการเมืองใหม่เพื่อยื่นถอดถอนนายสมศักดิ์ โดยจะตั้งโต๊ะให้สมาชิกลงชื่อที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ ตั้งเป้าให้ได้ 1,500 รายชื่อ คือเป็น 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 15,000 คน
**“สุริยะใส” เล็งยื่นข้อมูล กกต. ดัดหลัง
มีรายงานว่า นายสุริยะใส ได้เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า “พรรคการเมืองใหม่แถลงเตรียมส่งผู้สมัคร ส.ส.เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของคุณสมศักดิ์ และ กก.บห.บางคน เพราะ กก.บห.เสียงข้างมากยังยืนยันไม่เคยมีมติส่งผู้สมัคร และก็ไม่เคยมีการประชุม กก.คัดเลือกผู้สมัคร ตามมาตรา 37 และ 38 พรบ.พรรคการเมือง ผมและ กก.บห.เสียงข้างมากจะทำหนังสือถึง กกต.เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง ใครไปยื่นสมัครในนามพรรคก็ถือว่าโมฆะครับ"