xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการจวกพ่อแม่ไม่มีเวลาให้ลูก เหตุวัยโจ๋มีเพศสัมพันธ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
นักวิชาการ สสส.เผยครอบครัวขาดการสั่งสอนเลี้ยงดู ไม่มีเวลาให้ลูกต้นเหตุวัยโจ๋มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร แนะ ศธ.-วธ.หามาตรการเชิงรุกเพื่อขับเคลื่อนให้เด็ก เยาวชนรู้ว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก ไม่ใช่วันของคู่รัก ด้านผู้แทนสภาเยาวชนเสนอให้พ่อแม่ปรับความคิดให้ทันสมัยขึ้น เปิดอกคุยกับลูกเรื่องเพศฯ ขณะที่ “กิ๊ก-มยุริญ” ชี้ให้ใช้สติสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้

วันนี้ 8 (ก.พ.) ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “รักอย่างไร... ให้มีสติและสร้างสรรค์” โดย นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการแผนงานสุขภาวะองค์กรภาคเอกชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัจจุบันคำนิยามความรักของเด็กไทยสมัยใหม่ มักคิดว่าความรักคือการยอม และมอบให้ จนทำให้เกิดปัญหาการเสียตัวมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การตั้งท้องแล้วทำแท้ง การติดเชื้อโรคเอดส์ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากครอบครัวที่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ไม่ได้สอนให้เด็กเข้าใจคำว่ารักได้อย่างแท้จริง ขาดการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูก ไม่มีเวลาให้ลูก แต่ชอบออกคำสั่งบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ จึงเกิดช่องว่างขึ้นในครอบครัว และถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างร้ายแรง ส่งผลทำให้เด็กไม่สามารถแยกแยะ คิดวิเคราะห์ จึงกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมในเรื่องของความรักได้

นพ.ชาญวิทย์กล่าวต่อว่า เนื่องในเทศกาลวันวาเลนไทน์ของทุกปี รัฐบาลและหลายภาคส่วนในสังคมจะเกิดความวิตกกังวลในการกระทำที่ไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชน และออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันตามมา ซึ่งเรื่องนี้ส่วนตัวมองว่า สังคมควรต้องยอมรับว่ามาตรการต่างๆ ที่ออกมาไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร เพราะเด็กสมัยใหม่มีความอยากรู้อยากลอง ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ดังนั้น ตนอยากเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินงานในมาตรการเชิงรุกมากกว่าตั้งรับ โดยการเป็นเจ้าภาพขับเคลื่อนรณรงค์และปลูกฝังให้คนไทยได้ตระหนักรู้ว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรัก ไม่ใช่วันของรักที่จะไปกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันการให้ความรักแก่กันควรจะทำเป็นประจำทุกวันไม่ใช่ให้ความสำคัญแค่วันวาเลนไทน์

“การทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันในการแสดงออกทางความรัก จึงควรกลับมามองที่ครอบครัวเป็นหลัก โดยพ่อแม่ ผู้ปกครอง จะต้องเป็นต้นแบบสอนวิธีคิดเกี่ยวกับทักษะการใช้ชีวิต เปิดใจรับฟัง และให้ความรู้เรื่องการแสดงความรักแก่เด็กอย่างเหมาะสม โดยเริ่มจากการมอบความรักให้ลูก ด้วยการแสดงออกจากการกอด การชื่นชมด้วยคำพูดที่สร้างสรรค์ เป็นต้น” ผอ.แผนงานสุขภาวะฯ กล่าว

น.ส.นัดดา แวยูโซ๊ะ ผู้แทนสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องถามตนเองก่อนว่าความรักคืออะไร ความรักกับการมีเซ็กซ์เป็นเรื่องเดียวกันหรือเปล่า เพราะการตั้งคำถามแบบนี้ก็เป็นการตั้งสติได้ดีอีกอย่างหนึ่ง และเมื่อเด็กเยาวชนมีความรักแล้วก็ควรมีที่ปรึกษา โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่สามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกได้ดีที่สุด โดยผู้ปกครองควรปรับความคิดให้ทันสมัยมากกว่านี้ มานั่งเปิดอกคุยกับบุตรหลานในเรื่องเพศศึกษาว่าไม่ใช่สิ่งที่น่าอายที่ต้องรอให้โรงเรียน ครู อาจารย์สอนเท่านั้นซึ่งจะไม่ทันกับโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว

“ถ้าสอนหรือห้ามไม่ให้มีแฟนก็เหมือนกับยิ่งยุให้ลูกมีแฟนเร็วขึ้น ควรจะสอนให้รู้จักการป้องกัน สอนว่าถ้ามีเซ็กซ์ในวัยเรียนแล้วจะทำให้พ่อแม่รู้สึกอย่างไร และก็จะเกิดผลที่ตามมาอีกมากมาย นอกจากนี้ เด็กเองเมื่อมีเรื่องอะไรก็ควรที่จะเล่าให้ผู้ปกครองฟังเพราะผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน” ผู้แทนสภาเยาวชนฯ กล่าว

ด้าน นายนริศ มณีขาว ผู้แทนศาสนาคริสต์ กล่าวว่า จากรายงานการวิจัยของต่างประเทศได้ระบุว่า แม้ว่าภายหลังจากที่เพศหญิงที่ตั้งครรภ์แล้วไปทำแท้ง จะสามารถดำรงชีวิตความสุขได้เกือบเท่ากับคนปกติ แต่ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นในจิตใจจะติดตัวไปตลอดชีวิต และไม่มีทางที่จะยกโทษให้กับตนเองได้ ดังนั้น ตนอยากฝากถึงเด็กและเยาวชนว่าขอให้รักคนอื่นเหมือนรักตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ทำร้ายตนเองและสังคม

ขณะที่ น.ส.มยุริญ ผ่องผุดพรรณ ดารานักแสดง กล่าวว่า รักในวัยเรียนไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ในการมีความรักนั้นก็อยากจะให้ใช้สติในการคิดไตร่ตรองให้มาก มีความรักให้ถูกกาลเทศะในวัยที่เหมาะสม เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ และก็จะได้เป็นความรักที่ยั่งยืน อยากให้ลองคิดดูว่าถ้ามีความรักแล้วเกิดการมีเซ็กซ์ในช่วงวัยกำลังเรียน กับมีตอนทำงาน มีวุฒิภาวะที่พร้อม อย่างไหนจะดีกว่ากัน

“อยากให้มีสติเยอะๆ รู้ว่าสิ่งไหนควรอะไรไม่ควร แต่ถ้าเกิดการพลาดพลั้งจนตั้งท้องขึ้นมา และไปทำแท้งสิ่งเหล่านี้คือการขาดสติเป็นบาป และอาจทำให้เกิดความเสียใจ ละอายใจภายหลังได้เมื่อได้มองย้อนกลับไปว่าไม่น่าทำอย่างนี้เลย ดังนั้นก็อยากจะเสนอให้ปฏิบัติธรรม เจริญสติปัญญา เพราะตราบใดที่มนุษย์มีสติก็จะสามารถแก้ปัญหาและไม่กลับไปทำผิดเหมือนในอดีตที่ผ่านมาอีก” นักแสดงสาวมากฝีมือกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น