“วิทยา” ยันคนการเมืองไม่เกี่ยวทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ โครงการ “ไทยเข้มแข็ง” ของ สธ. ระบุหากผลสอบของคณะกรรมการไม่เป็นที่พอใจ หรือถูกมองเป็นการตัดตอนทุจริตก็ตั้งกรรมการสอบกรรมการซ้อนได้ คาดคณะกรรมการฯ แถลงผลวันนี้มีชื่อคนโกง
ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม ครม.วันนี้ (13 ต.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในโครงการไทยเข้มแข็งว่า ตนได้รับรายงานจาก นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า วันนี้ (13 ต.ค.) จะมีการแถลงข่าวผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นใครบ้าง และจะลงโทษกันอย่างไรต้องไปดูในรายละเอียด แล้วให้คณะกรรมการฯ สรุป และแถลงให้ชัดเจนว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง จะมีผลในทางกฎหมายอย่างไร โดยให้ปลัดฯ ดำเนินการตามระเบียบทางราชการได้ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เมื่อถามว่าตัวบุคคลที่พบว่ามีปัญหาสอดคล้องกับข้อมูลของทางกลุ่มแพทย์ชนบทหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ทาง นพ.เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ ที่ทำหน้าที่เป็นประธานสอบ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดกับตน ตนมีแต่ซักถามจากปลัดฯ เพราะปลัดฯ เป็นคนตั้งกรรมการไปสอบ และในวันนี้ (13 ต.ค.) คณะกรรมการคงสรุปได้ ส่วนผลสรุปหากไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ก็คงต้องให้ทำเพิ่ม เพราะตนต้องการให้เกิดความโปร่งใสทั้งหมด แต่หากยอมรับก็ให้ดำเนินการสอบต่อ เพราะมีกรรมการที่ทำงานอยู่ 2 ชุด และจากที่สอบถามจากทางปลัดฯ ก็พบว่ามีรายละเอียดพอสมควร
เมื่อถามต่อว่า รายละเอียดที่ว่าคือ มีตัวบุคคลชัดเจนใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า เข้าใจว่าอย่างนั้น
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ถูกครหาว่าผลที่ออกมานั้นเป็นเพียงแค่การตัดตอนเพื่อไม่ให้ถึงบุคคลที่สูงกว่า นายวิทยากล่าวว่า ก็ต้องพิจารณาโทษคนที่เป็นกรรมการ ถ้าพบว่ามีการตัดตอนจริง และถ้าเห็นว่ากรรมการสอบแล้วไม่เป็นธรรม ก็ต้องเรียกร้องให้มีการตั้งกรรมการมาสอบกรรมการอีกที ส่วนผลการสอบจะเป็นที่พอใจของกลุ่มแพทย์ชนบทหรือไม่ก็ต้องรอดูผลว่าเขาจะพอใจหรือไม่เพราะท่านเองก็ต้องช่วยไปเป็นกรรมการทบทวนรายการทั้งหมดด้วย
“ผมยืนยันว่าทางฝ่ายการเมืองไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว คนที่เป็นฝ่ายการเมืองของผมทั้งหมดท่านลาออกแล้ว เหลือผมคนเดียวแล้วยืนยันว่า ผมไม่ได้เข้าไปแทรกแซง และไม่ได้เข้าไปชี้นำกรรมการสอบ”นายวิทยากล่าว
เมื่อถามว่ามองเจตนาอย่างไร ที่มีออกมาเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการ กับรัฐมนตรีช่วยลาออก โดยก่อนก่อนหน้านี้ที่คุยกับนายกฯ ไม่มีเรื่องดังกล่าว นายวิทยากล่าวว่า ไม่ทราบ และยังไม่มีการคุยกัน และเดิมนั้นตั้งใจจะคุยกับท่าน และหลังจากที่ปลัดฯตั้งท่านเป็นกรรมการสอบ ตนก็ไม่กล้าเจอกรรมการสอบ ให้เขาสอบโดยอิสระ
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวงคิดว่าการจัดการปัญหาความไม่โปร่งใสตรงนี้เพียงพอหรือยังต้องตรวจสอบกันให้ทั่วประเทศอีก นายวิทยากล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่สอบทั้งหมดเป็นคนที่ร้องขึ้นมาทั้งหมด คือถ้าสอบแล้วไม่รู้จะสอบไปถึงไหนแล้วก็ต้องสรุป ตนคงไม่ลงไปสอบเอง และกระทรวงนี้เป็นกระทรวงของหมอเป็นหลัก หมอทั้งหมดช่วยกันทำแล้ว ถ้ายืนยันว่าบริสุทธิ์ก็ต้องเชื่อเขา แต่ถ้าเขายืนยันว่าต้องเอากันต่อ ต้องเอาคนนอกก็ว่ากันอีกที กับโครงการอื่นๆ หากมีการร้องมาก็ต้องตรวจสอบ ส่วนที่พบว่ามีความไม่โปร่งใสจะต้องตั้งกรรมการ ที่ผ่านมาก็บอกไปแล้วว่า เงินจะยังไม่จ่ายจนกว่าการสอบจะยุติเป็นรายๆไป รายการไหนที่โปร่งใสก็ต้องดำเนินการ
ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุม ครม.วันนี้ (13 ต.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในโครงการไทยเข้มแข็งว่า ตนได้รับรายงานจาก นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า วันนี้ (13 ต.ค.) จะมีการแถลงข่าวผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นใครบ้าง และจะลงโทษกันอย่างไรต้องไปดูในรายละเอียด แล้วให้คณะกรรมการฯ สรุป และแถลงให้ชัดเจนว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง จะมีผลในทางกฎหมายอย่างไร โดยให้ปลัดฯ ดำเนินการตามระเบียบทางราชการได้ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
เมื่อถามว่าตัวบุคคลที่พบว่ามีปัญหาสอดคล้องกับข้อมูลของทางกลุ่มแพทย์ชนบทหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ทาง นพ.เสรี หงส์หยก ผู้ตรวจราชการ ที่ทำหน้าที่เป็นประธานสอบ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดกับตน ตนมีแต่ซักถามจากปลัดฯ เพราะปลัดฯ เป็นคนตั้งกรรมการไปสอบ และในวันนี้ (13 ต.ค.) คณะกรรมการคงสรุปได้ ส่วนผลสรุปหากไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ก็คงต้องให้ทำเพิ่ม เพราะตนต้องการให้เกิดความโปร่งใสทั้งหมด แต่หากยอมรับก็ให้ดำเนินการสอบต่อ เพราะมีกรรมการที่ทำงานอยู่ 2 ชุด และจากที่สอบถามจากทางปลัดฯ ก็พบว่ามีรายละเอียดพอสมควร
เมื่อถามต่อว่า รายละเอียดที่ว่าคือ มีตัวบุคคลชัดเจนใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า เข้าใจว่าอย่างนั้น
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ถูกครหาว่าผลที่ออกมานั้นเป็นเพียงแค่การตัดตอนเพื่อไม่ให้ถึงบุคคลที่สูงกว่า นายวิทยากล่าวว่า ก็ต้องพิจารณาโทษคนที่เป็นกรรมการ ถ้าพบว่ามีการตัดตอนจริง และถ้าเห็นว่ากรรมการสอบแล้วไม่เป็นธรรม ก็ต้องเรียกร้องให้มีการตั้งกรรมการมาสอบกรรมการอีกที ส่วนผลการสอบจะเป็นที่พอใจของกลุ่มแพทย์ชนบทหรือไม่ก็ต้องรอดูผลว่าเขาจะพอใจหรือไม่เพราะท่านเองก็ต้องช่วยไปเป็นกรรมการทบทวนรายการทั้งหมดด้วย
“ผมยืนยันว่าทางฝ่ายการเมืองไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว คนที่เป็นฝ่ายการเมืองของผมทั้งหมดท่านลาออกแล้ว เหลือผมคนเดียวแล้วยืนยันว่า ผมไม่ได้เข้าไปแทรกแซง และไม่ได้เข้าไปชี้นำกรรมการสอบ”นายวิทยากล่าว
เมื่อถามว่ามองเจตนาอย่างไร ที่มีออกมาเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการ กับรัฐมนตรีช่วยลาออก โดยก่อนก่อนหน้านี้ที่คุยกับนายกฯ ไม่มีเรื่องดังกล่าว นายวิทยากล่าวว่า ไม่ทราบ และยังไม่มีการคุยกัน และเดิมนั้นตั้งใจจะคุยกับท่าน และหลังจากที่ปลัดฯตั้งท่านเป็นกรรมการสอบ ตนก็ไม่กล้าเจอกรรมการสอบ ให้เขาสอบโดยอิสระ
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวงคิดว่าการจัดการปัญหาความไม่โปร่งใสตรงนี้เพียงพอหรือยังต้องตรวจสอบกันให้ทั่วประเทศอีก นายวิทยากล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่สอบทั้งหมดเป็นคนที่ร้องขึ้นมาทั้งหมด คือถ้าสอบแล้วไม่รู้จะสอบไปถึงไหนแล้วก็ต้องสรุป ตนคงไม่ลงไปสอบเอง และกระทรวงนี้เป็นกระทรวงของหมอเป็นหลัก หมอทั้งหมดช่วยกันทำแล้ว ถ้ายืนยันว่าบริสุทธิ์ก็ต้องเชื่อเขา แต่ถ้าเขายืนยันว่าต้องเอากันต่อ ต้องเอาคนนอกก็ว่ากันอีกที กับโครงการอื่นๆ หากมีการร้องมาก็ต้องตรวจสอบ ส่วนที่พบว่ามีความไม่โปร่งใสจะต้องตั้งกรรมการ ที่ผ่านมาก็บอกไปแล้วว่า เงินจะยังไม่จ่ายจนกว่าการสอบจะยุติเป็นรายๆไป รายการไหนที่โปร่งใสก็ต้องดำเนินการ
