“อภิสิทธิ์” อ้างรอผลสอบชุด “เจริญ” ฟัน ส.ข.เอี่ยวทุจริตชุมชนพอเพียง ทั้งขอหารือกรรมการบริหารพรรคก่อนมีมติอีกครั้ง ยอมรับอาจกระทบฐานเสียงเมืองกรุงบ้าง ยันทำเพื่อความถูกต้อง เตรียมดำเนินการ อปท.อมเงินผู้สูงอายุ
วันนี้ (23 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าพบการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงอีกว่า ข้อมูลการทุจริตสามารถส่งมาให้ตนได้ตลอด เพราะเราไม่ได้เพิกเฉย เมื่อถามว่านายเจริญ คันธวงศ์ ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน พรรคประชาธิปัตย์ ได้รายงานผลการสอบสวนมาบ้างหรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้รายงานด้วยวาจา ซึ่งคงจะส่งเรื่องเป็นรายลักษณ์อักษรมาแล้วแต่บังเอิญว่าเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ตนไม่อยู่
เมื่อถามว่าจะจัดการกับ ส.ข.และสมาชิกพรรคทั้ง 4 คนที่มีส่วนพัวพันกับการทุจริตอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนกำลังรอดูผลสอบเพราะจะต้องเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ตามข้อบังคับพรรค เมื่อถามว่าโทษจะถึงขั้นขับออกจากพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า กก.บห.พรรคจะเห็นอย่างไร ต่อข้อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะกระทบฐานเสียงใน กทม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าเสียคนของเราไปก็ต้องกระทบอยู่แล้ว แต่เราต้องยืนยันในหลักการที่ถูกต้อง ความจริงคนเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคอยู่แล้วตามระบบของ สข.แต่เราก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน
ต่อข้อถามว่า หลังจากแก้ปัญหาดังกล่าวแล้วคิดว่าประชาชนยังจะมีความมั่นใจในโครงการนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเห็นผลสำรวจก็ยืนยันว่าประชาชนต้องการให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าต่อ ซึ่งการที่นายมีชัย วีระไวทยะ เข้ามาดูแลก็คงช่วยให้คนมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ไม่ทราบว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือรื้อแผนการดำเนินงานอย่างไรเพราะเพิ่งทาบทามเข้ามาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่หากมีการปรับเปลี่ยนอะไรก็ต้องรายงานให้ตนทราบเพราะโครงการนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ถ้าเป็นเรื่องภายในก็ให้นายมีชัยมีอิสระในการตัดสินใจเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อร้องเรียนว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอมเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงต้องดำเนินการเพราะเป็นเรื่องท้องถิ่น เนื่องจากเราให้ท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่การขึ้นทะเบียน การจ่ายเงิน แต่ท้องถิ่นไม่มีสิทธิ์ที่จะหักเงินส่วนนี้ออกไป ดังนั้นจะต้องไปทำให้ถูกต้องและท้องถิ่นก็ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนของตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการใช้เงินผิดประเภท โดยจะต้องมีการตรวจสอบทั่วประเทศ ที่ผ่านมาตนได้กำชับไปแล้วว่าให้จ่ายเงินให้รวดเร็ว เนื่องจากยังมีหลายพื้นที่มีปัญหาไม่ยอมจ่ายเงิน ล่าสุดได้รับข้อมูลว่าจ่ายเงินไปแล้วแต่มีการหักเงินออกไปซึ่งกำลังดำเนินการกันอยู่
