“วิทยา” สปิริตแรง!! ประกาศลาออกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบ หลังพบส่อมีโกงไทยเข้มแข็งแล้วลั่น ไทยเข้มแข็งบาทเดียวก็ยังไม่ได้โกง ยันไม่มีใครกดดันให้ออก ขอใช้เกียรติภูมิ ส.ส. 21 ปี รับผิดชอบ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบฯและระงับโครงการทั้งหมด จนกว่าจะมีผลสอบออกมาที่ชัดเจน โบ้ยสื่อถามสำนึก "มานิต" เอง เชื่อนายกฯจะเลือกคนดีมาแทนได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายวิทยา แก้วภราดัย แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่ง
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่ผลสอบของนพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่ามีความไม่ชอบมาพากลของโครงการไทยเข้มแข็งส่อไม่สุจริต โดยนายวิทยา กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวคณะกรรมการฯที่นพ.บรรลุได้สรุปผลการสอบสวน ตนได้อ่านรายงานทั้งหมดจากสื่อมวลชนเช้าวันนี้ โดยเป็นที่สรุปของคณะกรรมการฯว่า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่โดยบกพร่อง ก็ต้องขอบคุณคณะกรรมการฯ ที่ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุขเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของตน ทั้งนี้ขออนุญาตเรียนชี้แจงเป็นการเบื้องต้นว่า ตนได้บริหารงานกระทรวงสาธารณสุขมาจนถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลาครบ 1 ปี และได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ในส่วนของโครงการไทยเข็มแข็งเริ่มต้นด้วยการให้กรอบนโยบายในการจัดสรรงบ ประมาณ และก็ให้ความวางใจกับทุกคนในกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นข้าราชการและรับราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมานานทุกคน และทุกคนได้ยืนยันว่าได้จัดทำตามกรอบนโนบายที่ให้ไว้ เมื่อทำตามกรอบนโยบายที่ให้ไว้ หลังจากนั้นก็ปรากฏข่าวคราวว่า มีพฤติกรรมบางอย่างที่ส่อไปในทิศทางว่า มีการเตรียมการทุจริต
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ตนตัดสินใจที่จะป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อเม็ดเงินทุกบาทของแผ่นดิน โดยการสั่งตั้งคณะกรรมการฯขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน กระทรวงสาธารณสุข กรณีมีการร้องเรียนว่าราคาบางอย่างเกินความเป็นจริง ก็มอบหมายตั้งคณะกรรมการฯขึ้นทบทวนทุกรายการ ราคา และที่สำคัญตนสั่งให้ยุติโครงการทุกโครงการในโครงการไทยเข็มแข็ง จนกว่าการสอบสวนจะเป็นที่ประจักษ์ และการทบทวนจะเป็นที่ยอมรับกันในกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้นตนก็ได้เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อความโปร่งใสของกระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ท่านตั้งนายแพทย์บรรลุ และพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ สอบสวนกรณีที่เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด และเมื่อผลการสอบออกมาเช่นนั้น ตนก็คิดว่าได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการสอบสวนที่ยืนยันว่า ตนบกพร่องต่อหน้าที่
“แต่ สิ่งที่ผมคิดว่าจำเป็นต้องเรียนนายกรัฐมนตรี และได้กราบเรียนไปแล้ว เป็นการตัดสินใจของผมก็คือ ผมจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกประชาชน เมื่อประชาชนรู้สึกว่ากระทรวงนี้มีความบกพร่อง มีการทุจริต สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดสำหรับระบบประชาธิปไตย สำหรับการเมือง และสำหรับเสถียรภาพรัฐบาล ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทั้งหมดว่า โครงการไทยเข็มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขบาทเดียวยังไม่มีใครได้โกง ผมยังไม่เคยได้อนุมัติงบประมาณแม้แต่บาทเดียวไปให้ใคร และผมได้ใช้กระบวนการระมัดระวังอย่างถึงที่สุด จนตั้งคณะกรรมการฯที่มีนายแพทย์บรรลุเป็นประธานในการสอบทั้งหมด เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวล ทุกบาททุกสตางค์ยังไม่มีการทุจริต แต่เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความรู้สึกอารมณ์ของพี่น้องประชาชน วันนี้คณะกรรมการฯบอกผมบกพร่อง ผมก็จะรับผิดชอบต่ออารมณ์ความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน และผมได้เรียนนายกรัฐมนตรีแล้วว่า วันพรุ่งนี้(30 ธ.ค.)ผม จะยื่นใบลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีเพื่อยืนยันว่า นักการเมืองบางครั้งก็สามารถทำสิ่งที่ประชาชนต้องการได้ โดยไม่ฝืนความรู้สึกของพี่น้องประชาชน” นายวิทยา กล่าว
ทั้งนี้นายวิทยา ยืนยันว่า การยื่นใบลาออกเป็นเรื่องที่ตนตัดสินใจไม่มีใครกดดัน ขณะที่การแสดงความรับผิดชอบก็จะไปสั่งการในส่วนราชการที่บกพร่องส่วนไหนตามที่เอกสารที่มอบจะมีการดำเนินการ และเสนอให้นายกฯให้ดำเนินการสอบเรื่องราวทั้งหมดให้กระจ่าง เพราะว่าข้อกล่าวหาทั้งหมด คือ มีการเตรียมการทุจริต ซึ่งตนถูกข้อกล่าวหาบกพร่อง ก็พร้อมแสดงความรับผิดชอบ ส่วนเรื่องของเอกสารการสอบค่อยว่ากันอีกที
นายวิทยา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้ถามตนว่า ตนตัดสินใจเรื่องนี้จริงหรือไม่ ตนก็ยืนยันว่า ตนไม่อยากให้เป็นภาระต่อนายกรัฐมนตรี และเป็นภาระต่อแผ่นดิน และเรียนแล้วว่าตัดสินใจอย่างนี้ช่วงเทศกาลปีใหม่ให้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนกรณีนายมานิต นพอมรวดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะลาออกหรือไม่ ตนไม่ได้ซักถาม เพราะเป็นการตัดสินใจส่วนตัว ซึ่งหากรมช.สาธารณสุขยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะลาออกจะส่งผลต่อภาพลักษณ์รัฐบาลหรือไม่ ต้องไปถามเอาเอง ส่วนข้อเท็จจริงตนก็จะพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ขอเวลา แต่คิดว่าวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า แค่ว่าบกพร่องก็พร้อมจะรับผิดชอบ แต่กระบวนการหลังจากที่เกิดขึ้นในกระทรวงฯก็จะให้ความร่วมมือกับภาคประชาชน ทั้งหมดในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยตนคิดว่ากระทรวงฯต้องตั้งกรรมการสอบ โดยขณะนี้มีคณะกรรมการขึ้นมาทบทวนราคาทั้งหมด คณะกรรมการชุดทบทวนราคาซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารกระทรวงระดับรองปลัด จนถึงตัวแทนแพทย์ชนบท ทั้งหมดจะให้คำตอบได้ว่า ใครเป็นคนกำหนดราคาอย่างนั้นขึ้นมา ส่วนจะมีการวางยาในกระทรวงฯหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนไม่อยากจะตั้งใจให้กระทรวงนี้ได้วางยาใคร ตนยืนยันกระทรวงนี้ให้ยากับคนได้ แต่ไม่ควรจะวางยาใคร
“ผมก็อยากให้ประชาชนประเมิน อย่าให้ผมประเมินตัวเอง ซึ่ง เรื่องนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์เอง ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ไม่มีคำพูดจากใครในพรรคประชาธิปัตย์ กดดันให้ผมลาออก ทุกคนให้กำลังใจ แต่คิดว่า ผมทำการเมืองมา 21 ปีทำหน้าที่มาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยมีตำแหน่งมาก่อนเลยในชีวิต ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ได้รับความไว้วางใจกับรมว.สาธารณสุข ไม่เคยเป็นที่ปรึกษารมว. ไม่เคยเป็นเลขารัฐมนตรี ไม่เคยเป็นรมช.เพราะฉะนั้นต้องรับผิดชอบกับเกียรติภูมิทั้งหมด” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ตนไม่กังวลว่าฝ่ายค้านจะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะว่าตนไปชี้แจงต่อกรรมาธิการสาธารณสุข ซึ่งประธานเป็นฝ่ายค้าน เชื่อว่าตนสุจริต ส่วนเทปการเข้าชี้แจงตนก็ต้องนำมาไว้ฟัง เพราะเป็นคำให้การของตัวเองมันก็เป็นบันทึกในเสี้ยวชีวิตของตนส่วนหนึ่ง หลังจากนี้ตนจะกลับไปเป็น ส.ส. ทั้งนี้ตนยืนยันว่าตนได้ใช้มาตรการป้องกันความเสียหายอย่างถึงที่สุด และยืนยันว่าบาทเดียวไทยเข้มแข็ง ยังไม่มีใครได้โกง เพราะฉะนั้น ใครที่มาอยู่ต่อจากตนต้องรักษาเงินของประชาชนไว้ และเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจของนายกฯในการเลือกคนขึ้นมาแทน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายวิทยา แก้วภราดัย แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่ง
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่ผลสอบของนพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่ามีความไม่ชอบมาพากลของโครงการไทยเข้มแข็งส่อไม่สุจริต โดยนายวิทยา กล่าวว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวคณะกรรมการฯที่นพ.บรรลุได้สรุปผลการสอบสวน ตนได้อ่านรายงานทั้งหมดจากสื่อมวลชนเช้าวันนี้ โดยเป็นที่สรุปของคณะกรรมการฯว่า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่โดยบกพร่อง ก็ต้องขอบคุณคณะกรรมการฯ ที่ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุขเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของตน ทั้งนี้ขออนุญาตเรียนชี้แจงเป็นการเบื้องต้นว่า ตนได้บริหารงานกระทรวงสาธารณสุขมาจนถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลาครบ 1 ปี และได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ในส่วนของโครงการไทยเข็มแข็งเริ่มต้นด้วยการให้กรอบนโยบายในการจัดสรรงบ ประมาณ และก็ให้ความวางใจกับทุกคนในกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นข้าราชการและรับราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมานานทุกคน และทุกคนได้ยืนยันว่าได้จัดทำตามกรอบนโนบายที่ให้ไว้ เมื่อทำตามกรอบนโยบายที่ให้ไว้ หลังจากนั้นก็ปรากฏข่าวคราวว่า มีพฤติกรรมบางอย่างที่ส่อไปในทิศทางว่า มีการเตรียมการทุจริต
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ตนตัดสินใจที่จะป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อเม็ดเงินทุกบาทของแผ่นดิน โดยการสั่งตั้งคณะกรรมการฯขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน กระทรวงสาธารณสุข กรณีมีการร้องเรียนว่าราคาบางอย่างเกินความเป็นจริง ก็มอบหมายตั้งคณะกรรมการฯขึ้นทบทวนทุกรายการ ราคา และที่สำคัญตนสั่งให้ยุติโครงการทุกโครงการในโครงการไทยเข็มแข็ง จนกว่าการสอบสวนจะเป็นที่ประจักษ์ และการทบทวนจะเป็นที่ยอมรับกันในกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนั้นตนก็ได้เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อความโปร่งใสของกระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ท่านตั้งนายแพทย์บรรลุ และพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ สอบสวนกรณีที่เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด และเมื่อผลการสอบออกมาเช่นนั้น ตนก็คิดว่าได้รับความเป็นธรรมจากคณะกรรมการสอบสวนที่ยืนยันว่า ตนบกพร่องต่อหน้าที่
“แต่ สิ่งที่ผมคิดว่าจำเป็นต้องเรียนนายกรัฐมนตรี และได้กราบเรียนไปแล้ว เป็นการตัดสินใจของผมก็คือ ผมจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกประชาชน เมื่อประชาชนรู้สึกว่ากระทรวงนี้มีความบกพร่อง มีการทุจริต สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดสำหรับระบบประชาธิปไตย สำหรับการเมือง และสำหรับเสถียรภาพรัฐบาล ผมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทั้งหมดว่า โครงการไทยเข็มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขบาทเดียวยังไม่มีใครได้โกง ผมยังไม่เคยได้อนุมัติงบประมาณแม้แต่บาทเดียวไปให้ใคร และผมได้ใช้กระบวนการระมัดระวังอย่างถึงที่สุด จนตั้งคณะกรรมการฯที่มีนายแพทย์บรรลุเป็นประธานในการสอบทั้งหมด เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวล ทุกบาททุกสตางค์ยังไม่มีการทุจริต แต่เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความรู้สึกอารมณ์ของพี่น้องประชาชน วันนี้คณะกรรมการฯบอกผมบกพร่อง ผมก็จะรับผิดชอบต่ออารมณ์ความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน และผมได้เรียนนายกรัฐมนตรีแล้วว่า วันพรุ่งนี้(30 ธ.ค.)ผม จะยื่นใบลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีเพื่อยืนยันว่า นักการเมืองบางครั้งก็สามารถทำสิ่งที่ประชาชนต้องการได้ โดยไม่ฝืนความรู้สึกของพี่น้องประชาชน” นายวิทยา กล่าว
ทั้งนี้นายวิทยา ยืนยันว่า การยื่นใบลาออกเป็นเรื่องที่ตนตัดสินใจไม่มีใครกดดัน ขณะที่การแสดงความรับผิดชอบก็จะไปสั่งการในส่วนราชการที่บกพร่องส่วนไหนตามที่เอกสารที่มอบจะมีการดำเนินการ และเสนอให้นายกฯให้ดำเนินการสอบเรื่องราวทั้งหมดให้กระจ่าง เพราะว่าข้อกล่าวหาทั้งหมด คือ มีการเตรียมการทุจริต ซึ่งตนถูกข้อกล่าวหาบกพร่อง ก็พร้อมแสดงความรับผิดชอบ ส่วนเรื่องของเอกสารการสอบค่อยว่ากันอีกที
นายวิทยา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้ถามตนว่า ตนตัดสินใจเรื่องนี้จริงหรือไม่ ตนก็ยืนยันว่า ตนไม่อยากให้เป็นภาระต่อนายกรัฐมนตรี และเป็นภาระต่อแผ่นดิน และเรียนแล้วว่าตัดสินใจอย่างนี้ช่วงเทศกาลปีใหม่ให้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนกรณีนายมานิต นพอมรวดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะลาออกหรือไม่ ตนไม่ได้ซักถาม เพราะเป็นการตัดสินใจส่วนตัว ซึ่งหากรมช.สาธารณสุขยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะลาออกจะส่งผลต่อภาพลักษณ์รัฐบาลหรือไม่ ต้องไปถามเอาเอง ส่วนข้อเท็จจริงตนก็จะพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ขอเวลา แต่คิดว่าวันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า แค่ว่าบกพร่องก็พร้อมจะรับผิดชอบ แต่กระบวนการหลังจากที่เกิดขึ้นในกระทรวงฯก็จะให้ความร่วมมือกับภาคประชาชน ทั้งหมดในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยตนคิดว่ากระทรวงฯต้องตั้งกรรมการสอบ โดยขณะนี้มีคณะกรรมการขึ้นมาทบทวนราคาทั้งหมด คณะกรรมการชุดทบทวนราคาซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารกระทรวงระดับรองปลัด จนถึงตัวแทนแพทย์ชนบท ทั้งหมดจะให้คำตอบได้ว่า ใครเป็นคนกำหนดราคาอย่างนั้นขึ้นมา ส่วนจะมีการวางยาในกระทรวงฯหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนไม่อยากจะตั้งใจให้กระทรวงนี้ได้วางยาใคร ตนยืนยันกระทรวงนี้ให้ยากับคนได้ แต่ไม่ควรจะวางยาใคร
“ผมก็อยากให้ประชาชนประเมิน อย่าให้ผมประเมินตัวเอง ซึ่ง เรื่องนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์เอง ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ไม่มีคำพูดจากใครในพรรคประชาธิปัตย์ กดดันให้ผมลาออก ทุกคนให้กำลังใจ แต่คิดว่า ผมทำการเมืองมา 21 ปีทำหน้าที่มาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เคยมีตำแหน่งมาก่อนเลยในชีวิต ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ได้รับความไว้วางใจกับรมว.สาธารณสุข ไม่เคยเป็นที่ปรึกษารมว. ไม่เคยเป็นเลขารัฐมนตรี ไม่เคยเป็นรมช.เพราะฉะนั้นต้องรับผิดชอบกับเกียรติภูมิทั้งหมด” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ตนไม่กังวลว่าฝ่ายค้านจะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะว่าตนไปชี้แจงต่อกรรมาธิการสาธารณสุข ซึ่งประธานเป็นฝ่ายค้าน เชื่อว่าตนสุจริต ส่วนเทปการเข้าชี้แจงตนก็ต้องนำมาไว้ฟัง เพราะเป็นคำให้การของตัวเองมันก็เป็นบันทึกในเสี้ยวชีวิตของตนส่วนหนึ่ง หลังจากนี้ตนจะกลับไปเป็น ส.ส. ทั้งนี้ตนยืนยันว่าตนได้ใช้มาตรการป้องกันความเสียหายอย่างถึงที่สุด และยืนยันว่าบาทเดียวไทยเข้มแข็ง ยังไม่มีใครได้โกง เพราะฉะนั้น ใครที่มาอยู่ต่อจากตนต้องรักษาเงินของประชาชนไว้ และเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจของนายกฯในการเลือกคนขึ้นมาแทน
