xs
xsm
sm
md
lg

หวัด 09 ตายเพิ่ม 12 อีสานตายมากสุด 7 ราย ยอดสะสมพุ่ง 142 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
สธ.เผยยอดตายหวัดใหญ่ 2009 สัปดาห์นี้ตาย 12 รวม พบอีสานป่วยมากสุด จับตาสถานการณ์ใกล้ชิดโรคใกล้ชิด ทั้งหวัดนก หวัดใหญ่ ปอดบวม พร้อมตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ระลอก 2 องค์การอนามัยโลกแนะไทยอย่าประมาทปรับแผนรับมือระบาดต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 9 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ศ. พญ.สยมพร ศิรินาวิน ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ รพ.รามาธิบดี นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา และ พญ.มัวรีน เบอร์มิงแฮม ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย (Dr. Maureen Birmingham, WHO Representative to Thailand ) ร่วมกันแถลงข่าวไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ

นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ของประเทศไทย สัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 30 ส.ค.-5ก.ย. มีผู้เสียชีวิต 12 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 9 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตในภาคอีสาน 7 ราย ภาคใต้ 3 ราย ภาคเหนือ 1 ราย ภาคตะวันออก 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 142 ราย ขณะนี้สถานการณ์จะทรงตัว 3-4 สัปดาห์และค่อยๆ ลดลง ส่วนแนวโน้มการแพร่ระบาดในประเทศไทยยังกระจายออกไปสู่ทั่วประเทศต่อเนื่อง โดยมีผู้ติดเชื้อสูงสุดในช่วงปลายเดือน ก.ค. สำหรับจังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงในภาคอีสาน ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ภาคเหนือได้แก่ เชียงใหม่ กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร ภาคตะวันออกได้แก่ ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี ภาคกลางได้แก่ ลพบุรี สระบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ภาคใต้ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ภูเก็ต

นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงปลายฝน ต้นหนาว ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดนก ซึ่งหลายพื้นที่กลายเป็นโรคประจำถิ่น สำนักระบาดวิทยาจึงได้ปรับระบบการรายงานผู้ป่วยใหม่ โดยให้ทุกพื้นที่รายงานทั้งผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก และปอดบวม ทุกสัปดาห์ แม้จะไม่มีผู้ป่วยก็ตาม เพื่อให้ติดตามสถานการณ์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

นายวิทยา กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ดูเหมือนประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤตของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้ว เนื่องจากพบว่าอัตราการระบาดเริ่มชะลอตัวลง แต่ความจริงแล้วองค์การอนามัยโลก(WHO)ได้มีประกาศเตือนไปยังประเทศทั่วโลกที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ประจำปี คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จำนวนมาก และคาดว่าในสหรัฐอเมริกาอาจมีผู้เสียชีวิตถึง 90,000 ราย สำหรับประเทศไทยนักระบาดวิทยาคาดว่า มีผู้ติดเชื้อแล้ว 2 ล้านคน มีบางส่วนหายป่วยแล้วและรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ขณะที่คนอีก 62 ล้านคนยังไม่มีภูมิคุ้มกัน และยังตรวจพบผู้ป่วยใหม่ทุกวัน ทำให้ยืนยันว่ายังมีการระบาดอยู่ในประเทศไทย

“มาตรการเดิมที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศไว้ต้องใช้ต่อไป คือ เมื่อป่วยให้หยุดอยู่บ้าน โดยจะต้องไม่ถือเป็นวันลา หากมีโรคประจำตัวให้รีบพบแพทย์เพื่อให้ได้รับยาทันที ส่วนประชาชนทั่วไปหากป่วยและไม่ดีขึ้น 2 วันควรไปพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว จะมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรป อเมริกา จะเข้ามาประเทศไทยจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเพิ่มการเฝ้าระวัง”นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและไวรัสวิทยา จากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขและคณะแพทยศาสตร์ต่างๆ โดยมี ศ. นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ เป็นที่ปรึกษา เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์การระบาดระลอกที่ 2 ของประเทศอย่างใกล้ชิด และเตรียมการรองรับตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ซึ่งให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น หอบหืด เบาหวาน โรคหัวใจ ภูมิต้านทานต่ำ และเตรียมพร้อมในการดูแลผู้ป่วยอาการรุนแรงที่หากเกิดการระบาดจริงจะมีมากขึ้น รวมทั้งเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลง สายพันธุ์ของเชื้อและการดื้อยา

พญ.มัวรีน กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมไม่ผิดไปจากที่คาดหมาย เชื้อไวรัสยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมซึ่งองค์การอนามัยโลก ( WHO) อยากให้ทุกประเทศติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ของตัวเองอย่างใกล้ชิด โดยการระบาดของในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน โดยประเทศซีกโลกด้านเหนือกำลังเข้าฤดูกาลของการระบาด ทำให้มีอัตราการป่วยเริ่มเพิ่มขึ้น โดยจะเห็นได้ชัดเจนว่าการระบาดยังเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ H1N1 ส่วนประเทศในเขตร้อนมีทั้งประเทศที่มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้นและการระบาดลดลงโดยเฉพาะประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ส่วนไทยและบรูไนการระบาดทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตามทุกประเทศต้องเตรียมการรับมือเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ต่อไป

“ขณะนี้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 กระจายไป 188 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศมีผ่านการระบาดมาแล้ว ไม่ควรประมาทแต่ต้องเตรียมแผนรับมือการระบาดในระลอกที่ 2 โดยจะต้องมีการปรับปรุงแผนเพื่อนำมาใช้กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในเรื่องของการรักษา วัคซีน ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกในการสรุปบทเรียนและปรับปรุงแผนแล้วในหลายด้าน”พญ.มัวรีนกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น