xs
xsm
sm
md
lg

“วิทยา” เผยผู้ป่วยหวัดที่ รพ.ราชวิถีลดลง หลัง ปชช.ตื่นตัว - อภ.คาดปลาย ส.ค.นี้ทดลองวัคซีนในสัตว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ.จัดส่งคู่มือให้แพทย์ใช้รักษาผู้ป่วยหวัด 2009 วันนี้จำนวน 60,000 เล่ม พร้อมแจกคู่มือดูแลตนเองภาคประชาชนด้วย โต้ พท.เรื่องสั่งซื้อวัคซีนฯ เผยตัวเลขคนป่วยที่ รพ.ราชวิถีลดลง เหตุประชาชนตื่นตัวมากขึ้น เตรียมประสาน ศธ.และ ก.แรงงานร่วมทำงานป้องกันโรคอย่างบูรณาการ “มาร์ค” มั่นใจแจกคู่มือหวัด2009 ช่วยประชาชนเข้าใจโรคชัดขึ้น ขอรอดูตัวเลขการแพร่ระบาดอีก 1-2 วัน จะทราบว่าโรงพยาบาล คลินิก รับมือผู้ป่วยไหวหรือไม่ เชื่อวัคซีนสั่งจากต่างประเทศ 2 ล้านโดส เพียงพอ “มานิต” พร้อมหนุนแม่บ้านโอทอปทุกจังหวัดผลิตหน้ากากอนามัยมาตรฐานคุณภาพดีขาย เตรียมประสานร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น กว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศ กระจายสินค้าซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้านองค์การเภสัชฯ เตรียมเพาะเชื้อไวรัสในไข่ เตรียมทดลองในสัตว์-คน ปลายส.ค.นี้ คาดปลายปีไทยได้วัคซีนหวัดใช้



วันนี้ (20 ก.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการจัดทำคู่มือแพทย์ที่ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อหรืออาจติดเชื้อไวรัสชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้คู่มือแพทย์ได้จัดพิมพ์เสร็จแล้วจำนวน 60,000 เล่ม วันนี้จะส่งให้แพทย์ในกรุงเทพฯ ก่อน และพรุ่งนี้จะส่งไปยังแพทย์ในต่างจังหวัด โดยเนื้อหามี 12 หน้าพิมพ์ 4 สี จะบอกถึงระยะฟักตัวของโรค การแพร่เชื้อ การพิจารณารับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล และการให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ซึ่งจะคำนวณอัตราการหายใจของผู้ป่วยในแต่ละช่วงอายุ มีตารางขั้นตอนรักษาแบ่งเป็นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาการไม่รุนแรงแต่เป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงของโรค มีการคำนวณการให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ตามน้ำหนักและอายุของผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในต้องสงสัย การป้องกันการแพร่เชื้อในโรงพยาบาล

นายวิทยากล่าวต่อว่า ส่วนคู่มือดูแลตนเองภาคประชาชนคาดว่าจะพิมพ์เสร็จสิ้นทั้งหมดในเย็นวันนี้ ส่วนที่จัดพิมพ์เสร็จก่อนหน้านั้นจะแจกจ่ายในช่วงบ่ายวันนี้ สำหรับกรณีพรรคเพื่อไทยกล่าวโจมตีเรื่องการสั่งซื้อวัคซีนไข้หวัด 2009 จากต่างประเทศตนไม่หวั่นไหว ที่ผ่านมาพยายามรับฟังคำแนะนำของทุกฝ่าย แต่จะให้คืนการสั่งซื้อวัคซีนฯ คงเป็นไปไม่ได้ เกรงว่าต่างชาติจะหัวเราะเยาะ เนื่องจากวัคซีนดังกล่าวทั่วโลกต่างทยอยสั่งซื้อไว้ให้เพียงพอกับประชากรของประเทศในสภาวการณ์ที่แพร่ระบาด ขณะนี้ทราบว่ากระแสความตื่นตระหนกของประชาชนลดลงจากตัวเลขผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลราชวิถี กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่ง พญ.วารุณี จินารัตน์ ผอ.โรงพยาบาลราชวิธี ยืนยันชัดเจนว่า จำนวนผู้ป่วยนอกที่เข้ารับการรักษาพยาบาลโรคไข้หวัดอยู่ในระดับปกติแล้ว โดยได้สั่งการให้มีการติดตามว่าสถานการณ์ผู้ป่วยนอกที่เข้ารักษาโรคไข้หวัดลดลงเฉพาะโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ แต่เพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลต่างจังหวัดหรือไม่ เพื่อพิจารณาว่าโรคเริ่มแพร่ระบาดระดับหมู่บ้านในต่างจังหวัดแล้วหรือไม่

“ข้อมูลนี้สะท้อนใน 2 ด้าน คือ 1. ประชาชนเข้าใจโรคและการดูแลรักษาตนเองมากขึ้น รับรู้ว่าถ้ามีอาการป่วยเล็กน้อยให้พักผ่อนอยู่กับบ้าน แต่หากไข้สูงเป็นเวลา 2 วันแล้วไม่ลดลงให้รับมาพบแพทย์ รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเมื่อป่วยไข้รีบมาพบแพทย์ทันที และ2.จำนวนผู้ป่วยโรคนี้ลดลง ซึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ติดตามถึงเหตุผลที่แท้จริงแล้ว”นายวิทยากล่าว

ห่วงป่วยไปคลินิกไม่มียาต้านไวรัส เสี่ยงอันตราย
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายวิทยา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ. นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ. นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ และ นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) หารือร่วมกับสื่อมวลชนประจำกระทรวงสาธารณสุขถึงแนวทางการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

นายวิทยา กล่าวว่า นักวิชาการได้รายงานให้ตนทราบว่าผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไม่ควรออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกาย ส่งผลให้เกิดการหายใจแรงเมื่อมีอาการเหนื่อย ทำให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ลงสู่ปอดได้เร็วกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้ออกกำลังกายขณะป่วย และที่เป็นห่วงมากขณะนี้ คือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในคลินิกแพทย์ต่างๆ โดยแพทย์ให้ยาลดไข้มารับประทาน แต่อาการไข้ไม่ลดลงแล้วกลับไปพบแพทย์ในคลินิกเดิมซ้ำอีกครั้ง แพทย์ได้ให้ยาลดไข้มาเพิ่มอีก เท่ากับว่าผู้ป่วยมีอาการไข้อยู่ถึง 4 วัน แต่ไม่มีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลทำให้เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตได้

“หากแพทย์คลินิกใดที่ดำเนินการลักษณะนี้ เท่ากับไม่มีความตื่นตัวในการช่วยเหลือผู้ป่วยให้หายจากโรคนี้ เพราะสถานการณ์ที่ผู้ป่วยไข้ไม่ลดลงภายใน 2 วัน แพทย์ต้องรีบแนะนำให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อรับยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ เนื่องจากคลินิกต่างๆไม่ได้มีการสำรองยาต้านไวรัสไว้ มิเช่นนั้นจะเป็น อันตรายกับผู้ป่วย”นายวิทยากล่าว

“มาร์ค” สุดมั่นคู่มือหวัดช่วย ปชช.เข้าใจโรคมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ตนเฝ้าดูตัวเลขการแพร่ระบาดอยู่ตลอด และตั้งใจว่าจะรอดูอีก 1-2 วันเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น หลักในการบริหารคือทำอย่างไรให้มีชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อ ซึ่งเราก็ต้องดูว่าสถานการณ์ในปัจจุบันเป็นอย่างไร และดูตัวเลขผู้ที่ไปรักษาตัวในสถานพยาบาลว่ากำลังของสถานพยาบาลเพียงพอต่อการรองรับหรือไม่ ซึ่งตนให้กระทรวงสาธารณสุขรายงานเข้ามาทุกวัน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการแจกคู่มือการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไว้หวัดสายพันธุ์ใหม่ให้ประชาชนเป็นวันแรกว่า จะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ดีขึ้น เพราะบางทีการพยายามไปเรียกร้องคำตอบแค่คำเดียวว่าจะรุนแรงหรือไม่รุนแรง ก็จะเกิดความสับสน แต่พอมีคู่มือก็จะได้คำตอบว่ารุนแรงเพราะอะไร ไม่รุนแรงเพราะอะไร ทั้งนี้คิดว่าความเข้าใจจะป็นตัวที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ ดังนั้นหลังมีคู่มือออกมา ก็จะเป็นทางหนึ่งให้ประชาชนเริ่มมีความเข้าใจต่อเรื่องนี้ดีขึ้น และเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม เท่าที่ฟังจากกระทรวงสาธาณสุข ก็บอกว่าความเข้าใจเริ่มดีขึ้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องติดตามว่ามีปัญหาการดื้อยาหรือไม่ เพราะประสบการณ์ของไวรัสในลักษณะนี้มันมีกรณีเกิดการกลายพันธุ์หรือการระบาดรอบ2 และรอบ3 ที่รุนแรงกว่า จึงต้องจับตาดูเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามการให้ยาของเราที่ผ่านมา น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ทำให้ความเสี่ยงเรื่องนี้มีค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับหลายๆ แห่ง แต่เราก็ต้องยอมรับว่าถ้าเกิดการดื้อยา ซึ่งในต่างประเทศเริ่มมีแล้ว แต่ยังไม่มีเรื่องการกลายพันธุ์ก็ต้องระวัง เพราะการเดินทางไปมาของคนยุคนี้มีมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เฝ้าระวังโรคหวัดหมูไปควบคู่กันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องโรคหวัดหมู ครม. ได้อนุมัติแผนป้องกันไปแล้ว ซึ่งเราก็ต้องเฝ้าระวังและเตรียมการให้ดีที่สุด แต่สำหรับเรื่องวัคซีนและยาในกรณีที่เกิดการกลายพันธุ์ ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เชี่ยวชาญที่จะคิดค้นเรื่องนี้มาให้ทันกาล เพราะตอนนี้ขนาดวัคซีนตัวปัจจุบันก็ยังไม่เรียบร้อย ทั้งนี้ในการเตรียมสำรองวัคซีน โดยหลักต้องคำนวนตามสัดส่วนประชากร ซึ่งไทยจองไว้ 2 ล้านโดส ซึ่งเกิดจาดสัดส่วนดังกล่าว อย่างไรก็ตามต้องให้กับคนที่จำเป็นก่อน

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีโรคระบาดในการเป็นประธานเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่จ.ภูเก็ตด้วยตอนหนึ่งว่า โรคระบาดได้มีการแพร่ขยายไปทั่วภูมิภาคเอเชีย หน่วยงานด้านสาธารณสุขจะกำหนดมาตรการกักกังและตรวจสอบ รวมทั้งการแบ่งปันข้อมูลและผลตรวจจากห้องปฎิบัติการ อาสาสมัครและวัคซีนทั่วภูมิภาคจะถูกนำมาใช้อย่างรวดเร็ว ตามระเบียบปฎิบัติโดยทั่วไป หากพบกรณีฉุกเฉินในพื้นที่หรือนอกภูมิภาค หรือมีการร้องขอความช่วยเหลือ อาเซียนจะมีการดำเนินการในฐานะองค์กรภูมิภาคในเวลาที่เหมาะสม

เตรียมคุยเซเว่นฯ นำหน้ากากอนามัยโอท็อปขาย 24 ชม.

นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมคณะ เดินทางไปแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ เอกสารแผ่นพับคำแนะนำในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ตลาดปากท่อ อ.ปากท่อ และที่วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยและล้างมือเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่

นายมานิตกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดในโลกที่ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้สำเร็จ การแพร่กระจายของเชื้อโรคกระจายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งแนวโน้มของประเทศไทยก็เช่นกัน ซึ่งในที่สุดจะมีผู้ป่วยทุกจังหวัด มาตรการรับมือที่สำคัญขณะนี้คือ การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ต้องได้มาตรฐาน รวดเร็วและเพียงพอ และการลดการแพร่กระจายเชื้อ โดยใช้เครื่องมือที่ไม่ใช่ยาป้องกัน ได้แก่ หน้ากากอนามัยและการล้างมือ กำจัดเชื้อที่ติดมากับมือหลังจากสัมผัสสิ่งของต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าสู่ร่างกาย ทำได้ 2 วิธี คือ การล้างสบู่ และล้างด้วยเจลแอลกอฮอล์

นายมานิตกล่าวต่อว่า ขณะนี้หน้ากากอนามัยชนิดกระดาษที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง อาจมีปัญหาไม่เพียงพอ เพราะความต้องการมีมาก สธ.ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประสานแม่บ้านโอท็อป จัดทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ออกจำหน่ายในแต่ละจังหวัด เพราะใช้แล้วซักทำความสะอาดได้ และใช้ได้หลายครั้งจนกว่าจะชำรุด ขณะนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากจากผู้บริหารร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ซึ่งมีกว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศ ยินดีรับและเป็นจุดวางจำหน่ายหน้ากากอนามัยจากโอท็อป ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถซื้อหาได้ตลอด 24 ชั่วโมง


นายมานิตกล่าวต่อไปว่า สำหรับการดูแลผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่อาการไม่รุนแรง เมื่อป่วยแล้วสามารถพักรักษาอาการอยู่ที่บ้านได้ ซึ่งอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายเองได้ ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มใหญ่มีจำนวนประมาณร้อยละ 95 ของผู้ป่วย หากได้รับคำแนะนำการดูแลอย่างดีแล้ว มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาอาการแทรกซ้อนใดๆ เกิดขึ้น หรือหากมีก็จะได้รับคำแนะนำให้ไปพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการกินยาต้านไวรัสให้ครบตามแพทย์สั่ง โดยให้ติดตามอาการทุกวันเพื่อให้คำแนะนำเพิ่มเติม จนกว่าอาการของผู้ป่วยจะดีขึ้น ซึ่งจะป้องกันอาการแทรกซ้อนรุนแรง และป้องกันการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้อีกทางหนึ่ง

อภ.เตรียมเพาะเชื้อไวรัสในไข่ คาดปลายปีไทยได้วัคซีนหวัดใช้
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมพร้อมเพาะเลี้ยงเชื้อไวรัส เพื่อฉีดเข้าไข่ไก่ที่นำเข้าจากเยอรมนี จำนวน 350 ฟอง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้สามารถเคลื่อนย้ายเชื้อไวรัสและไข่ไปผลิตที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จ.นครปฐม ได้ หากทุกขั้นตอนเป็นผลสำเร็จจะได้วัคซีนเบื้องต้นเพื่อใช้ในการทดลองในสัตว์และคน ระหว่างวันที่ 20-25 สิงหาคม นี้


อย่างไรก็ตาม ถ้าผ่านกระบวนการทดลองการวิจัยว่าปลอดภัย และได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ การขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ปลายปีนี้ ไทยจะมีวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ใช้ ส่วนกรณีที่ประชาชนบางคนไม่มั่นใจการผลิตวัคซีนของไทยนั้น ขอชี้แจงว่าไทยมีประสบการณ์การผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลมาแล้วในระดับห้องปฏิบัติการ และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก เชื่อว่าหากขั้นตอนการผลิตวัคซีนไม่ผิดพลาดก็จะเป็นผลสำเร็จเช่นกัน

กำลังโหลดความคิดเห็น