xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ยันไม่ปิดประเทศแก้หวัด-เชื่อมั่นเอาอยู่ ยกข้อมูล “วิกิพีเดีย” ไทยตายน้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“มาร์ค” แจงผ่านช่อง 11 ยืนยันใส่ใจต่อปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ปัดออกมาตรการล่าช้า แต่เพราะเป็นไข้ชนิดใหม่ องค์ความรู้ยังไม่ตกผลึก ต้องออกมาตรการตามสถานการณ์ เผยเร่งทำคู่มือมาตรฐานแจก ปชช. เสร็จศุกร์ 17 ก.ค.นี้ ยกข้อมูล “วิกิพีเดีย” ไทยติดเชื้อ-เสียชีวิตไม่ติด 1 ใน 10 ของโลก เทียบกับ “หวัดนก” ที่ตายมากอันดับ 2 เชื่อมั่นเอาอยู่ ขอแต่พี่น้องต้องให้ความร่วมมือ ย้ำไม่ถึงขั้นปิดประเทศ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ “ผ่าภัยไข้หวัดใหญ่ 2009” ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ค.ว่า ตนพร้อมด้วย ครม. รัฐบาลและข้าราชการสาธารณสุขทุกคนใส่ใจต่อปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยเฉพาะตนเองได้ใช้เวลาวันละกว่าครึ่งชั่วใมงในการค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องนี้ด้วยตนเอง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้เนื่องจาก ประเด็นแรกไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นไข้ชนิดใหม่ที่ยังไม่มีใครมีภูมิคุ้มกัน ทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นหมด และหลายประเทศก็ประกาศยอมรับเป็นทางการว่าไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้ จะอยู่กับเราอีกเป็นปี และจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก

นายกฯ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 องค์ความรู้เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้กว่าจะตกผลึกต้องใช้เวลา เพราะทั่วโลกไม่มีใครทราบมาก่อน เช่น เราเพิ่งรู้คนเป็นโรคอ้วนจะเสี่ยงมากขึ้น และแม้ไข้หวัดตัวนี้อัตราการตายต่ำกว่าไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่อัดตราทำลายปอดหรืออวัยวะจะเร็วกว่าไข้หวัดธรรมดา เพราะฉะนั้นเราต้องปรับตัวในการแก้ปัญหาตลอด และขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขทำคู่มือมาตรฐานที่จะบอกว่าประชาชนควรปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งจะเสร็จในวันศุกร์ที่ 17 ก.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในเบื้องต้นแต่ละคนควรมีสามัญสำนึกก่อนในการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองตามปกติ ส่วนค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นไข้ชนิดนี้ การใช้สิทธิรักษาพยาบาลตามปกติก็ครอบคลุมถึง ไม่ว่าจะเป็นการใช้สิทธิคข้าราชการ ประกันสังคม บัตรประกันสุขภาพรักษาฟรี ส่วนการตรวจเชื้อตามความจำเป็นที่หมอส่งไปตรวจก็จะให้ฟรีเช่นกัน ยกเว้นใครที่ขอตรวจเองก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รู้สึกเสียใจที่มีคนตายถึง 24 คน ที่จริงเสียใจตั้งแต่ตายคนแรกด้วยซ้ำ แต่เมื่อดูตัวเลขของต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาที่เราเชื่อว่ามีมาตรฐานดีก็มีผู้เสียชีวิต 230 กว่าคน แต่บางประเทศที่มีประชากรมากๆ ตัวเลขการติดเชื่อหรือการตายมีน้อย ก็น่าสงสัยว่าเป็นตัวเลขจริงหรือไม่ แต่ของเราไม่มีการปิดบังแน่นอน ตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นการยืนยันจากการตรวจในห้องปฏิบัติการ ทั้งที่ถ้าเราจะปกปิดก็ทำได้ ตั้งแต่ตอนชาวต่างชาติอ้างว่าติดเชื้อไปจากพัทยา ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีข่าวการระบาดในไทยเลย ขณะที่ประเทศอังกฤษมีการระบาดถึงขั้นว่าไม่มีการตรวจทุกกรณีและไม่มีการแถลงรายวัน แต่ไปแถลงรายสัปดาห์แทน และให้แนวปฏิบัติกับประชาชน

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่มีอัตราเสียชีวิตน้อย เพราะเขามีการให้ยาอย่างกว้างขวาง เช่น ในอังกฤษ เด็กนักเรียนมีอาการเล็กน้อยก็แจกยาให้เลย รวมถึงเด็กในโรงเรียนเดียวกันที่ไม่มีอาการก็ด้วย แต่ประเทศที่ใช้แนวทางนี้ จะเสี่ยงต่อการดื้อยา และองค์กรอนามัยโลกแสดงความเป็นห่วงว่าการกลายพันธุ์อาจเกิดขึ้นได้

“ผมทราบดีว่าบางท่านอาจจะหงุดหงิดไม่สบายใจ เพราะรัฐบาล เด่ยวบอกว่ารุนแรง เดี๋ยวก็บอกว่าไม่รุนแรง แต่ขอเรียนว่าพวกเราใส่ใจเต็มที่ วัคซีนเราก็มีสต๊อก โรงงานเราเริ่มผลิดได้ต้นปีหน้า และอนุมัติงบฯ ซื้อยาให้อีก มีเตรียมทีมเฉพาะกิจเข้าไปช่วยผู้ที่มีอาการป่วย แต่ข้อปฏิบัติตอนนี้ ถ้าใครเริ่มก็ป่วยให้พักอยู่บ้านทันทีไม่ต้องไปทำงาน หรือไม่เรียน ถ้า 2 วันแล้วไข้ไม่ลดก็ให้ไปหาหมอ” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ส่วนที่มีบางกระแสเรียกร้องให้หยุดกิจกรรมทางสังคมทั้งหมดเพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อนั้น นายกฯ กล่าวว่า ถ้าปิดหมดก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย เหมือนบางประเทศที่ปิดประเทศ 2 สัปดาห์แล้วเสียหายเป็นแสนล้าน ซึ่งถ้าเราจะทำแล้วยอมเสียหายขนาดนั้นก็ได้ แต่คิดว่าทางสายกลางน่าจะดีที่สุด เช่น ในโรงเรียนก็ใช้วิธีการตรวจเด็กก่อนเข้าเรียน ใครป่วยก็ส่งกลับ ที่เราไม่ปิดโรงเรียนทั้งหมด เพราะเราไม่เชื่อว่าถ้าปิดแล้วเด็กจะอยู่บ้าน แต่อาจไปอยู่ที่ร้านเกมซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ส่วนโรงเรียนกวดวิชาที่เราให้ปิดเพราะเป็นแหล่งที่จะทำให้มีการติดเชื้อข้ามโรงเรียนได้ ซึ่งถ้าเขามีมาตรการคัดครองที่ดีอาจไม่ปิดยาวก็ได้

นายอภิสิทธิ์ย้ำว่า หากใช้มาตรการปิดสถานที่ต่างๆ ก็จะไม่สิ้นสุด ถ้ามีการปิดโรงเรียน ก็จะถามต่อว่าแล้วทำไมไม่ปิดห้าง ไม่ปิดแหล่งบันเทิง ไม่ปิดร้านอาหาร แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าโชคไม่ดีจริงๆ เราจึงจะใช้มาตรการที่รุนแรง ซึ่งถ้าเราใช้มาตรการรุนแรงก่อนแล้วไม่มีการระบาด เราจะสูญเสียยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นมาตรการต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ และต้องเห็นใจคนทำงานที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอด

ต่อคำถามที่ว่าทำไมไม่ออกกฎหมายบังคับให้ใส่หน้ากาก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า บางประเทศไม่ถือว่าหน้ากากเป็นเรื่องสำคัญด้วยซ้ำ เพราะการติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากการสัมผัส ยกเว้นการอยู่ใกล้กับผู้แพร่เชื้อ แต่การใช้หน้ากากก็จำเป็นสำหรับการใช้ในโรงพยาบาล หรือการขึ้นรถเมล์ ที่เราไม่ไว้ใจว่าจะใครแพร่เชื่อให้เราหรือไม่ ทั้งนี้ การใส่หน้ากากนั้นไม่ใช่ว่าจะใส่อันเดียวไปตลอดต้องมีการเปลี่ยน ซึ่งถ้าเราบังคับให้ใส่รัฐบาลต้องซื้อแจก แต่จะให้ซื้อแจกทั้ง 60 กว่าล้านคนคงไม่ไหว การเดินทางสายกลางจึงดีที่สุด อย่าตื่นตระหนก ระวังตัว ถ้าเราเป็นก็ป้องกันไม่ให้ไปติดคนอื่น โดยการใส่หน้ากาก

สำหรับเสียงวิจารณ์ที่ว่ารัฐบาลออกนโยบายต่างๆ ช้ากว่าเชื้อโรคไป 1 ก้าวนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ช้า แต่เราทำเหมือนหมอที่รักษาตามอาการ เราต้องออกมาตรการตามสถานการณ์ เพราะถ้าใช้มาตรการรุนแรง ก็อาจไม่ได้ผลเสมอไป เช่น ถ้าปิดประเทศไปแล้ว เมื่อเปิดก็จะย้อนกลับมาอีก บางประเทศที่อ้างว่าหายแล้ว ไม่มีใครติดเชื้อแล้ว ตนไม่เชื่อ ขณะที่บางประเทศก็ไม่ให้ความสำคัญเลย แต่เราก็ไม่อยากให้ใครเป็น สมมุติถ้าอัตราการตายร้อยละ 0.4 ถ้ามีคนติดเชื้อแสนคน จำนวนคนตายก็คงไม่น้อย

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ทีมีบางคนนำเรื่องนี้มาใช้โจมตีนั้น ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย อยากให้มาช่วยกันแก้ปัญหาดีกว่า และอยากแนะนำให้คนที่ป่วยให้พักอยู่ที่บ้าน ถ้า 2 วันยังไม่หายก็ไปหาหมอ ไม่ต้องห่วงเรื่องงาน เรื่องเรียน และไม่เสียสิทธิ ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกให้แนวทางว่า ให้พยายามใช้มาตรการที่ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติของประชาชน

สำหรับตัวเลขการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อในไทยที่ค่อนข้างสูงนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตในไทยอาจมากเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ตนไม่ปฏิเสธ แต่เมื่อไปดูข้อมูลจากเว็บไซต์วิกีพิเดียซึ่งใช้ข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลก ก็พบว่า ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากคิดเป็นสัดส่วนเปรียบเทียบกับจำนวนประชากร 10 อันดับแรกไม่มีประเทศไทยเลย นอกจากนี้ตัวเลขที่มีการยืนยันว่าติดเชื้อในห้องปฏิบัติการแล้วมีผู้เสียชีวิต 10 อันดับแรกก็ไม่มีไทย ตัวเลขอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนประชากร 10 อันดับแรกก็ไม่มีประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งตัวเลขพวกนี้ตนไม่อยากพูด แต่เมื่อมีคนมาบอกว่าของเรามีผู้เสียชีวิตมาก ก็เลยต้องเอามาชี้แจง

ส่วนการติดเชื้อในประเทศจะถึง 20-30 ล้านคนตามที่มีบางคนกล่าวอ้างหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าจะติดจริงๆ แค่ไหน แต่ตนเป็นคนแรกๆ ที่บอกว่าคนที่ติดจริงๆ อาจมากกว่าตัวเลขที่รายงานประมาณ 20-30 เท่า และหลายประเทศก็ยอมรับอัตรานี้ อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้เสียชีวิตตอนมีการระบาดของไข้หวัดนกนั้นประเทศไทยมีอัตราการตายสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเวียดนาม ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า เราอยู่อันดับเท่าไหร่ แต่อยู่ที่ว่าการบริหารจัดการเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งตนมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่ให้ระบาดต่อไปได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของพี่น้องประชาชนด้วย

ด้าน นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กรณีที่กรุงเทพมหานครมีการสั่งปิดโรงเรียน แต่จังหวัดอื่นๆ ยังเปิดเรียนตามปกตินั้น เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การระบาดแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงไม่มีการใช้มาตรการที่เหมือนกันทั้งประเทศ และหากมีการปิดโรงเรียนทั่วประเทศก็จะมีการเดินทางไปมาหาสู่กันมากขึ้น ทำให้มีการกระจายเชื้อมากกว่าเดิมอีก

สำหรับแนวปฏิบัติสำหรับคนป่วยจะต้องหยุดเรียนโดยทันที ไม่ให้ครูถือเป็นวันลา ขาด และอยู่กับบ้าน ใส่หน้ากาก ดื่มน้ำมากๆ ถ้ามีไข้สูงให้ไปหาแพทย์ ส่วนข้าราชการที่ป่วยก็ให้อยู่กับบ้านเลย โดยไม่ถือเป็นวันขาด วันลา คนงานกรรมกรทั้งหมด เราได้ขอความร่วมมือนายจ้างไม่ให้ถือเป็นวันลาหรือวันขาด เพื่อให้คนที่ป่วยอยู่กับบ้านจริงๆ เราส่งสัญญาณนี้ออกไปอย่างแรง และไม่กลัวว่าจะพากันหยุดบ่อยๆ เพราะไข้หวัดชนิดนี้มันเป็นได้แค่ครั้งเดียว

วิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น