“จุรินทร์” เผย ครม.อนุมัติเบี้ยเสี่ยงภัยให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพิ่มคนละ 1,500 บาท พร้อมย้อนหลัง 1 ตุลาคม 51 อนุมัติคืนครูให้นักเรียน 14,532 อัตรา และภารโรง 8,745 อัตรา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบอนุมัติให้มีการจ่ายเบี้ยเสี่ยงภัย เพิ่มเติม 1,500 บาท จากเดิมได้ 1,000 บาท รวมเป็น 2,500 บาท ให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ทั้งนี้ให้มีผลย้อนหลัง 1 ตุลาคม 2551
ทั้งนี้ มีข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ แยกออกเป็นสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 21,603 ราย เป็นเงิน 388 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 193 ราย เป็นเงิน 5.7 ล้านบาท และ กศน. 920 ราย เป็นเงิน 14.2 ล้านบาท
นอกจากนี้ ครม.มีมติเห็นชอบโครงการคืนครูให้นักเรียน จำนวน 14,532 อัตรา ซึ่ง ครม.อนุมัติงบไว้ล่วงหน้าปี 2552-2555 โดยในปี2552 จะใช้งบฝึกอบรมตามโครงการต้นกล้าอาชีพ ส่วนปี 2553 ใช้งบรายจ่ายประจำปี และ 2554-2555 ทาง ครม.ได้อนุมัติงบประจำไว้ล่วงหน้าแล้ว
รวมทั้งยังมีมติเห็นชอบอนุมัติ ภารโรง จำนวน 8,745 อัตรา เพื่อลดงานในความรับผิดชอบของครู เพราะที่ผ่านมาภารโรงเกษียณแล้วไม่มีอัตราบรรจุ ส่วนวิธีการดำเนินการนั้นจะมอบให้ สพฐ.ดำเนินการว่าจะดำเนินการรูปแบบใดถึงจะเหมาะสม อาจจะบรรจุเป็นลูกจ้าง จ้างบุคลากรภายนอก หรือให้เงินแต่ละสถานศึกษาไปดำเนินการ โดยจะใช้งบประมาณปีละ 560 ล้านบาท
ด้าน นายเสน่ห์ ขาวโต รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สพฐ.ดำเนินการอบรมครูตามโครงการคืนครูให้นักเรียน อยู่ระหว่างการฝึกงาน และวันที่ 15 มิ.ย.นี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จะประเมินว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ส่วนผู้ที่ผ่านการประเมินจะส่งไปทำหน้าที่ธุรการ หากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีนักเรียน 500 คนขึ้นไป จะรับผิดชอบ 1 โรงต่อ 1 คน โรงเรียนที่มีเด็ก 120-499 คน 1 คนจะดูแล 2 โรง และโรงเรียนที่ต่ำกว่า 120 คน 1 คนจะดูแล 4 โรง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบอนุมัติให้มีการจ่ายเบี้ยเสี่ยงภัย เพิ่มเติม 1,500 บาท จากเดิมได้ 1,000 บาท รวมเป็น 2,500 บาท ให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ทั้งนี้ให้มีผลย้อนหลัง 1 ตุลาคม 2551
ทั้งนี้ มีข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ แยกออกเป็นสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 21,603 ราย เป็นเงิน 388 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 193 ราย เป็นเงิน 5.7 ล้านบาท และ กศน. 920 ราย เป็นเงิน 14.2 ล้านบาท
นอกจากนี้ ครม.มีมติเห็นชอบโครงการคืนครูให้นักเรียน จำนวน 14,532 อัตรา ซึ่ง ครม.อนุมัติงบไว้ล่วงหน้าปี 2552-2555 โดยในปี2552 จะใช้งบฝึกอบรมตามโครงการต้นกล้าอาชีพ ส่วนปี 2553 ใช้งบรายจ่ายประจำปี และ 2554-2555 ทาง ครม.ได้อนุมัติงบประจำไว้ล่วงหน้าแล้ว
รวมทั้งยังมีมติเห็นชอบอนุมัติ ภารโรง จำนวน 8,745 อัตรา เพื่อลดงานในความรับผิดชอบของครู เพราะที่ผ่านมาภารโรงเกษียณแล้วไม่มีอัตราบรรจุ ส่วนวิธีการดำเนินการนั้นจะมอบให้ สพฐ.ดำเนินการว่าจะดำเนินการรูปแบบใดถึงจะเหมาะสม อาจจะบรรจุเป็นลูกจ้าง จ้างบุคลากรภายนอก หรือให้เงินแต่ละสถานศึกษาไปดำเนินการ โดยจะใช้งบประมาณปีละ 560 ล้านบาท
ด้าน นายเสน่ห์ ขาวโต รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สพฐ.ดำเนินการอบรมครูตามโครงการคืนครูให้นักเรียน อยู่ระหว่างการฝึกงาน และวันที่ 15 มิ.ย.นี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จะประเมินว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ส่วนผู้ที่ผ่านการประเมินจะส่งไปทำหน้าที่ธุรการ หากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีนักเรียน 500 คนขึ้นไป จะรับผิดชอบ 1 โรงต่อ 1 คน โรงเรียนที่มีเด็ก 120-499 คน 1 คนจะดูแล 2 โรง และโรงเรียนที่ต่ำกว่า 120 คน 1 คนจะดูแล 4 โรง