นครพนม - เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนเขตอำเภอศรีสงคราม จ.นครพนม ซ้ำเป็นครั้งที่ 11 ตร.รุดตรวจสอบ ไม่ปักใจเชื่อไฟฟ้าลัดวงจร ตั้งประเด็นขยายผลสอบกรณีลอบเผา
วันนี้ (25 พ.ค.) เวลา 08.00 น.ที่โรงเรียนบ้านปากยามอำเภอศรีสงครามจังหวัดนครพนม พ.ต.ต.ศุภกฤษ ทองลิ่ม สารวัตรวิทยาการ ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุกรณีเพลิงไหม้อาคารเรียน ของโรงเรียนบ้านปากยาม (สมุทรกัลยาคาร) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 หมู่ 4 ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งเป็นอาคารไม้ยกสูง ความยาว 30 เมตร กว้าง 140 เมตร ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง และยังมีอุปกรณ์การเรียนการสอน จำนวนมากเสียหายทั้งหมด ซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายบรรจง คำเกษ อายุ 55 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียน ให้การ ก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวันหยุด ภายในโรงเรียนได้มีครูเวร และนักการภารโรง ทำงานอยู่อีกอาคารหนึ่ง ของโรงเรียน ลังจากนั้นได้ยินเสียงเหมือนไฟฟ้าลัดวงจร ดังขึ้นภายในอาคารเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นอาคารเรียนแบบ ป 1 ฉ สร้างมาตั้งแต่ปี 2514 ใช้เป็นห้องเรียน ชั้น ป.2-ป.5 มีจำนวน 4 ห้องเรียนมีนักเรียน 60 คน และเป็นห้องพักครูอีก 1 ห้อง
เมื่อวิ่งมาดูพบเห็นเพลิงโหมไหม้ช่วงกลางอาคารอย่างรวดเร็ว ทางครูเวร และนักการภารโรงจึงได้ วิ่งไปบอกชาวบ้าน มาช่วยดับ และแจ้งทางตำรวจ ขอรถดับเพลิงมาสนับสนุน แต่เพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสภาพอาคารเป็นไม้เก่ามาก สร้างมาหลายปีแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.พ.ต.ต.ศุภกฤษ ทองลิ่ม เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากพื้นที่ อ.ศรีสงคราม และ อ.นาหว้า จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่เขต ติดต่อกัน เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ อาคารเรียนไม่ทราบสาเหตุ ถึง 10 ครั้ง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 11 โดยจะได้เร่งสอบสวนเก็บหลักฐานอย่างละเอียด หาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้
โดยขอความร่วมมือไปด้านสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัด ลงมาตรวจสอบว่าเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่
นายบรรจง คำเกษ อายุ 55 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องของระบบสายไฟฟ้าภายในอาคาร ทางโรงเรียนได้ปรับปรุง และแก้ไขเปลี่ยนใหม่ พร้อมติดตั้งระบบตัดไฟฉุกเฉินด้วย ที่ผ่านการตรวจสอบจากการไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อย ในปี 2551 ซึ่งสาเหตุนั้นตนไม่ทราบเลย เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดไม่มีใครอยู่ในอาคาร และสอบถามครู นักเรียน แล้วว่า ไม่ได้เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้เลย
สำหรับโรงงเรียนได้เปิดเทอมมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 52 ซึ่งจะเป็นสัปดาห์ที่สองและพรุ่งนี้จะเปิดเรียนตามปกติ แต่มีเอกสาร หนังสืออุปกรณ์การเรียน จำนวนมากได้รับความเสียหาย รวมถึงเอกสารของโรงเรียนที่เตรียมประเมินภายนอก ในสิ้นเดือนนี้ไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ซึ่งจะได้รายงานไปยังสำนักงานเขตพื้นที่หาทางแก้ไขต่อไป และเรื่องความขัดแย้งภายในหมู่บ้านที่จะเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหานั้นรับรองไม่มี
ทางด้าน นายธีรวุฒิ เจริญราษฎร์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 2 กล่าวว่า กรณีเกิดเหตุไฟไหม้อาคารเรียนตนได้รายงานเบื้องต้นไปยัง หน่วยงานเกี่ยวข้องแล้ว เพื่อประสานกับตำรวจเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการโรงเรียน บางส่วน ที่จะต้องร่วมกับหน่วยงานหลายฝ่ายตรวจสอบ
สำหรับสาเหตุนั้นต้องรอผลการตรวจสอบของวิทยาการ เนื่องจากสามารถเกิดได้ทั้ง 2 ประเด็น คือ 1.ไฟฟ้าลัดวงจร หรือ 2.มีการลอบเผา เพราะเป็นพื้นที่ติดต่อ อ.นาหว้า ที่มีปัญหา และในวันนี้หลายฝ่ายจะเข้าไปตรวจสอบ
นายธีรวุฒิ เจริญราษฎร์ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการของโรงเรียนวันได้สามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ เพราะนักเรียนมีน้อย โต๊ะ เก้าอี้ อาคารเรียน เพียงพอ ส่วนอุปกรณ์การเรียน การสอน จะได้เร่งหาทางช่วยเหลือโดยด่วน ที่สำคัญเรื่องนี้จะได้ร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครอง สอบสวนโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุ และจะมีการตรวจสอบทางลับด้วย