“ธงทอง” เผยปฏิรูปการศึกษารอบ 2 คืบหน้า สรุปได้สาระสำคัญ 3 ประเด็น คุณภาพคนไทยยุคใหม่-ระบบบริหารจัดการใหม่-ครูยุคใหม่ เตรียมประชุมนัดสุดท้ายหาข้อยุติ 21 เม.ย.นี้ ก่อนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษาจารณาในเดือนพฤษภาคม
วันนี้ (1 เม.ย.) นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) แถลงข่าวในโอกาสที่ทำงานครบรอบ 6 เดือนว่า การทำงานรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาเป็นที่น่ายินดีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสำคัญและมอบหมายภารกิจให้แก่ สกศ.หลายเรื่อง ซึ่งบางเรื่องสำเร็จแล้วและบางเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น แผนพัฒนาการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้เสร็จแล้ว โดยแผนเสนอให้มีจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนในจังหวัด และอำเภอซึ่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้ลงนามจัดตั้งไปแล้ว
นอกจากนี้ ขอให้คืนครูสอนวิชาสามัญให้กับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม โดยอาจส่งข้าราชการครู พนักงานราชการครูเข้าไปอยู่ในโรงเรียนเหล่านั้น แห่งละ 2 คน ซึ่งในอดีตมีการถอนออกเพราะมองว่าเป็นการซ้ำซ้อนกับเงินอุดหนุนรายหัว โดยทยอยถอนออกมา 275 คนแล้ว จากทั้งหมด 547 คน และโรงเรียนก็ดำเนินการว่าจ้างครูอัตราจ้างไปสอนวิชาสามัญแทน แต่เรามองว่าถ้ามีครูสอนวิชาสามัญที่รัฐบาลส่งไป จะทำให้เกิดความเข้าใจกันระหว่างโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามกับราชการมากขึ้น
สำหรับเรื่องการปฏิรูปการศึกษารอบสอง ขณะนี้ได้ความคืบหน้าไปมากแล้วโดยสรุปสาระสำคัญ 3 ประเด็นใหม่ที่ต้องดำเนินการ คือ คุณภาพคนไทยยุคใหม่ ที่มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งแต่ปฐมวัย เป็นกำลังคนที่มีคุณภาพ, ระบบบริหารจัดการใหม่ที่มุ่งเน้นการกระจายอำนาจสู่สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของเอกชนและทุกภาคส่วน และครูยุคใหม่ที่เป็นผู้เอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้ เป็นวิชาชีพชั้นสูง โดยจะคณะอนุกรรมการปฏิรูปการศึกษา จะมีการประชุมนัดสุดท้ายเพื่อหาข้อยุติกลไกที่จะผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมในวันที่ 21 เมษายน จากนั้นนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษาที่มีรัฐมนตรีว่าการศธ.เป็นประธาน เพื่อพิจารณาเห็นชอบในราวเดือนพฤษภาคม และหากเรื่องใดจำเป็นต้องเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ก็จะดำเนินการต่อไป
“การทำงาน 6 เดือนที่ผ่านมา ส่วนตัวรู้สึกพอใจเพราะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี แต่หลายงานที่เกี่ยวข้องกับคนวงกว้าง สกศ.ไม่อาจจะคิดตามลำพังได้ แต่ต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงทำให้ต้องใช้เวลา ซึ่งหลายเรื่องผมก็ยอมรับอยากจะให้เสร็จเร็วกว่านี้ ก็คงเป็นข้อจำกัดของสกศ.เองที่ควรต้องเปิดตัวให้รู้จักให้กว้างขวางมากขึ้น” นายธงทอง กล่าว
