"มณฑล"คณะกรรมการแอดมิชชั่นปี 53 ยันปีหน้าใช้ระบบเดิม เพราะไม่พบปัญหา ข้อผิดพลาดในตัวระบบ พร้อมปรับเนื้อหาการสมัครทางเว็บไซต์ให้ชัดเจนขึ้น ส่วนผู้ร้องขอคืนสิทธิ์ 105 ราย แห้ว! หลังการตรวจสอบไม่พบความผิดพลาดจากระบบ แต่มาจากความผิดพลาดส่วนตัว ทำชำระเงินไม่ทัน
รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี คณะทำงานคัดเลือกนิสิต นักศึกษาระบบกลาง หรือ แอดมิชชัน ปี 53 แถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมกันกับ สกอ.ว่า ในการคัดเลือกนักศึกษาแอดมิชชันปีหน้า ซึ่งตนเป็นผู้รับผิดชอบ ยืนยันว่า ยังจะใชัระบบเดิมที่ สกอ.ใช้ในการแอดมิชชันปีนี้ เนื่องจากตรวจสอบแล้วไม่พบข้อผิดพลาดจากระบบของ สกอ.แต่อย่างใด มีเพียงความไม่ชัดเจนของถ้อยคำในขั้นตอนการสมัคร ที่ชี้แจงผ่านเว็บไซต์เท่านั้น ซึ่งในปีหน้าจะมีการปรับปรุง ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ หลังจากที่เปิดให้นักเรียนที่พลาดโอกาสในการสอบเอเน็ตเข้าร้องเรียนเป็นเวลา 2 วัน พบมีผู้ร้องเรียนทั้งหมด 105 ราย และจากการตรวจสอบ ยังไม่พบข้อผิดพลาดที่เกิดจากระบบเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่นักเรียนจะฝากให้ผู้ปกครอง ครู ชำระค่าสมัครสอบให้ แล้วเกิดการหลงลืม หรือบางรายอ้างว่าติดภารกิจอื่น หรือติดเรียน ทำให้ไปชำระเงินค่าสมัครไม่ได้ ทั้งนี้ ยังไม่พบในส่วนของกรณีที่ทาง สกอ.จะให้การเยียวยา
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า จะต้องดูแลเด็กต่อไปโดยในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า สกอ.ได้ตรวจสอบย้อนหลังกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งมีการตรวจสอบวิชาเฉพาะ ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งของแอดมิชชันที่เด็กจะต้องสอบ 2 ครั้ง คือ การสอบวิชาเฉพาะในเดือนตุลาคม และสอบวิชาหลัก ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ พบว่าในการจัดสอบดังกล่าว มีผู้ยื่นความจำนงสมัครสอบผ่านเว็บไซต์ สกอ. ประมาณ 1.6 แสนคน และมีการชำระเงิน ประมาณ 1.4 แสนคน โดยมีผู้สมัครแต่ไม่ชำระเงินประมาณหมื่นกว่าคน ซึ่งไม่มีผู้ร้องเรียนในกรณีดังกล่าว ทั้งที่ใช้ระบบการสมัครสอบระบบเดียวกับการสมัครสอบวิชาหลัก
“เมื่อตรวจสอบพบว่าเด็กจำนวน 76 คน ที่เข้าร้องเรียนขอคืนสิทธิ์ต่อ สกอ.ในวันแรกที่เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนนั้น มีเด็กที่สมัครสอบและชำระเงินรวมทั้งเข้าสอบวิชาเฉพาะเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเสร็จสิ้นกระบวนการ อยู่ถึง 43 คน แสดงให้เห็นว่าเด็กกลุ่มนี้ผ่านการสมัครด้วยระบบของ สกอ.อย่างถูกต้องตามขั้นตอน แต่มาถึงวันนี้เด็กกลุ่มเดียวกันกลับอ้างว่าระบบของ สกอ.มีปัญหา ไม่ชัดเจน ไม่เข้าใจ ซึ่งตนไม่รู้ว่า ขณะนี้สังคมกำลังถูกหลอกอยู่หรือไม่” ดร.สุเมธ กล่าว
ดร.สุเมธ กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจจำนวนเด็ก 2.2 หมื่นคนที่มาสมัครสอบเอเน็ต แต่ไม่ชำระเงินว่าในจำนวนนี้มีเด็กที่ลงทะเบียนสมัคร แต่ไม่ประสงค์จะชำระเงิน เนื่องจากสอบติดการรับสมัครตรงของมหาวิทยาลัยแล้ว หรือเข้าไปทดสอบระบบเล่น และหลงเหลือจำนวนเด็กที่หลงลืมอยู่จำนวนเท่าไรเพื่อจะได้นำข้อมูลไปพิจารณาแก้ปัญหาต่อไป
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเปิดศูนย์รับเรื่องการสอบเอเน็ต ว่า ขณะนี้จะมีการเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์เพิ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. จนถึงวันทึ่ 13 ก.พ.นี้ โดยจะมีการเปิดศูนย์รับเรื่อง ที่โรงเรียนประจำจังหวัด ทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการประกาศรายชื่อให้ทราบทางสถานีโทรทัศน์ NBT จำนวน 133 โรงเรียน ซึ่งเพิ่มจากข่าวที่ออกมาเดิม 87 โรงเรียน เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยจะใช้ตัววิ่งประกาศรายชื่อโรงเรียน
เมื่อถามว่า มีนักเรียนบางส่วนโวยวาย เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มที่ออกมาเรียกร้องไม่มีความรับผิดชอบ นายจุรินทร์ กล่าวว่า มีจำนวนนักเรียนที่สมัครเอเน็ต จำนวน 210,000 คน แต่จำนวน 190,000 คน ไปชำระเงินตามกฎเกณฑ์ แต่มีเด็กอีก 20,000 คน ไม่ได้ชำระ แต่เข้าใจว่านักเรียนแต่ละคนมีเหตุผลต่างกัน จึงเป็นที่มาที่ให้เปิดรับเรื่องร้องเรียน เพราะจะได้ตรวจสอบเป็นรายไป ว่าเหตุที่ไม่ชำระเงินเกิดจากเหตุผลใด ถ้าเกิดจากกระทรวงผิดพลาดกระทรวงจะเป็นผู้รับผิดชอบ จะให้สิทธิ์กับเด็กมีโอกาสสอบ แต่ถ้าเกิดปัญหาอื่นจะดูเป็นรายไป ทางคณะกรรมการอำนวยการสอบ ประกอบด้วยอธิการบดี 21 สถาบัน จะต้องเป็นผู้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งอำนาจเป็นของที่ประชุมอธิการบดี เบื้องต้น จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) เวลา 10.00 น. แต่ก็ต้องรอรับเรื่องเรียนทั้งหมดก่อน
ด้าน นายวิชิต นาท้าว นักเรียนชั้น ม. 6 โรงเรียนสุทธิวนาราม กทม.ซึ่งเดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนที่ สกอ. กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปชำระเงินค่าสมัคร เนื่องจากกระเป๋าที่เก็บใบสมัครไว้นั้นหายไป ทำให้ไม่มีเลขที่ผู้สมัครไปชำระเงิน กระทั่งล่วงเลยกำหนดเวลาที่ สกอ.กำหนด ซึ่งหลังจากที่ทำเลขที่ผู้สมัครหายไปตนก็ไม่ได้ติดต่อกลับไปที่ สกอ.เพราะไม่รู้ว่าจะต้องติดต่อที่ไหน อย่างไรก็ตามตนขอให้ สกอ.เปิดให้ชำระเงินสมัครสอบ และให้โอกาสสอบเอเน็ตได้ แต่หากไม่ได้สอบเอเน็ตก็คงต้องนำคะแนนการทดสอบแห่งชาติขั้นพื้นฐาน(โอเน็ต)ไปยื่นสมัครแอดมิชชั่นเพียงอย่างเดียว ซึ่งต้องทำคะแนนให้ได้ดี
“ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าเกิดจากตัวเด็กเอง เพราะระบบของ สกอ.ที่ให้สมัครผ่านทางเว็บไซต์ก็มีความชัดเจนดี แต่อยากให้นักเรียนสามารถใช้เลขประจำตัวค้นหาเลขผู้สมัครสอบได้ เพราะอาจมีกรณีที่ทำเลขที่ผู้สมัครสอบหาย และไม่ได้บันทึกหน้าเว็บที่มีเลขที่ผู้สมัครสอบไว้เหมือนผมจะได้แก้ปัญหาได้” นายวิชิตกล่าว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. นายสุเมธ กล่าวสรุปยอดนักเรียนที่เข้ายืนเรื่องร้องเรียนต่อ สกอ.ว่า ได้รับรายงานตัวเลขผู้ร้องทุกข์จากศูนย์ต่างจังหวัดเข้ามาเป็นวันแรกจำนวน 42 ศูนย์ จากทั้งหมด 139 ศูนย์ มีผู้ร้องทุกข์ทั้งสิ้น 54 คน โดยไม่พบปัญหาที่เกิดจากระบบการรับสมัครผ่านอินเทอร์เน็ต ส่วนใหญ่ปัญหาเหมือนกับเด็กใน กทม. ที่ลืมชำระเงินตามกำหนด และไม่ทราบวันสิ้นสุดการชำระเงิน
สำหรับในส่วน กทม. ซึ่งเปิดรับร้องทุกข์เป็นวันที่ 3 นั้น มีผู้ร้องทุกข์เพิ่มขึ้นอีก 27 คน โดยมียอดผู้ร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น 132 คนซึ่งปัญหายังคงเหมือนเดิม โดยไม่พบปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดของระบบ
