“สุเมธ”แถลงยัน สกอ.แจ้ง “จิราวัฒน์”นักเรียนชั้น ม.6 ที่ยิงตัวตายหลังไม่พบชื่อติดแอดมิชชั่นทางเว็บไซต์ และบิดาเด็กว่าสอบติด มก.ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.พร้อมส่งเอกสารการแจ้งรายละเอียดการสอบสัมภาษณ์ให้ทางโทรสาร ระบุเด็กไม่พบรายชื่อทางเว็บเนื่องจากเป็นเด็กกลุ่มขอคืนสิทธิ์จากรับตรง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 130 คน โดยเด็กกลุ่มนี้รู้ว่าจะไม่การนำรายชื่อขึ้นเว็บ แต่จะแจ้งผลทางโทรศัพท์กับเจ้าตัวเอง พร้อมทบทวนระบบการประกาศผลแอดมิชชั่นให้เด็กมั่นใจมากขึ้น “บุญลือ”สั่งตำรวจสอบทางลึก หาสาเหตุความเครียด
จากกรณีนายจิราวัฒน์ เลิศกุลอุยไพศาล นักเรียน ม.6 ฆ่าตัวตายภายหลังจากที่ไม่พบรายชื่อตนเองในเว็บไซต์การประกาศผลแอดมิชชั่นของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
เมื่อเวลา 16.00 น. นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายจิราวัฒน์ด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบการสมัครแอดมิชชั่นของนายจิราวัฒน์ พบว่านายจิราวัฒน์สมัครแอดมิชชั่น เมื่อวันที่ 16 เม.ย.โดยเลือก 4 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ม.เกษตรศาสตร์ อันดับ 2 คณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาขาวิทยาการคอมฯ วิทยาเขตศรีราชา มก. อันดับ 3 คณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาขาวิทยาการคอมฯ ภาคพิเศษ วิทยาเขตศรีราชา มก. และอันดับ 4 คณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาเขตศรีราชามก.
นายสุเมธ กล่าวอีกว่า เนื่องจากนายจิราวัฒน์ สมัครและสอบติดรับตรงในคณะวิทยาการสารสนเทศ ม.มหาสารคาม ดังนั้น ในการประกาศผลแอดมิชชั่นทางเว็บไซต์ของ สกอ. เมื่อวันที่ 5 พ.ค.จึงไม่ปรากฏรายชื่อของนายจิราวัฒน์ ต่อมาในวันที่ 6 พ.ค. ทาง ม.มหาสารคาม ได้แจ้งคืนสิทธินักเรียนให้กับ สกอ. จำนวน 151 คน เพื่อให้ สกอ. นำคะแนนไปประมวลผลใหม่ โดยมีชื่อของนายจิราวัฒน์อยู่ด้วย และในวันเดียวกัน นายจิราวัฒน์ก็ได้โทรศัพท์ร้องเรียนผ่านทางระบบตอบรับทางคอลเซ็นเตอร์ของ สกอ.ว่า ได้สละสิทธิ์รับตรงจากทาง ม.มหาสารคาม เพื่อขอให้สิทธิแอดมิชชั่นแล้ว
**แจงเป็นกลุ่มขอคืนสิทธิ์ไม่ประกาศผลทางเว็บ
“ในการประมวลผลเพิ่มเติมสำหรับเด็กกลุ่มนี้ จะใช้เวลา 5 วัน คือ วันที่ 6-10 พ.ค. ในระหว่างนั้น คือ วันที่ 9 พ.ค. สกอ. ได้รับการติดต่อจาก นายจิราวัฒน์ เพื่อสอบถามความคืบหน้า ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับนายจิราวัฒน์ว่า ผลประมวลยังไม่เรียบร้อย แต่ได้ขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โทรสาร และอีเมล์ เพื่อติดต่อกลับทันทีที่ทราบผล จากนั้นในวันที่ 10 พ.ค. ช่วงเช้า นายจิราวัฒน์ ก็โทรศัพท์มาสอบถามที่ สกอ.อีกหลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่ สกอ. จำเสียงได้ กระทั่งช่วงบ่าย เมื่อทราบผลการประมวลรอบใหม่ นายจิราวัฒน์ก็โทรศัพท์เข้ามาพอดี เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบว่า นายจิราวัฒน์สอบติดคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มก. ซึ่งเลือกเป็นอันดับที่ 1หลังจากนั้น นายจิราวัฒน์ได้โทรศัพท์เข้ามาอีกหลายครั้ง เพื่อสอบถามว่า ทำไมถึงไม่มีชื่อปรากฏอยู่บนเว็บไซต์การประกาศผลของ สกอ. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า การประกาศผลในรอบการคืนสิทธิถือเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งต้องทำอย่างรวดเร็ว และจะแจ้งให้กับเจ้าตัวทราบโดยตรงทางโทรศัพท์ โดยจะไม่นำชื่อเด็กกลุ่มคืนสิทธิ์ขึ้นเว็บไซต์”
นายสุเมธ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ยืนยันกับนายจิราวัฒน์ว่าสอบได้แน่นอน ขอให้เตรียมตัวไปสอบสัมภาษณ์ที่ วิทยาเขตกำแพงแสน มก. ในวันที่ 14 พ.ค. พร้อมทั้งได้ส่งโทรสารเอกสารต่างๆ ให้นายจิราวัฒน์ แต่นายจิราวัฒน์ก็ยังมีคำถามต่อมาว่า ต้องเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์อย่างไร แล้วสอบสัมภาษณ์แล้วจะได้เรียนหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำว่า ขอให้เตรียมเอกสารหลักฐานให้พร้อม แต่งกายให้เรียบร้อย และไปให้ตรงเวลา และเมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายจิราวัฒน์ ได้โทรศัพท์มาอีกครั้ง โดยระบุว่าได้โทรศัพท์ไปที่ ม.เกษตรศาสตร์แล้ว แต่ทางมหาวิทยาลัยไม่ทราบเรื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ไม่ต้องกังวล และไม่ต้องโทรไปสอบถามกับทาง มก. เนื่องจากรายชื่อนักศึกษาเพิ่มเติมยังอยู่ที่ สกอ. ทาง มก.ยังไม่ได้รับรายชื่อเพิ่มเติม เนื่องจากติดช่วงวันหยุดยาว และจะจัดส่งเอกสารไปให้ทาง มก.ในบ่ายวันที่ 12 พ.ค.นี้
“วันเดียวกันพ่อของนายจิราวัฒน์ได้โทรศัพท์มาสอบถามอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าให้ไปสอบสัมภาษณ์ได้แน่นอนในวันที่ 14 พ.ค.นี้ พร้อมระบุด้วยว่า หากในวันที่สัมภาษณ์พบปัญหาก็ให้ติดต่อกลับมาที่เจ้าหน้าที่ สกอ.ได้”
**พร้อมทบทวนระบบประกาศผลแอดมิชชั่น
นายสุเมธ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ไม่มีการนำชื่อของนายจิราวัฒน์ ที่มีการประมวลผลรอบสองขึ้นเว็บไซต์ เพราะการคืนสิทธิครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งมีจำนวนเด็ก 130 กว่าคนที่ผ่านการแอดมิชชั่น ซึ่งทุกคนจะได้รับแจ้งจาก สกอ.ว่า ผลการคัดเลือกรอบนี้ จะแจ้งทางโทรศัพท์ ไม่ประกาศรายชื่อทางเว็บไซต์ แต่จะมีรายชื่อปรากฏอีกครั้งเมื่อผ่านการสอบสัมภาษณ์แล้ว เป็นรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ สกอ.ทุกคน ก็ร่วมลุ้น และรู้สึกดีใจกับเด็กทุกคนที่สอบผ่านแอดมิชชั่น ทันทีที่ทราบว่าใครสอบผ่านแอดมิชชั่น จะแย่งกันโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าตัว หรือครอบครัว เพราะอยากได้ยินเสียงเฮด้วยความดีใจจากเด็ก และครอบครัว พวกเรารู้สึกดีใจไปด้วยจริงๆ ที่เด็กสอบผ่าน
“กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ สกอ.จะต้องมาทบทวนแนวทางการประกาศผลแอดมิชชั่นให้ชัดเจน โดยกรณีที่มีการประกาศชื่อเพิ่มเติมก็อาจจะต้องประกาศรายชื่ออีกครั้ง แต่เป็นคนละเว็บไซต์กับการประกาศผลครั้งแรก เพื่อเป็นการป้องกันระบบใหญ่โดยรวม และที่ผ่านมาเมื่อมีการประมวลผลใหม่ และมีผู้ผ่านเกณฑ์แอดมิชชั่น เพิ่มเติม มหาวิทยาลัยก็ยินดีที่จะรับเพิ่ม ไม่เคยเบี้ยวสักราย สำหรับกรณีนายจิราวัฒน์ ผมพยายามคิดหาคำตอบ ว่าปัญหาผิดพลาดอยู่ที่จุดใด แต่ก็ยังไม่พบ ซึ่งเรื่องทั้งหมด ได้รายงานนายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ แล้ว และนายบุญลือ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบคดีนี้ในทางลึกอีกทางด้วย”นายสุเมธกล่าว และว่า สกอ.ได้ประสานให้มหาวิทยาลัยมหาสารคามส่งหรีดในนามเลขาธิการ กกอ.ไปในงานศพนายจิราวัฒน์ และจะหาโอกาสเดินทางไปร่วมงานเองด้วย
**มก.ระบุเด็กน่าจะมาสอบสัมภาษณ์ก่อน
ด้าน นายศุภมาศ พนิชศักดิ์พัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มก. กล่าวว่า มก.เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และทาง มก.มาทราบข่าวนายจิราวัฒน์โดยที่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เลย เพราะกระบวนการคัดเลือกทาง สกอ.เป็นผู้คัดเลือกให้ โดย สกอ.ได้แจ้งรายชื่อนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกเพิ่มเติมเข้ามาให้ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 10 ราย ซึ่งมีชื่อของนายจิราวัฒน์รวมอยู่ด้วย และเด็กกลุ่มนี้มีกำหนดสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 14 พ.ค. แต่ก็มาเกิดเหตุขึ้นก่อน จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก
“ทาง สกอ.แจ้งรายชื่อ และจำนวนเด็กเพิ่มเติมเข้ามา มก.ก็มีความยินดีที่จะตอบรับเด็กกลุ่มนี้เข้าเรียนทันที ซึ่งหากนายจิราวัฒน์ได้รับแจ้งจากทาง สกอ.แล้วว่าผ่านการคัดเลือกแน่นอน ก็น่าจะมาสอบสัมภาษณ์ก่อน หากมาแล้วมีปัญหาอะไรก็ค่อยมาดูกัน เพราะทางมหาวิทยาลัยฯ ต้องให้ความช่วยเหลือในการประสาน สกอ.เพื่อแก้ปัญหาอยู่แล้ว จึงอยากฝากเด็กๆ ทุกคนว่า เมื่อทำสิ่งใดก็ขอให้กระบวนการต่างๆ สิ้นสุดก่อน ซึ่งกรณีนี้กระบวนการต่างๆ ก็ยังไม่สิ้นสุด เสียดายที่น้องตัดสินใจเร็วไป ซึ่ง มก.จะส่งหรีดไปร่วมแสดงความเสียใจด้วย”ศ.ดร.ศุภมาศ กล่าวและว่า สำหรับเด็กกลุ่มที่ สกอ.แจ้งเพิ่มเติมเข้ามาภายหลังพร้อมนายจิราวัฒน์อีก 9 คนนั้น ขณะนี้ได้เข้ามาสอบสัมภาษณ์แล้ว โดยไม่มีปัญหาใดๆ
**สั่ง ตร.สืบสวนทางลึกหาเหตุเครียด
นายบุญลือ ประเสิรฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลงไปสอบสวนในเชิงลึกถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนายจิราวัฒน์ เพราะตนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วก็ทราบว่า นักเรียนและผู้ปกครองได้ทราบแล้วตั้งแต่ 10 พ.ค. ว่าตนเองผ่านการคัดเลือกแอดมิชชั่น และได้เข้าเรียนในคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มก. ซึ่งนักเรียนเลือกเป็นอันดับ 1 จาก 4 อันดับที่นายจิราวัฒน์ ได้เลือกไว้ทั้งหมด ดังนั้น จึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุให้เด็กเสียใจเพราะพลาดหวังจากแอดมิชชั่น อีกทั้งทราบว่าทางบิดาของนายจิราวัฒน์ ได้ติดต่อกับทาง สกอ.และได้ทราบข้อมูลชัดเจนแล้วว่านายจิราวัฒน์ ติดที่ มก.จริง ดังนั้น จึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุให้ต้องคิดสั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งตนได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สอบสวนในเชิงลึกเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
น.ส.ศศกร วิชัย นักจิตวิทยา สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุทาหรณ์ และโอกาสที่จะสื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือญาติพี่น้อง ควรจะต้องให้ความใกล้ชิด และเอาใจใส่กับบุตรหลานของตนเองให้มากขึ้น เพราะการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นอีกหนึ่งจุดของชีวิตที่สำคัญ หากได้ใครสักคนคอยพูดคุย และรับรู้ความรู้สึกของเด็ก ก็จะทำให้เด็กมีกำลังใจมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่าการพูดคุยเป็นการกดดันเด็กจึงอยู่ห่างๆ ซึ่งถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะหากทำเช่นนี้จะกลายเป็นช่องว่างให้เด็กอยู่กับตัวเองมากเกินไป และอาจทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดได้
“สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตจะเข้ามาเป็นระยะๆ ซึ่งการสอบแอดมิชชั่นไม่ใช่คำตัดสินของชีวิต ดังนั้นขอให้เด็กทุกคนมีสติ และคอยตั้งรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งการสมหวัง และความผิดหวัง ขอให้ทุกคนมองอย่างเข้าใจว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องเผชิญในชีวิต และยังมีอีกหลายสิ่งที่เราต้องก้าวเดินต่อไป” น.ส.ศศกร กล่าว