xs
xsm
sm
md
lg

โผล่อีกเด็กอ้างแอดมิชชันติด มก. - สกอ.เชื่อกุเรื่องพร้อมให้ฟ้องหน่วยงานอื่นมาตรวจสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โผล่อีก! นักเรียนอ้างถูกกลั่นแกล้งมีผู้เอาข้อมูลไปสมัครแอดมิชชัน 2 หน ทึกทักติด ม.เกษตรฯ ขณะที่ เลขาฯ สกอ.มั่นใจตรวจสอบข้อมูลพบเด็กสมัครแค่ครั้งเดียว วอนให้เด็กนำหลักฐานมาดู พร้อมให้ฟ้องร้องหน่วยงานอื่นๆ จะได้พิสูจน์ความจริงต่อสาธารณะ เชื่อเด็กกุเรื่อง เจ้าหน้าที่ สกอ.โทรแจ้งผล เพราะขณะนี้ยังไม่มีการประกาศแอดมิชชันเพิ่มเติม เนื่องจากอยู่ระหว่างขอคืนสิทธิจาก ม.ให้เด็กกลุ่มรับตรง

จากกรณีที่พี่ชายของนักเรียนซึ่งยื่นสมัครคัดเลือก หรือแอดมิชชัน แต่พลาดโอกาสเข้าเรียน เนื่องจากการประกาศผลของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ไม่ติดคณะใด จึงได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน โดยพี่ชายนักเรียนคนดังกล่าว กล่าวว่า น้องของตนเองมีคะแนนรวมแอดมิชชัน 6,900 คะแนน ซึ่งสมัครแอดมิชชันดังกล่าวสามารถติดคณะที่ต้องการได้ แต่เมื่อประกาศผลกลับไม่ติด ดังนั้น น้องของตนเองจึงสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ของ สกอ. ทราบว่าเหตุที่ไม่ติดคณะใด เพราะผลการเรียนเฉลี่ยสะสม ม.ปลาย (GPAX) ได้เพียง 1.00 ผลการเรียนรายกลุ่มสาระ (GPA) ทั้ง 5 วิชา ได้ 0.00 ซึ่งข้อมูลทั้งหมดไม่ใช่ของน้องชาย ที่จริงแล้วน้องชายตนได้ GPAX 3.43 ขณะนี้ GPA ได้ 3 กว่าทุกวิชา และเมื่อน้องชายตนสอบถามวันสมัคร และคณะที่เลือกไว้กับทางเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ใช่ที่น้องชายตนเลือกไว้เช่นกัน จึงคิดว่าน่าจะมีคนแอบเอาข้อมูลส่วนตัวของน้องชายไปสมัคร ซึ่งน้องชายของตนได้ยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ สกอ.ว่าข้อมูลทั้งหมดไม่ได้เป็นของตนเอง ทาง สกอ.แจ้งให้นำหลักฐานมายืนยัน เพื่อประมวลผลให้

ด้าน นักเรียนที่ร้องเรียนกล่าวว่า ล่าสุดได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ สกอ.แจ้งว่าตนติดคณะวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ซึ่งตนเองสอบถามไปว่าคะแนนของตนเองสามารถติดในคณะอุตสาหกรรมเกษตร มก. แต่ทำไมติดวิทยาศาสตร์ มก.ซึ่งเจ้าหน้าที่ สกอ.แจ้งว่าในการประมวลผลใหม่ได้เอาคณะที่เลือกในการสมัครครั้งสุดท้ายมาจัดให้ โดยเป็นคณะของคนที่ตนคิดว่ามาแอบเอาข้อมูลไปสมัคร แต่ตนยอมรับในคณะที่ได้ เพราะอย่างน้อยมีที่เรียน

นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ตนได้ตรวจสอบข้อมูลของนักเรียนดังกล่าวแล้ว พบว่านักเรียนสมัครแอดมิชชันจริง แต่คะแนนไม่ติดในคณะที่เลือกเลย เพราะนักเรียนเลือกคณะที่มีคะแนนสูงมาก และเมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลอีก ก็พบว่านักเรียนมีการสมัครแอดมิชชั่นเพียงครั้งเดียว ไม่มีใครแอบเอาข้อมูลไปสมัครอย่างที่นักเรียนอ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ข้อมูลที่ สกอ.ประมวลให้ ก็เป็นของนักเรียนคนนี้จริงๆ และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ สกอ.ว่ามีใครโทรศัพท์ไปหาเด็กหรือไม่ ทุกคนบอกว่าไม่มี และนักเรียนคนนี้ก็ไม่เคยโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าเด็กคนนี้มีเหตุผลอะไรที่ทำเช่นนี้

นายสุเมธ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาตนยังได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับเด็กด้วยตนเอง ทำให้ทราบว่า เด็กรายดังกล่าวเป็นเด็กซิ่ล ไม่ใช่เด็กนักเรียนชั้น ม.6 รวมไปถึงได้เสนอให้เด็กนำเอกสารมาร้องเรียนที่ สกอ.แต่เด็กยืนยันว่าตนเองพอใจคณะวิทยาศาสตร์ มก. แล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้น สกอ.ไม่สามารถดำเนินการเอาผิดเด็กได้ เนื่องจากเด็กไม่ได้ร้องเรียนมายัง สกอ. อีกทั้งไม่มีหลักฐาน จึงอยากฝากเด็กทุกคนให้มองหาความจริง ซี่อสัตย์กับตนเอง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น เพราะเรื่องการทุจริตต่างๆ ถ้า สกอ.จับได้จะเอาผิดตามกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ต้องการทำร้ายเด็ก เพียงแต่เป็นการเตือน และสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น

“ผมได้พูดคุยกับเด็กคนนี้ และขอให้เขาเอาหลักฐานมายืนยันหากมั่นใจว่าข้อมูลถูกต้องจริง เพราะจากการตรวจสอบเราพบว่าเด็กคนนี้สมัครแอดมิชชันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีการแก้ไขข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากเด็กไม่พร้อมจะเปิดเผยตัวกับสาธารณะ ก็มาพบผมคนเดียวก็ได้ ผมพร้อมตรวจสอบให้ทุกกระบวนการ หรือหากเด็กไม่มั่นใจในระบบของ สกอ.จะฟ้องร้องกับหน่วยงานอื่นๆ ผมก็ยินดี เพราะเราก็จะได้พิสูจน์ความจริงให้เปิดเผยต่อสาธารณชน ที่สำคัญคะแนน GPAX และ GPA ไม่สามารถแก้ไขได้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคะแนนที่ส่งมาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้เรื่องที่เด็กแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ สกอ.โทรไปแจ้งให้เขาไปสอบสัมภาษณ์ที่ มก.ผมคิดว่าเป็นการกุเรื่อง เพราะขณะนี้ สกอ.ยังไม่มีการประกาศผลแอดมิชชันเพิ่มเติม เนื่องจากอยู่ระหว่างประสานคืนสิทธิ์ให้นักเรียนกลุ่มที่ผ่านการคัดเลือกรับตรงกับทางมหาวิทยาลัยต่างๆ อยู่ โดยคาดว่าเราจะประกาศผลแอดมิชชันเพิ่มเติมให้เด็กกลุ่มนี้ได้หลังวันที่ 12 พ.ค.ผมอยากให้เด็กเอาความจริงมาพูดกัน และยืนยันว่าผลแอดมิชชันของเด็กคนนี้ไม่ติดคณะใด”

นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าระบบคอมพิวเตอร์ของ สกอ.มีความปลอดภัยสูง นักเรียนไม่สามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลได้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ฝ่ายเทคนิคจับได้ว่ามีความพยายามเข้าไปรบกวนระบบ ซึ่งเรายังสามารถดูแลได้

ด้าน นางอุษา พึ่งธรรม นักวิชาการสาธารณสุข 8 สำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ไม่สามารถระบุได้ว่าเด็กมีความผิดปกติหรือไม่อย่างไร ทางที่ดีต้องทำการพูดคุยกับเด็กถึงจะทราบได้ว่าสิ่งที่เขากระทำไปนั้น เพื่อความต้องการ หรือวัตถุประสงค์อะไร เพราะเรื่องนี้อาจเป็นไปได้ว่า เด็กอาจถูกพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือคนในครอบครัวกดดัน รวมไปถึงอาจเป็นความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งของเด็กก็เป็นได้ อย่างเด็กที่แข่งรถตอนกลางคืน ซึ่งคนทั่วไปอาจมองว่าอันตราย กระทำทำไม เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรต่อตัวเอง และผู้อื่น แต่สำหรับพวกเขาอาจมีเหตุผลสำหรับการกระทำดังกล่าว อาทิ เพื่อตอบสนองความต้องการ ความเร้าใจ ของตนเอง เป็นต้น

ดังนั้น กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น จึงอาจเป็นไปได้ว่าเด็กกระทำไปโดยมีเหตุผลของตนเอง เพื่อสนองต่อความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยที่เขาอาจไม่ได้คำนึงถึงความเสียหาย ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากฝากพ่อแม่ผู้ปกครอง ครอบครัว อย่าไปคาดหวังกับเด็กมากจนเกินไป ควรมองความต้องการที่แท้จริงของเด็ก และพูดคุยกับลูกด้วยความเข้าใจ ไม่สร้างแรงกดดันต่อเด็ก
กำลังโหลดความคิดเห็น