อุ้มหนุ่มวิน จยย.จาก ม.เกษตรขึ้นรถตู้ต่อหน้าต่อตาภรรยาไปฆ่าทิ้งในพงหญ้าย่านลาดกระบัง ผบก.น.3 สั่งไล่ล่าคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนเพราะพฤติกรรมเย้ยกฎหมาย
วันนี้ (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ธนวัฒน์ ศรีอนุชา สารวัตรเวร สน.จระเข้น้อย รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณพงหญ้าข้างทาง ภายในซอยวัดพลมานี ถนนประชาพัฒนา แยกถนนเลียบคลองมอญ แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.3 พ.ต.อ.คงกฤช บัวบาน ผกก.สน.จระเข้น้อย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นพงหญ้ามีน้ำขังบริเวณริมถนน เจ้าหน้าที่พบศพ นายฉัตรชัย มั่นบุญสม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/292 ซอยโรงสูบน้ำ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. สวมกางเกงยีนส์สีดำ ไม่สวมเสื้อ ที่ลำตัวมีเสื้อยืดโปโลสีชมพูวางอยู่ จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถลอกบริเวณใบหน้า ลำคอ และรอยฟกช้ำจำนวนหลายแห่ง ที่ใบหน้าและศีรษะพบว่าฐานกะโหลกของผู้ตายคล้ายถูกตีด้วยของแข็ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10-12 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานรายละเอียดต่างๆ ในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ
ต่อมา นางสาวินี มณฑปใหญ่ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 2 ต.ลาดยาว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ภรรยาผู้ตาย พร้อมญาติอีกจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาในที่เกิดเหตุ พร้อมกับให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ผู้ตายและตนพักอาศัยอยู่ที่แฟลต 1 กรมวิชาการเกษตร ภายใน มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ด้วยกัน และผู้ตายก็ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่โรงสูบ เบอร์ 60 อยู่ภายในมหาวิทยาลัย ส่วนตนทำงานเป็นลูกจ้างประจำ อยู่สำนักกิจการนักศึกษา ของ ม.เกษตรฯ โดยเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วานนี้ (12 ก.ค.) ขณะที่ผู้ตายลงมาซื้อส้มตำที่ชั้นล่างของแฟลต ระหว่างนั้นก็ได้มี นายจวง ซึ่งขับวินรับจ้างอยู่ใน ม.เกษตรฯ พร้อมพวกอีกประมาณ 5 คน ได้ขับรถตู้วินวิ่งระหว่างมีนบุรีกับหัวตะเข้ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 12-6891 กทม.มาจอด จากนั้นจึงได้ลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตายจนสลบก่อนที่จะหิ้วตัวผู้ตายขึ้นรถตู้แล้วขับออกไป
“จึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ไว้เป็นหลักฐานเมื่อวานนี้ จนกระทั่งมารู้อีกทีว่าสามีเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ผู้ตายจะสวมสร้อยคอทองคำ หนักประมาณ 2 สลึง 1 เส้น แต่ที่ศพกลับไม่มี คาดว่าคนร้ายน่าจะฉกทรัพย์สินไปด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาส่วนตัวระหว่างผู้ตายกับนายจวงก็มีบ้างแต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง และไม่คิดว่าจะต้องถึงขั้นลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้” นางสาวินี กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายกับนายจวงน่าจะมีปัญหาส่วนตัวกัน แล้วเกิดทะเลาะวิวาทจนปัญหาบานปลาย ซึ่งนายจวงก็ได้พาพวกมารุมทำร้ายผู้ตายจนสลบ ก่อนหิ้วตัวขึ้นรถแล้วนำมาทิ้งไว้ในป่าหญ้ารกและเปลี่ยว คาดว่าระหว่างที่นำผู้ตายมาทิ้ง นายฉัตรชัยน่าจะยังไม่ตาย เพราะจากการสันนิษฐานของแพทย์พบว่าผู้ตายเสียชีวิตประมาณ 10-12 ชม .แต่ผู้ตายถูกอุ้มขึ้นรถเวลาประมาณ 14.00 น.ของวานนี้ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งดำเนินการจับกุมคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนเพราะถือมีพฤติกรรมเย้ยกฎหมาย