“ชัยวุฒิ” ย้ำหาก สกอ.ผิดยินดีจะคืนสิทธิ์ให้นร.ที่พลาดสอบเอเน็ตทันทีไม่มีเงื่อนไข ยันเท่าที่ตรวจสอบยังไม่พบข้อผิดปกติของระบบ พร้อมรับปากจะหาทางเยียวยานักเรียนที่พลาดให้โปร่งใสไม่เหลื่อมล้ำ เผยเปิดศูนย์ร้องเรียนทั่วประเทศถึง 13 ก.พ.นี้
วันนี้ (9 ก.พ.) เวลา 11.30น.นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แถลงข่าวกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เปิดรับเรื่องร้องเรียนจากนักเรียนที่มีปัญหาการสมัครสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) ที่ได้สมัครสอบเอเน็ตแต่ไม่ได้ชำระเงินว่า วันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมสกอ.ซึ่งเป็นศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเด็กสมัคร สกอ.เปิดตั้งแต่เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันหยุด โดยยอดรวมทั้งสิ้น 76 คน และช่วงเช้าวันนี้มี 9 คน โดยเหตุผลที่ระบุแตกต่างกันไป ในส่วนของกรณีที่มีปัญหาเรื่องการอ่านแถบบาร์โค้ดจำนวน 3 คน ซึ่งทั้ง 3 ให้ข้อมูลว่าได้จ่ายที่ไปรษณีย์ไทย และแถบที่ไม่อ่าน ซึ่งเมื่อได้รับเรื่อง สกอ.ประสานไปไปรษณีย์ทุกแห่งแล้วว่าหากมีปัญหานี้ให้แนะนำให้ไปทำการที่ธนาคารแทน
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การจ่ายเงินที่ทำการธนาคารนั้นเด็กส่วนใหญ่ทำได้ และนักเรียนจำนวน 1.9 แสนที่ไม่มีปัญหานั้นส่วนใหญ่จ่ายผ่านธนาคาร ซึ่งไม่ได้ยิงบาร์โค้ด แต่จะคีย์เลขที่อ้างอิง (Reference number) ซึ่งเป็นตัวเลข 2 แถว สองชุดที่ชัดเจนแทน จึงไม่พบข้อผิดพลาดจากการจ่ายผ่านธนาคาร
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในขณะนี้เท่าที่ตรวจสอบระบบด้วยตนเองพบว่ายังไม่มีข้อผิดพลาดใดๆของระบบ จะมีเพียงตามที่ร้องเรียนเป็นส่วนใหญ่คือ ใบระเบียบการสมัครออนไลน์หน้าสุดท้ายไม่ระบุวันสิ้นสุดการจ่ายเงิน แต่ตนเห็นว่าระบบการเขียนใบสมัครออนไลน์นั้นกว่าจะถึงหน้าสุดท้ายยืนยันว่ามีระบุวันสิ้นสุดการรับชำระแน่นอน และยืนยันว่าเอกสารออนไลน์ชุดนี้ได้นำขึ้นระบบออนไลน์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 แล้ว
“รัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายมาอย่างชัดเจนว่า หากมีการผิดพลาดที่ระบบให้คืนสิทธิ์แก่เด็กทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข แต่หากเป็นกรณีอื่นต้องพิจารณาให้ได้รับการเยียวยาให้ดีที่สุด ทางเราดูในเชิงของนโยบาย และการปฏิบัติในขอบเขตของการเป็นตัวกลาง ทั้งนี้การพิจารณาคืนสิทธิ์ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการอำนวยการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งเป็นตัวแทนจากมหาวิทยาลัยต่างๆ”
นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุด คือ ต้องจัดการเยียวยาเด็กที่สมัครแล้วไม่ได้ชำระเงินกลุ่มนี้อย่างไรให้ไม่กระทบกับเด็กอีก 1.9 แสนคน เป็นโจทย์ที่จะทำอย่างไรให้เด็กที่หากได้รับการคืนสิทธิ์จะสามารถเข้าสอบพร้อมกับเด็กอีก 1.9 แสนคน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมโปร่งใส ไม่เหลื่อมล้ำ และเด็กที่ชำระเงินไปแล้ว ทางระบบออนไลน์กำลังจัดทำผังที่นั่งสอบในสนามสอบ ซึ่งจะออนไลน์พร้อมกันทั้งประเทศในวันที่ 14 ก.พ.พร้อมกันทั่วประเทศ และวันสอบก็ถูกกำหนดไว้แล้วเช่นกันคือวันที่ 28 ก.พ.
ผู้สื่อข่าวถามถึงเด็กที่มาร้องเรียนจำนวนหนึ่งว่า ต้องการสมัครสอบโดยที่ยังไม่เคยสมัครสอบเลยว่าจะให้สิทธิ์เด็กกลุ่มนี้ด้วยหรือไม่ รมช.ศธ.ตอบว่าหากจะให้สิทธิ์เด็กกลุ่มนี้ต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นักเรียนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการชำระเงินสามารถเดินทางมาร้องเรียนได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนได้ถึงวันศุกร์ที่ 13 ก.พ.นี้ หากอาศัยอยู่ที่ต่างจังหวัดให้เดินทางไปร้องเรียนได้ที่โรงเรียนประจำจังหวัดเริ่มวันพรุ่งนี้ (10 ก.พ.) เวลา 09.00-16.00 น.
“อยากให้ผู้ปกครองย้อนคิดว่าในสมัยที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบเอ็นทรานซ์การซื้อใบสมัครต้องนั่งรถมาด้วยตนเอง เดินทางมายื่นใบสมัครด้วยตนเอง ตามวันและเวลาที่กำหนด ต่างกับสมัยนี้การลงทะเบียนในอินเตอร์เน็ตทำได้ง่ายมาก อาจจะง่ายจนละเลย และหลงลืม” นายชัยวุฒิ กล่าวย้ำ
นายชัยวุฒิ ได้หยิบยกตัวอย่างนักเรียนที่เข้ามาโพสต์ในเว็บเด็กดี คาดว่าน่าจะเป็น 1 ในจำนวน 1.9 แสนราย ไม่ให้คืนสิทธิแก่นักเรียนที่ไม่มาชำระเงิน ซึ่งเราจะนำคอมเม็นต์ของนักเรียนที่โพสต์ไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆ มาประกอบการพิจารณา ร่วมกับยอดนักเรียนที่ยื่นคำร้องขอให้คืนสิทธิ โดยจะขอดูเหตุผลนักเรียนทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้คณะกรรมการอำนวยการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งคณะกรรมการฯชุดนี้จะมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ตัดสิน