กทม.เล็งเปิดตลาดขายของถูก 54 ชั่วโมง ที่สนามหลวง 3 วัน ในอีก 1 เดือนเปิดแน่ ขณะที่ตลาดนัดจตุจักรเริ่มขายศุกร์แรก 20 ก.พ.นี้ ทำเป็นตลาดมิดไนต์ 200 แผงขาย สินค้าได้ทุกประเภทหมุนเวียน ผู้ค้าด้วยวิธีจับสลากเปิดโอกาสให้ทุกคน
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดตลาดนัดขายของราคาประหยัดที่ท้องสนามหลวง ตามนโยบายช่วยผู้มีรายได้น้อยในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำของกทม.ว่า จากการหารือร่วมกับผู้ประกอบการสินค้าอุปโภค บริโภค อาทิ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือสหพัฒน์ นั้น เบื้องต้นจะจัดภายใต้รูปแบบงานขายของถูก 54 ชั่วโมง ในเวลา 3 วัน ซึ่งผู้ประกอบการ และบริษัทที่ กทม.ไปติดต่อให้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมนั้น ก็ได้ให้การตอบรับมาเป็นอย่างดีว่าจะนำผลิตภัณฑ์ในเครือมาลดราคาพิเศษ อาทิ เสื้อผ้ายี่ห้อลาคอส แอร์โรว์ ชุดชั้นในวาโก้ ที่จะลดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงสินค้าบริโภคอื่นๆ ด้วย ซึ่งรูปแบบดังกล่าวจะได้นำหารือเพื่อหาข้อยุติในการประชุมผู้บริหาร กทม.สัปดาห์หน้า และจะเร่งสรุปผลให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนกุมภาพันธุ์นี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่า การเปิดตลาดนัดขายของถูกนั้นจะทำได้ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า ในการหารือกับผู้ประกอบการนั้น ตัวแทนบริษัทได้เสนอแนะด้วยว่า อยากให้จัดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไม่เฉพาะแค่ 3 วัน ที่สนามหลวงอย่างเดียว ภายใน 1 เดือน หรือ 3 เดือน หรือแล้วแต่ความเหมาะสมควรจะจัดในพื้นที่อื่นๆ บ้าง ซึ่งเท่าที่ตนวางแผนไว้ ก็คือ จะขยายไปยังกลุ่มโซนต่างๆ ของ กทม.แต่จะเป็นช่วงเวลาใดขอประเมินผลหลังการเปิดตลาดขายของถูกที่สนามหลวงก่อน
ด้านนายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษก กทม.กล่าวว่า ตามที่ กทม.มีมติเปิดตลาดนัดจตุจักรวันศุกร์เพิ่มอีก 1 วันนั้น ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะเริ่มเปิดทำการค้าวันศุกร์แรกในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.เพื่อเป็นตลาดมิดไนต์สามารถจำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภท โดยเปิดแผงค้าหน้ากองอำนวยการตลาดนัดจตุจักร อีก 200 แผง ซึ่งแผงจะมีขนาด 2x 2 เมตร
ประชาชนที่สนใจสามารถยื่นของลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่กองอำนวยการตลาดนัดจตุจักรตั้งแต่วันที่ 6-11 กุมภาพันธ์ จากนั้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ก็จะดำเนินการจับสลากกรณีที่มีผู้มาลงทะเบียนเกิน 200 คน แต่หากมาลงทะเบียนไม่ถึงก็จะจับสลากว่าใครจะได้แผงค้าล็อกใดโดยผู้ที่ได้แผงจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะต้องเสียค่ารักษาความสะอาดเดือนละ 100 บาท สำหรับคุณสมบัติจะต้องไม่ใช่ผู้ที่มีแผงค้าอยู่ในตลาดนัดจตุจักรอยู่แล้ว และจะมีการจับสลากใหม่ทุกเดือนเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ผิดหวัง
นอกจากนี้ ยังยืนยันด้วยว่า การดำเนินการจะเป็นไปด้วยความโปร่งใสทุกขั้นตอนและเชื่อว่าการปล่อยเช่าช่วงคงจะเป็นไปได้ยากเพราะได้มีการจับฉลากหมุนเวียนผู้ค้าใหม่ทุกเดือน
