เผยยอดลงทะเบียนขายจตุจักรมิดไนท์ 2 วัน พุ่งเกือบ 4 ,000 ราย ส่วนใหญ่ขอขายสินค้าเบ็ดเตล็ด พร้อมคาดโทษตัดสิทธิ์ตลอดชีพผู้ที่ได้แผงค้าแต่นำไปขายต่อเพื่อเก็งกำไร และเร่งหารือตำรวจท้องที่ขอใช้ถนนกำแพงเพชร 1 ช่องทางเป็นที่จอดรถอำนวยความสะดวกคนจับจ่าย
นายอรุณ ศรีจรูญ รักษาการผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (จตุจักร) เปิดเผยว่า วันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจมาลงทะเบียนค้าขายในพื้นที่หน้ากองอำนวยการตลาดนัดจตุจักรซึ่งจะเปิดขายในแรกในวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ไม่คึกคักเท่าวันแรกโดยมีผู้มาลงทะเบียนจำนวน 1,581 รายใน 3 ประเภทแยกเป็นเสื้อผ้า 444 ราย อาหารและเครื่องดื่ม 424 ราย และเบ็ดเตล็ด 713 ราย รวมทั้ง 2 วันมีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 3,974 ราย แยกเป็นเสื้อผ้ารวม 1,165 ราย อาหารและเครื่องดื่มรวม 1,060 ราย ส่วนประเภทเบ็ดเตล็ดรวม 1,749 ราย
นายอรุณ กล่าวอีกว่า ได้มีการปรึกษากับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการขอปรับเพิ่มแผงค้าจากเดิมกำหนดไว้ 200 แผงจะเพิ่มเป็น 300 แผง โดยการปรับลดขนาดแผงให้เล็กลง หรือให้ติดชิดกันมาก และจะเปิดให้ลงทะเบียนถึงวันที่ 11 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. จากนั้นวันที่ 12 ก.พ. จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน โดยจะต้องไม่เป็นผู้ค้าที่มีรายชื่อค้าขายในตลาดนัดจตุจักร และตลาดนัดเมืองมีน (จตุจักร 2) และจะจับฉลากผู้ที่มีสิทธิ์ในวันที่ 13 ก.พ. โดยผู้ลงทะเบียนจะทำการจับฉลากด้วยตนเอง พร้อมจ่ายเงินค่าทำความสะอาด 100 บาท
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผู้ใดที่ได้แผงขายสินค้าและนำไปขายต่อเพื่อหวังกำไร จะถูกตัดสิทธิ์ในการขายทันที และจะไม่มีสิทธิ์มาลงทะเบียนเพื่อค้าขายอีกต่อไป ในส่วนของการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาจับจ่ายนั้นตนจะไประสานไปยังสถานีตำรวจนครบาลพื้นที่เพื่อขอใช้พื้นที่การจราจรบนถนนกำแพงเพชรฝั่งเข้าเมืองติดกับตลาดนัดจตุจักรมาเป็นพื้นที่จอดรถให้กับผู้มาซื้อสินค้า ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากตำรวจ
สำหรับกรณีที่มีผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรร้องเรียนว่า พื้นที่ดังกล่าวอาจกระทบต่อยอดขายนั้น นายอรุณ กล่าวว่า ตลาดนัดจตุจักรในวันเสาร์อาทิตย์มีผู้มาใช้บริการร่วม 200,000 คน จำนวนนี้มากพอที่จะเข้าไปซื้อ หรือจับจ่ายสินค้าด้านใน และศักยภาพการค้าขายย่อมสูงกว่าด้านนอก เพราะด้านในเป็นแผงถาวรสามารถตกแต่งอะไรก็ได้ แต่ด้านนอกไม่สามารถทำอะไรได้มาก และไม่สามารถขายของเพื่อเป็นอาชีพหลักได้เพราะต้องมีการผลัดเปลี่ยนผู้ค้าทุกเดือน จึงขอให้ผู้ค้าด้านในเสียสละให้ผู้ที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจให้สามารถขายสินค้าได้อย่างราบรื่น
ด้าน น.ส.กลอยจิต แก้วบรรจง อายุ 42 ปี ผู้มาลงทะเบียนค้าขายกล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่จะช่วยให้ผู้ที่ตกงาน หรือผู้ที่มีรายได้น้อยมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากขึ้น เพราะตอนนี้ตนเองมีเพียงอาชีพรับจ้าง หากได้สิทธิ์ขายสินค้าก็จะน่าจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เป็นห่วงในเรื่องที่จะมีผู้มาใช้บริการน้อยจะทำให้ขายสินค้าไม่ได้
ส่วนนางวรารัช เศรษฐจักร อายุ 55 ปี กล่าวว่า มีอาชีพรับตัดเสื้อส่งตามร้านต่างๆ แต่ไม่มีร้านค้าเป็นของตัวเอง หากได้แผงขายสินค้าก็น่าจะทำให้ตนเองมีรายได้มากขึ้น และเชื่อว่าจะมีคนมาจับจ่ายซื้อขายจำนวนมาก
นายอรุณ ศรีจรูญ รักษาการผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (จตุจักร) เปิดเผยว่า วันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจมาลงทะเบียนค้าขายในพื้นที่หน้ากองอำนวยการตลาดนัดจตุจักรซึ่งจะเปิดขายในแรกในวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ไม่คึกคักเท่าวันแรกโดยมีผู้มาลงทะเบียนจำนวน 1,581 รายใน 3 ประเภทแยกเป็นเสื้อผ้า 444 ราย อาหารและเครื่องดื่ม 424 ราย และเบ็ดเตล็ด 713 ราย รวมทั้ง 2 วันมีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 3,974 ราย แยกเป็นเสื้อผ้ารวม 1,165 ราย อาหารและเครื่องดื่มรวม 1,060 ราย ส่วนประเภทเบ็ดเตล็ดรวม 1,749 ราย
นายอรุณ กล่าวอีกว่า ได้มีการปรึกษากับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการขอปรับเพิ่มแผงค้าจากเดิมกำหนดไว้ 200 แผงจะเพิ่มเป็น 300 แผง โดยการปรับลดขนาดแผงให้เล็กลง หรือให้ติดชิดกันมาก และจะเปิดให้ลงทะเบียนถึงวันที่ 11 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. จากนั้นวันที่ 12 ก.พ. จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน โดยจะต้องไม่เป็นผู้ค้าที่มีรายชื่อค้าขายในตลาดนัดจตุจักร และตลาดนัดเมืองมีน (จตุจักร 2) และจะจับฉลากผู้ที่มีสิทธิ์ในวันที่ 13 ก.พ. โดยผู้ลงทะเบียนจะทำการจับฉลากด้วยตนเอง พร้อมจ่ายเงินค่าทำความสะอาด 100 บาท
อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผู้ใดที่ได้แผงขายสินค้าและนำไปขายต่อเพื่อหวังกำไร จะถูกตัดสิทธิ์ในการขายทันที และจะไม่มีสิทธิ์มาลงทะเบียนเพื่อค้าขายอีกต่อไป ในส่วนของการอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาจับจ่ายนั้นตนจะไประสานไปยังสถานีตำรวจนครบาลพื้นที่เพื่อขอใช้พื้นที่การจราจรบนถนนกำแพงเพชรฝั่งเข้าเมืองติดกับตลาดนัดจตุจักรมาเป็นพื้นที่จอดรถให้กับผู้มาซื้อสินค้า ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากตำรวจ
สำหรับกรณีที่มีผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรร้องเรียนว่า พื้นที่ดังกล่าวอาจกระทบต่อยอดขายนั้น นายอรุณ กล่าวว่า ตลาดนัดจตุจักรในวันเสาร์อาทิตย์มีผู้มาใช้บริการร่วม 200,000 คน จำนวนนี้มากพอที่จะเข้าไปซื้อ หรือจับจ่ายสินค้าด้านใน และศักยภาพการค้าขายย่อมสูงกว่าด้านนอก เพราะด้านในเป็นแผงถาวรสามารถตกแต่งอะไรก็ได้ แต่ด้านนอกไม่สามารถทำอะไรได้มาก และไม่สามารถขายของเพื่อเป็นอาชีพหลักได้เพราะต้องมีการผลัดเปลี่ยนผู้ค้าทุกเดือน จึงขอให้ผู้ค้าด้านในเสียสละให้ผู้ที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจให้สามารถขายสินค้าได้อย่างราบรื่น
ด้าน น.ส.กลอยจิต แก้วบรรจง อายุ 42 ปี ผู้มาลงทะเบียนค้าขายกล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่จะช่วยให้ผู้ที่ตกงาน หรือผู้ที่มีรายได้น้อยมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากขึ้น เพราะตอนนี้ตนเองมีเพียงอาชีพรับจ้าง หากได้สิทธิ์ขายสินค้าก็จะน่าจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เป็นห่วงในเรื่องที่จะมีผู้มาใช้บริการน้อยจะทำให้ขายสินค้าไม่ได้
ส่วนนางวรารัช เศรษฐจักร อายุ 55 ปี กล่าวว่า มีอาชีพรับตัดเสื้อส่งตามร้านต่างๆ แต่ไม่มีร้านค้าเป็นของตัวเอง หากได้แผงขายสินค้าก็น่าจะทำให้ตนเองมีรายได้มากขึ้น และเชื่อว่าจะมีคนมาจับจ่ายซื้อขายจำนวนมาก