“สุขุมพันธุ์” เตรียมหารือ “อภิสิทธิ์” ของบให้เปล่ากระตุ้นเศรษฐกิจเมืองกรุง 2,000 ล้านบาท กระตุ้น 4 ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ท่องเที่ยว พร้อมพิจารณาเพิ่มจุดผ่อนช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อย-ยืมสถานที่เอกชนเปิดตลาดนัดเสาร์-อาทิตย์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ตนตัดสินใจที่จะอัดฉีดงบประมาณ กทม.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ซึ่งขณะนี้กำลังร่างแผนเบิกจ่ายงบประมาณก่อนที่จะนำเสนอต่อสภา กทม.เพื่อขออนุมัติงบ 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ ตนจะเข้าคารวะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมกับหารือของบสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อให้เม็ดเงินตกถึงมือประชาชน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจใน กทม.โดยเป็นงบให้เปล่า ทั้งนี้ งบ 2,000 ล้านบาทจะนำมากระตุ้นใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
“ผมอยากให้รัฐบาลแบ่งงบกระตุ้นเศรษฐกิจมาให้ กทม.ดูแลโดยตรง และเงินจำนวน 2,000 ล้านบาทนี้ เมื่อเทียบกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจแสนกว่าล้าน ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก ผมจะไปหน้าด้านขอ ขอใช้ฟรีเพื่อชาวกทม.” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจ กทม.นั้น นอกเหนือจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณใหม่มาได้ 3 เดือน กทม.สามารถเบิกจ่ายงบไปได้แค่ 17% จึงต้องเร่งดำเนินการทั้งเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่มีกระบวนอยู่แล้ว แต่จะดำเนินการให้เร็วยิ่งขึ้น การจ่ายเงินยังชีพให้กับข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.การจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการที่จะต้องเปิดลงทะเบียนให้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น และจะเร่งพิจารณานอกจากนี้ จะพิจารณาเพิ่มจุดผ่อนผันจากที่มีอยู่ 683 จุด เพื่อช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยซึ่งอาจจะเอาจุดที่ขายอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นจุดผ่อนผันมาเป็นจุดผ่อนผัน รวมถึงหาสถานเอกชนที่ว่าง ไม่ได้ใช้ในวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเป็นตลาดนัด แม้แต่ขยายเวลาเปิดให้จำหน่ายสินค้าในตลาดนัดจตุจักร สนามหลวง 2 เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ใน 1 เดือนนี้
ด้าน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ฝ่ายเศรษฐกิจ การคลัง เปิดเผยว่า ในการเขียนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนจะนำระเบียบกทม.ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการและการสงเคราะห์ พ.ศ.2541 อาทิ ให้ทุนประกอบอาชีพ ทำลานกีฬา จ้างชุมชนตัดเย็บชุดนักเรียน ทำถนน ทำทาง มาเป็นรูปแบบในการดำเนินแผน ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาร่างแผนประมาณ 15 วัน และเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภา กทม.ได้ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ตนคาดว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะได้ผ่านการพิจารณาของสภา กทม.และสามารถเบิกจ่ายได้ต้นเดือนเมษายน พ.ศ.2552
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ตนตัดสินใจที่จะอัดฉีดงบประมาณ กทม.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ซึ่งขณะนี้กำลังร่างแผนเบิกจ่ายงบประมาณก่อนที่จะนำเสนอต่อสภา กทม.เพื่อขออนุมัติงบ 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ ตนจะเข้าคารวะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมกับหารือของบสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อให้เม็ดเงินตกถึงมือประชาชน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจใน กทม.โดยเป็นงบให้เปล่า ทั้งนี้ งบ 2,000 ล้านบาทจะนำมากระตุ้นใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
“ผมอยากให้รัฐบาลแบ่งงบกระตุ้นเศรษฐกิจมาให้ กทม.ดูแลโดยตรง และเงินจำนวน 2,000 ล้านบาทนี้ เมื่อเทียบกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจแสนกว่าล้าน ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก ผมจะไปหน้าด้านขอ ขอใช้ฟรีเพื่อชาวกทม.” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจ กทม.นั้น นอกเหนือจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณใหม่มาได้ 3 เดือน กทม.สามารถเบิกจ่ายงบไปได้แค่ 17% จึงต้องเร่งดำเนินการทั้งเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างที่มีกระบวนอยู่แล้ว แต่จะดำเนินการให้เร็วยิ่งขึ้น การจ่ายเงินยังชีพให้กับข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.การจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการที่จะต้องเปิดลงทะเบียนให้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น และจะเร่งพิจารณานอกจากนี้ จะพิจารณาเพิ่มจุดผ่อนผันจากที่มีอยู่ 683 จุด เพื่อช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยซึ่งอาจจะเอาจุดที่ขายอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นจุดผ่อนผันมาเป็นจุดผ่อนผัน รวมถึงหาสถานเอกชนที่ว่าง ไม่ได้ใช้ในวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเป็นตลาดนัด แม้แต่ขยายเวลาเปิดให้จำหน่ายสินค้าในตลาดนัดจตุจักร สนามหลวง 2 เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ใน 1 เดือนนี้
ด้าน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ฝ่ายเศรษฐกิจ การคลัง เปิดเผยว่า ในการเขียนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนจะนำระเบียบกทม.ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการและการสงเคราะห์ พ.ศ.2541 อาทิ ให้ทุนประกอบอาชีพ ทำลานกีฬา จ้างชุมชนตัดเย็บชุดนักเรียน ทำถนน ทำทาง มาเป็นรูปแบบในการดำเนินแผน ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาร่างแผนประมาณ 15 วัน และเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภา กทม.ได้ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ตนคาดว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะได้ผ่านการพิจารณาของสภา กทม.และสามารถเบิกจ่ายได้ต้นเดือนเมษายน พ.ศ.2552