“วิทยา” เร่งเพิ่มขวัญกำลังใจบุคลากร สธ.ทุกกลุ่ม ให้ได้รับความสุขใจถ้วนหน้า เผยเตรียมปรับค่าโอทีลูกจ้างชั่วคราว ขึ้นเป็น 300 บาท และจัดกลุ่มลูกจ้างใหม่เป็นระดับปฏิบัติงานและชำนาญงานเหมือนข้าราชการ เพิ่มเงินเดือนตามผลงาน
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยภายหลังนายประสินธ์ นาคกราย ประธานสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างชั่วคราวของรัฐแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบเพื่อยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือให้มีการเปลี่ยนสถานะลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นลูกจ้างในงบประมาณของแผ่นดินว่า การทำงานของบุคลากรสาธารณสุขขณะนี้ เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอย่างมาก เพราะนอกจากภาระงานที่ต้องแบกรับเกินกำลัง เนื่องจากขาดแคลนบุคลากรแล้ว ลักษณะงานที่ทำยังเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบสูงและเสี่ยงต่อสุขภาพด้วย ได้มอบนโยบายปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารระดับสูง ดูแลขวัญกำลังใจบุคลากร และดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณามาตรการปรับปรุงขวัญกำลังใจโดยเฉพาะ 1 ชุด ครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่แพทย์ไปถึงลูกจ้าง เพราะทุกคนมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนงานสาธารณสุขเท่าเทียมกัน ให้ได้ผลสรุปภายในเดือนนี้ เพื่อนำไปหารือกับ สปสช. พิจารณาปรับเพิ่มงบรายหัวในปีงบประมาณ 2553 ต่อไป
ด้านนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา ที่ปรึกษาด้านระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเรื่องค่าตอบแทน กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการสร้างขวัญกำลังใจบุคลากรสาธารณสุขนั้น กระทรวงสาธารณสุขมีการดำเนินการเป็น 2 ส่วน โดยบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และสหวิชาชีพต่างๆ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาธำรงรักษาและสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยมีแพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ซึ่งจะได้เชิญตัวแทนจากทุกสภาวิชาชีพ มาประชุมพิจารณากรอบแนวทางช่วยเหลือ รวมทั้งวงเงินที่ต้องใช้ในการดำเนินงาน ในวันที่ 22 มกราคมนี้ เพื่อเร่งรัดสรุปผลเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
สำหรับส่วนของลูกจ้างชั่วคราว เช่น พนักงานเวรเปล ได้มีการตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาการบริหารงานลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณไว้อยู่เดิมแล้ว และมีการหารือกันมาเป็นระยะๆ โดยล่าสุดในการประชุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับระเบียบกระทรวงการคลัง ที่ให้มีการจ่ายค่าครองชีพเพิ่มเติมต่างๆ ว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร และแนวทางแก้ไข รวมทั้งข้อสรุปเรื่องการขอเพิ่มค่าตอบแทนที่จ่ายด้วยเงินบำรุง หรือเงินโอที ซึ่งเป็นอำนาจของปลัดกระทรวง ได้อนุมัติให้เพิ่มค่าเวรเป็น 300 บาทตามข้อเสนอของทางลูกจ้างแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอลงนาม
นอกจากนี้ยังจะมีการพิจารณายกร่างการจัดกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวเป็นแท่งเหมือนกลุ่มข้าราชการ โดยให้มีเงินเดือนขั้นต่ำและขั้นสูงตามวุฒิ และแบ่งเป็นระดับปฏิบัติงานและชำนาญงาน ซึ่งหากข้าราชการมีการปรับเงินเดือน ลูกจ้างก็จะมีการปรับตามไปด้วย ส่วนการเพิ่มเงินเดือนจะคิดเพิ่ม 1-6 เปอร์เซ็นต์ตามผลการทำงานแต่ละปี ไม่ต้องคิดเป็นขั้นด้วย