บลจ.กรุงไทยถกการทางพิเศษฯ เดินหน้าตั้งกองทุนอินฟราสตรั๊คเจอ ระดมทุน 2 หมื่นล้านสร้าง"ทางด่วนศรีรัตน์" สายบางซื่อ-ตลิ่งชัน คาดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3 หรือ 4 ปีหน้า หลังขออนุมัติจากก.ล.ต. พร้อมเตรียมตั้งกองอสังหาฯ เพิ่มอีก 2 กองประเดิมสิ้นปีนี้ ลงทุนโรงแรมหรูบนเกาะภูเก็ตมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท
นางสาวประภา ปูรณโชติ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความพร้อมการจัดตั้งกองทุนรวมสาธารณูปโภค (Infrastructure Fund) ว่า ทางบลจ.กรุงไทยกำลังหารือกับบริษัท การทางพิเศษเเห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ในการจัดตั้งอินฟราสตรั๊คเจอร์ฟันด์ก่อสร้างทางด่วนบางซื่อ-ตลิ่งชันภายใต้ชื่อโครงการทางด่วนศรีรัตน์ มูลค่าโครงการ 29,000 ล้านบาท
ทั้งนี้รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายค่าเวรคืนที่ดินให้เเก่ประชาชนจำนวน 9,000 ล้านบาทเเละบลจ.กรุงไทยจะเป็นผู้ระดมเงินทุนจำนวน 20,000 ล้านบาทคาดว่าจะระดมทุนได้ในไตรมาส 2 หรือไตรมาที่ 3 ปี 2553 อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวจะต้องรอการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
สำหรับการก่อสร้างอาจจะทยอยสร้างไปที่ละเฟสประมาณ 10%ที่เหลืออาจะนำไปลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบเเทนที่ดีโดยเราต้องเสนอวิธีการดังกล่าวให้กับกระทรวงการคลังก่อนว่าจะเลือกวิธีไหน ทั้งนี้หากมีการตั้งกองทุนเสร็จสิ้นคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างโครงการทางด่วนศรีรัตน์ ประมาณ 4 ปี
"คาดว่าโครงการทางด่วนศรีรัตน์จะมีรถยนต์ใช้ประมาณ 80,000 คันต่อวัน ซึ่งทางด่วนดังกล่าวจะคู่ขนานไปกับรถไฟฟ้า BTSสายสีแดง ที่สำคัญกองทุนนี้จะเป็นเเบบ freehold โดยกองทุนจะให้ผลตอบเเทนที่ดีกับนักลงทุนเเน่นอน" นางสาวประภากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้จัดรับฟังความคิดเห็นไปบ้างแล้ว ในเบื้องต้นได้กำหนดขนาดกองทุนไว้ที่ 10,000 ล้านบาท โดยให้ลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานได้ทั้งในโครงการที่มีรายได้แล้ว และโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
ขณะเดียวกัน ยังอนุญาตให้สามารถแบ่งหน่วยลงทุนเป็นหลายประเภทได้พร้อมเปิดทางให้กู้ยืมได้ยืดหยุ่นกว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ด้วย ซึ่งหลักเกณฑ์ในส่วนนี้ ยังต้องศึกษารูปแบบกองทุนชัดเจน ก่อนจะออกเป็นประกาศต่อไป
เตรีมส่งกองอสังหาโรงเเรมจ.ภูเก็ตสิ้นปีนี้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์(Property Fund)ว่า กองทุนอสังหาฯโรงเเรมทั้งภูเก็ตเเละที่จังหวัดเชียงใหม่คืบหน้าอย่างมาก คาดว่าปลายปีนี้จะระดมทุนกองทุนอสังหาฯโรงเเรมที่จังหวัดภูเก็ตได้โดยขนาดของกองทุนจะอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ส่วนโรงเเรมที่จังหวัดเชียงใหม่คาดว่าจะเปิดระดมทุนได้ต้นปี 2553ซึ่งที่ผ่านมาการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบค่อนข้างมากทำให้การประเมินราคาต่ำกว่าความเป็นจริงค่อนข้างมาก
นางสาวประภา กล่าวเสริมว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์โรงเเรมที่จ.ภูเก็ตนั้นเป็นโรงเเรมประเภท Pool Villaโดยลูกค้าที่เข้าพักจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับสูงเเละมีอัตราการเช่า (Occupancy Rate) เฉลี่ย 65% ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนแบบถือครองกรรมสิทธิ์หรือ freehold
ส่วนกองทุนอสังหาริมทรัพย์โรงเเรมที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นจะมีขนาดกองทุนประมาณ 5,000ล้านบาทเป็นทรัพย์สินประเภท freehold โดยโรงเเรมดังกล่าวเป็นโรงเเรมที่ถือว่ามีอัตราค่าห้องสูงที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าประจำเข้าพักเช่นกัน เเต่ช่วงที่ผ่านมาอาจจะได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวทำให้อัตราการเช่าลดลงเหลือเพียง50% เท่านั้น ทำให้เราต้องชะลอโครงการดังกล่าวออกไปก่อนเเต่มั่นใจว่าต้นปีหน้าระดมทุนได้
