ตลาดหลักทรัพย์จับมือสภาวิชาชีพบัญชี พัฒนาวิชาชีพบัญชี มุ่งปรับปรุงมาตรฐานสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน โดยตั้งเป้าให้บริษัทใน SET 50 เริ่มใช้มาตรฐานการบัญชีสากล ปี 54
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ในภาวะที่ตลาดทุนทั่วโลกมีการแข่งขันเพื่อดึงดูดผู้ลงทุน ความเชื่อมั่นในการลงทุนนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดทุนมีความน่าสนใจดังนั้น จึงเกิดกระแสการผลักดันให้ใช้มาตรฐานการบัญชีสากล หรือ International Financial Reporting Standards (IFRS) ในการจัดทำรายงานทางการเงินให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ผู้ลงทุนที่สามารถเปรียบเทียบข้อมูลของบริษัทในประเทศต่างๆ ได้สะดวก ส่งเสริมให้มีการลงทุนระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น
“ตลาดทุนในกว่า 100 ประเทศ ได้กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำรายงานทางการเงินตามมาตรฐานการบัญชีสากล ตลาดหลักทรัพย์ ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลและการเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานการบัญชีสากลเช่นกัน จึงให้การสนับสนุนสภาวิชาชีพบัญชีฯ ในการพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี ซึ่งจะส่งเสริมให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก” นายปกรณ์ กล่าว
ศาสตราจารย์ เกษรี ณรงค์เดช นายกสภาวิชาชีพบัญชีฯ กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ ว่า “สภาวิชาชีพบัญชีฯ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกถึง 65,000 คน มีหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพบัญชีของไทยให้มีมาตรฐานและคุณภาพระดับสากล โดยความร่วมมือและการสนับสนุนเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะทำให้เกิดการพัฒนาด้านต่างๆ อาทิ มาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการสอบบัญชี จรรยาบรรณวิชาชีพบัญชี การประกันคุณภาพการปฏิบัติงานสอบบัญชี และการเผยแพร่ความรู้ทางบัญชี เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป โดยสภาวิชาชีพบัญชีฯ และตลาดหลักทรัพย์มีแผนร่วมกันที่จะให้บริษัทจดทะเบียนใน SET50 ปฏิบัติใช้มาตรฐานการบัญชีสากลในปี 54”
ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล อุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของบริษัทจดทะเบียนในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีไทย และได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และสภาวิชาชีพบัญชีฯ มาอย่างต่อเนื่อง
“บทบาทที่สำคัญของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย คือ การเผยแพร่ข้อมูลให้กับบริษัทจดทะเบียนได้รับทราบถึงแนวโน้มของการพัฒนามาตรฐานบัญชีของไทย และเปิดรับฟังความเห็นรวมทั้งข้อเสนอแนะจากบริษัทจดทะเบียนเพื่อนำไปหารือกับสภาวิชาชีพบัญชีฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุน” ดร.วีรวัฒน์ กล่าว
ความร่วมมือในการพัฒนาวิชาชีพบัญชีในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการเสริมสร้างคุณภาพงานสอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้รายงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาตลาดทุนให้มั่นคงในระยะยาว
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ในภาวะที่ตลาดทุนทั่วโลกมีการแข่งขันเพื่อดึงดูดผู้ลงทุน ความเชื่อมั่นในการลงทุนนับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดทุนมีความน่าสนใจดังนั้น จึงเกิดกระแสการผลักดันให้ใช้มาตรฐานการบัญชีสากล หรือ International Financial Reporting Standards (IFRS) ในการจัดทำรายงานทางการเงินให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ผู้ลงทุนที่สามารถเปรียบเทียบข้อมูลของบริษัทในประเทศต่างๆ ได้สะดวก ส่งเสริมให้มีการลงทุนระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น
“ตลาดทุนในกว่า 100 ประเทศ ได้กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนจัดทำรายงานทางการเงินตามมาตรฐานการบัญชีสากล ตลาดหลักทรัพย์ ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลและการเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานการบัญชีสากลเช่นกัน จึงให้การสนับสนุนสภาวิชาชีพบัญชีฯ ในการพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานการบัญชี ซึ่งจะส่งเสริมให้ความน่าเชื่อถือของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก” นายปกรณ์ กล่าว
ศาสตราจารย์ เกษรี ณรงค์เดช นายกสภาวิชาชีพบัญชีฯ กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ ว่า “สภาวิชาชีพบัญชีฯ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกถึง 65,000 คน มีหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพบัญชีของไทยให้มีมาตรฐานและคุณภาพระดับสากล โดยความร่วมมือและการสนับสนุนเงินทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะทำให้เกิดการพัฒนาด้านต่างๆ อาทิ มาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการสอบบัญชี จรรยาบรรณวิชาชีพบัญชี การประกันคุณภาพการปฏิบัติงานสอบบัญชี และการเผยแพร่ความรู้ทางบัญชี เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป โดยสภาวิชาชีพบัญชีฯ และตลาดหลักทรัพย์มีแผนร่วมกันที่จะให้บริษัทจดทะเบียนใน SET50 ปฏิบัติใช้มาตรฐานการบัญชีสากลในปี 54”
ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล อุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวว่า สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของบริษัทจดทะเบียนในการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีไทย และได้ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และสภาวิชาชีพบัญชีฯ มาอย่างต่อเนื่อง
“บทบาทที่สำคัญของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย คือ การเผยแพร่ข้อมูลให้กับบริษัทจดทะเบียนได้รับทราบถึงแนวโน้มของการพัฒนามาตรฐานบัญชีของไทย และเปิดรับฟังความเห็นรวมทั้งข้อเสนอแนะจากบริษัทจดทะเบียนเพื่อนำไปหารือกับสภาวิชาชีพบัญชีฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทั้งบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุน” ดร.วีรวัฒน์ กล่าว
ความร่วมมือในการพัฒนาวิชาชีพบัญชีในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการเสริมสร้างคุณภาพงานสอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้รายงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาตลาดทุนให้มั่นคงในระยะยาว