นักวิทย์ 4 สาขา ทั้งด้านนิวเคลียร์ สิ่งแวดล้อม สารเคมีอันตราย และเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค เตรียมสอบใบประกอบวิชาชีพวิทย์ต้นปีหน้า หวังควบคุมผู้ไม่รู้สวมรอยแอบอ้างทำงาน ด้านนายกสภาวิชีพย้ำไม่ซ้ำซ้อนกับวิชาชีพอื่น พร้อมส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพวิทย์ทุกสาขาให้ก้าวหน้าและถูกต้องตามจรรยาบรรณ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) แถลงข่าวเปิดตัวสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.52 ที่ผ่านมา โดยมี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วท. เป็นประธาน พร้อมด้วยนายนิรุจน์ อุทธา นายกสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แถลงถึงนโยบายการทำงานของสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชนสนใจเข้าร่วมฟังจำนวนมาก
ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า สภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ฯ จะเป็นองค์กรหลักที่มีหน้าที่ดูแลผู้ประกอบวิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยส่งเสริมให้อยู่ในจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมทั้งควบคุมมิให้ผู้ที่ขาดความรู้ความสามารถเข้ามาประกอบวิชาชีพในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนและสังคม
ด้านนายนิรุจน์ ซึ่งเป็นนายกสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ฯ คนแรก ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ขณะนี้วิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมมี 4 สาขา ได้แก่ สาขานิวเคลียร์, สาขาการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านวิทยาศาสตร์และการควบคุมมลพิษ, สาขาการผลิต การควบคุม และการจัดการสารเคมีอันตราย และสาขาการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์และการใช้จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค
"คณะกรรมการสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ฯ มีวาระการทำงานรวม 3 ปี โดยในช่วงแรกนี้มีนโยบายพัฒนาองค์กร ระบบฐานข้อมูล การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาการประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมีจรรยาบรรณ โดยการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และฝึกอบรม ตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.วิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2551" นายนิรุจน์ กล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชน
"ขณะเดียวกันก็จะส่งเสริมและดำเนินการให้ผู้ที่ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมทั้ง 4 สาขามีใบประกอบวิชาชีพด้วยจัดทำหลักสูตรมาตรฐานวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมในแต่ละสาขา เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสาขาดังกล่าวเข้ารับการอบรมและทดสอบ ผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้รับใบประกอบวิชาชีพในสาขานั้น โดยขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการจัดทำหลักสูตร ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการอบรม ทดสอบ และออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในสาขาดังกล่าวได้ภายในปี 53" นายกสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ฯ กล่าว โดยในขณะนี้มีสมาชิกในสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ฯ แล้วกว่า 11,000 คน ทั่วประเทศ และคาดว่าในปีหน้าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50%
อย่างไรก็ดี นายกสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่าการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ฯ จะไม่ไปซ้ำซ้อนกับสภาวิชาชีพอื่น เพราะจะออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้ในสาขาที่ยังไม่มีการควบคุมมาก่อน เบื้องต้นกำหนดไว้ 4 สาขา แต่ในอนาคตอาจเพิ่มวิชาวิชาชีพอื่นเข้าไปตามความเหมาะสม ซึ่งผู้ที่ประกอบอาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในสาขาที่ควบคุมโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะมีโทษตามกฎหมายจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากผู้ที่ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังสามารถร้องเรียนกับสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์ฯ ได้
