“หมอวิชัย” พร้อมรับงานดูแลซีแอลหากถูกทาบทาม เตรียมเสนอยาด้านจิตเวช ชี้มีความจำเป็นทำซีแอลมากที่สุด เพราะยาราคาแพง ต้องกินติดต่อกันนาน
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานกรรมการบริการองค์การเภสัชกรรรม (อภ.) ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ (ซีแอล) กล่าวว่า หากได้รับการทาบทามให้มาดูแลเรื่องซีแอลต่อ ก็ยินดีเพราะเป็นงานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งขณะนี้ประชาชนยังมีปัญหาเข้าไม่ถึงยาอยู่ โดยเฉพาะยาด้านจิตเวช ซึ่งคิดว่ามีความจำเป็นต้องทำซีแอลมากที่สุด เพราะยามีราคาแพงมาก และผู้ป่วยต้องรับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน
นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินการซีแอลนั้น ขณะนี้มีคณะอนุกรรมการด้านการเข้าถึงยา ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งมี รศ.สำลี ใจดี เป็นประธาน อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องนี้อยู่ หากพบว่ามียาที่จำเป็นต้องประกาศซีแอล ก็จะเสนอมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการประกาศซีแอลหรือไม่ ขณะเดียวกัน หาก ร.ต.อ.เฉลิม มีนโยบายเดินหน้าซีแอล ก็สามารถสั่งการให้หน่วยงานในสธ. ที่เป็นกรมวิชาการ เช่น กรมสุขภาพจิต กรมการแพทย์ และสำนักงานปลัด สธ.ที่ดูแลโรงพยาบาลในสังกัด สธ.ทั้งหมด ศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดรอบคอบได้
“ในการศึกษาจะต้องพิจารณาเลือกยาที่มีปัญหาการเข้าไม่ถึงยา เช่น กลุ่มยาจิตเวช ต้องเลือกชนิดยาว่ามีตัวใดบ้างที่ควรประกาศซีแอล โดยพิจารณาจาก สิทธิบัตรที่คุ้มครองยาว่าเป็นลักษณะใด และอายุของสิทธิบัตรที่คุ้มครองนานเท่าใด และมียาสามัญที่มีคุณภาพหรือไม่ ฐานการผลิตอยู่ที่ใด รวมถึงปริมาณการใช้ยาว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่หากจะประกาศซีแอล”นพ.วิชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสุขภาพจิตได้เคยรายงานปัญหาผู้ป่วยจิตเวชเข้าไม่ถึงยา เพราะมีราคาแพง เช่น ยาคลอซารีล ริสเพอดาล ไซเปร็กซา ราคาสูงถึงเม็ดละ 60-200 บาท และต้องทานต่อเนื่องนาน 1-6 เดือน จึงทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้ ทำให้ต้องหยุดยาทำให้การรักษาไม่ต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศไทยมีผู้ป่วยจิตเวชมีประมาณ 1 คน ต่อประชากร 6 แสนคน