xs
xsm
sm
md
lg

กก.ฟันธงยาทำซีแอลภายใน 2 สัปดาห์ เครือข่ายผู้ป่วยยันยาจิตเวชมาอันดับแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประธานคณะกรรมการสนับสนุนการทำซีแอล คาดฟันธงยาที่จะทำซีแอลภายใน 2 สัปดาห์ ด้าน “นิมิตร์ เทียนอุดม” ระบุ ยาเอดส์จำเป็นแต่ยาด้านจิตเวชเร่งด่วนกว่า

ภญ.สำลี ใจดี ประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้คงไม่สามารถบอกได้ว่ายาตัวใดที่มีความจำเป็นที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงยาจนจำเป็นต้องประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) เนื่องจากยามีราคาแพง ขณะนี้ระบุเพียงว่าจะดำเนินการกับยาทุกตัวที่มีความจำเป็น ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลอยู่โดยจะรีบหารือกันและคาดว่า จะทราบผลว่ายาตัวใดที่ต้องทำซีแอล ภายใน 2 สัปดาห์นี้

นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการบริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และในฐานะผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ในวันที่ 22 พ.ย.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์และเครือข่ายผู้ป่วยทางจิตเวช เพื่อดูท่าทีพร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับยาจิตเวชที่มีความจำเป็น เพื่อจะได้สามารถเรียกร้องให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข ประกาศซีแอล

“แม้ว่า ความจำเป็นของยาต้านไวรัสเอดส์จะมีความจำเป็นอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าดูความเร่งด่วน ถือว่า โรคทางจิตเวชมีความจำเป็นมากกว่า มีผู้ป่วยที่จำนวนมากกว่า อีกทั้งยาต้านไวรัสเอดส์สูตรผสมระหว่างโลพินาเวียร์ และ ริโทนาเวียร์ ชื่อทางการค้า คาเรตต้าที่ได้ทำซีแอลในครั้งก่อนก็ทำให้ผู้ป่วยเอดส์จำนวนมากเข้าถึงยาที่จำเป็นได้แล้วสถานการณ์ในขณะนี้ยาต้านไวรัสเอดส์รายการที่มีราคาแพงอาจจะยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากจำนวนผู้ใช้ยังน้อย ซึ่งหากชั่งน้ำหนักแล้วยาทางด้านจิตเวชเป็นยาที่มีความจำเป็นทำซีแอลเป็นอันดับแรก” นายนิมิตร์ กล่าว

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสนับสนุนฯยังไม่มีการสรุปว่า ยาชนิดใดที่มีความจำเป็นในการทำซีแอล เพราะหากยาบางรายการมีราคาแพงแต่มีคนใช้จำนวนน้อยก็ไม่คุ้มกับการทำซีแอล คงต้องเลือกยาแพงและที่คนใช้เยอะ อาทิ ยาทางด้านจิตเวช ยารักษาโรคมะเร็ง ยารักษาโรคหัวใจ ฯลฯ ซึ่งเป็นโรคที่มีคนป่วย

“การทำซีแอลไม่ใช่งานของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง องคาพยพทั้งหมดต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องทำหน้าที่ขึ้นยาสามัญที่จะทำซีแอล สปสช.ก็ส่งข้อมูลว่ายาใดที่มีความจำเป็นต่อการเข้าถึงยา และทำหน้าที่จัดซื้อยา ส่วนองค์การเภสัชกรรมก็ทำหน้าที่จัดหายาสามัญมาให้สปสช.หลังจากประกาศซีแอล ซึ่งแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุด คือ การเมือง ถ้าไม่ใช่การเมืองทำไม่ได้” นพ.วินัย กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น