สปสช.หวั่น บอร์ด อภ.ชุดใหม่ ทำงานบริการสุขภาพสะดุด ทั้งซีแอล น้ำยาล้างไต เหตุไม่เป็นมืออาชีพ จับตาหากทำงานคนละทิศทางจะหาคู่ค้าซื้อยาใหม่ “สารี” นัดเครือข่ายสุขภาพถก 27 พ.ค.นี้ เคลื่อนไหวใหญ่ค้านการแทรกแซง
วันนี้ (25 พ.ค.) นพ.ประทีป ธนะกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั่งคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ชุดใหม่ ที่มี นายถิรชัย วุฒิธรรม เป็นประธานบอร์ด อภ.คนใหม่ ซึ่งไม่มีความเชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและยา ว่า การเปลี่ยนบอร์ด อภ.ใหม่ ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานภายใน อภ.เอง ในเรื่องการจัดหายา เวชภัณฑ์ โดยเฉพาะ สปสช.ที่เป็นคู่ค้า หากการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยเฉพาะเรื่องการดำเนินการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรโดยรัฐ (ซีแอล) ในขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้การทำซีแอลเป็นจริง คืออภ. จะต้องนำเข้ายาสามัญที่มีคุณภาพมาจำหน่ายให้กับ สปสช.หากไม่มีทิศทางเดียวกันการทำซีแอลก็ไม่สำเร็จ แต่จะเป็นผลเสียหายแน่นอน
“1-2 ปี ที่ผ่านมา อภ.กับ สปสช.ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ราบรื่น โดยเฉพาะการสนับสนุนการบริการสาธารณสุข เช่น การทำซีแอล การจัดหาน้ำยาล้างไตผ่านช่องท้องราคาถูกตามชุดสิทธิประโยชน์ของ สปสช.การผ่าตัดข้อเข่าเทียม ต่อไปสิ่งเหล่านี้จะขับเคลื่อนได้ยากเพราะถูกครอบงำ แทนที่จะได้ทำภารกิจของตัวเองที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่ยึดความต้องการส่วนบุคคล หรือถูกบุคคลใดบุคคลหนึ่งครอบงำ โดยที่บอร์ด อภ. ไม่ทำอะไรเลยเพราะไม่เป็นมืออาชีพ ก็จะเกิดผลเสียหาย” นพ.ประทีป กล่าว
นพ.ประทีป กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามต่อไปว่า การทำงานของบอร์ด อภ. ชุดนี้ จะเป็นอย่างไร หากมีทิศทางไม่เป็นทางเดียวกัน ก็อาจต้องซื้อยาจากแหล่งอื่น ทำให้ราคายาแพงขึ้น ส่วนยามะเร็งที่ขณะนี้ ทำซีแอลไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนการขึ้นทะเบียนถ้าไม่มีการเดินหน้าเพื่อจัดหายา สปสช.คงต้องกระตุ้น และทวงถามว่าจะจัดหายาให้ได้หรือไม่ด้วย
ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เครือข่ายผู้ป่วยต่างๆ จะมีการหารือกันเพื่อเคลื่อนไหวคัดค้างการแทรกแซงกิจการรัฐวิสาหกิจ ใน อภ. ซึ่ง เบื้องต้นได้หารือกับทางสหภาพรัฐวิสาหกิจ อภ. เพราะเกี่ยวข้องกับ อภ. โดยตรง ทาง สหภาพฯ ควรจะมีเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหว จะบอกว่าการเข้ามาปรับเปลี่ยนบอร์ดยังไม่เกิดผลกระทบยังไม่ได้ เพราะเป็นการแทรกแซงกิจการภายในแล้ว
วันนี้ (25 พ.ค.) นพ.ประทีป ธนะกิจเจริญ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั่งคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ชุดใหม่ ที่มี นายถิรชัย วุฒิธรรม เป็นประธานบอร์ด อภ.คนใหม่ ซึ่งไม่มีความเชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและยา ว่า การเปลี่ยนบอร์ด อภ.ใหม่ ครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานภายใน อภ.เอง ในเรื่องการจัดหายา เวชภัณฑ์ โดยเฉพาะ สปสช.ที่เป็นคู่ค้า หากการทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยเฉพาะเรื่องการดำเนินการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรโดยรัฐ (ซีแอล) ในขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้การทำซีแอลเป็นจริง คืออภ. จะต้องนำเข้ายาสามัญที่มีคุณภาพมาจำหน่ายให้กับ สปสช.หากไม่มีทิศทางเดียวกันการทำซีแอลก็ไม่สำเร็จ แต่จะเป็นผลเสียหายแน่นอน
“1-2 ปี ที่ผ่านมา อภ.กับ สปสช.ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ราบรื่น โดยเฉพาะการสนับสนุนการบริการสาธารณสุข เช่น การทำซีแอล การจัดหาน้ำยาล้างไตผ่านช่องท้องราคาถูกตามชุดสิทธิประโยชน์ของ สปสช.การผ่าตัดข้อเข่าเทียม ต่อไปสิ่งเหล่านี้จะขับเคลื่อนได้ยากเพราะถูกครอบงำ แทนที่จะได้ทำภารกิจของตัวเองที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่ยึดความต้องการส่วนบุคคล หรือถูกบุคคลใดบุคคลหนึ่งครอบงำ โดยที่บอร์ด อภ. ไม่ทำอะไรเลยเพราะไม่เป็นมืออาชีพ ก็จะเกิดผลเสียหาย” นพ.ประทีป กล่าว
นพ.ประทีป กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามต่อไปว่า การทำงานของบอร์ด อภ. ชุดนี้ จะเป็นอย่างไร หากมีทิศทางไม่เป็นทางเดียวกัน ก็อาจต้องซื้อยาจากแหล่งอื่น ทำให้ราคายาแพงขึ้น ส่วนยามะเร็งที่ขณะนี้ ทำซีแอลไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนการขึ้นทะเบียนถ้าไม่มีการเดินหน้าเพื่อจัดหายา สปสช.คงต้องกระตุ้น และทวงถามว่าจะจัดหายาให้ได้หรือไม่ด้วย
ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เครือข่ายผู้ป่วยต่างๆ จะมีการหารือกันเพื่อเคลื่อนไหวคัดค้างการแทรกแซงกิจการรัฐวิสาหกิจ ใน อภ. ซึ่ง เบื้องต้นได้หารือกับทางสหภาพรัฐวิสาหกิจ อภ. เพราะเกี่ยวข้องกับ อภ. โดยตรง ทาง สหภาพฯ ควรจะมีเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหว จะบอกว่าการเข้ามาปรับเปลี่ยนบอร์ดยังไม่เกิดผลกระทบยังไม่ได้ เพราะเป็นการแทรกแซงกิจการภายในแล้ว