xs
xsm
sm
md
lg

ก.ค.ศ.มีมติให้เยียวยาครูไม่ผ่านประเมินวิทยฐานะ ไล่อบรมก่อนพิจารณาใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ก.ค.ศ.มีมติเยียวยาอบรมพัฒนาครูที่ไม่ผ่านการประเมิน โดยกลุ่มที่คณะกรรมการประเมินผลงาน 2 ใน 3 คนให้ผ่าน ให้ไปอบรมพัฒนาสาระการเรียนรู้และปรับปรุงผลงานเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการอีกครั้ง ขณะที่กลุ่มที่คณะกรรมการให้ผ่าน 1 คน หรือไม่ผ่านเลย ต้องเข้ารับการอบรมและยื่นประเมินใหม่อีกครั้ง โดยกรรมการชุดใหม่ ยึดเกณฑ์ประเมินเดิมที่คณะกรรมการประเมินผลงานต้องให้ผ่านทั้ง 3 คน พร้อมประกาศผู้ผ่านการประเมินผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เทียบเท่าระดับ 10 จำนวน 2 คน ถือเป็น 2 คนแรกของไทย

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่มี นายศรีเมือง เจริญศิริ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เป็นประธานว่าที่ประชุมได้พิจารณาตามที่คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนวิทยฐานะเสนอแนวทางการพัฒนาผู้ที่ไม่ผ่านการประเมินวิทยฐานะเกณฑ์ปัจจุบันในส่วนของวิทยฐานะวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ จำนวน 23,250 คน ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เยียวยาอบรมพัฒนาผู้ที่ไม่ผ่านการประเมินโดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้

1.กลุ่มครูที่ยื่นประเมินไม่ผ่านแต่กรรมการ 2 ใน 3 คน ให้ผ่านการประเมินจำนวน 2,418 คน จะให้เป็นกลุ่มปรับปรุงซึ่งจะมีโอกาสไปพัฒนาตนเองในเรื่องการอบรมสาระการเรียนรู้ พัฒนาเทคนิคการสอน และการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อนำผลการอบรมไปสู่การพัฒนาการเรียนการสอนและปรับปรุงพัฒนาผลงานวิชาการเสนอคณะกรรมการอ่านผลงานอีกครั้ง

2.กลุ่มครูที่กรรมการ 1 คน หรือไม่มีกรรมการคนใดให้ผ่านการประเมินจำนวน 19,932 คน นั้นจะจัดให้เป็นกลุ่มที่ไม่ผ่านการประเมิน จะอนุญาตให้การนำผลการประเมินด้านที่ 1 และ 2 มาใช้ได้แต่จะต้องเข้ารับการอบรมพัฒนาสาระการเรียนรู้ เทคนิคการสอน และเทคนิควิธีวิจัยชั้นเรียน ซึ่งจะมีความเข้มข้นกว่ากลุ่มแรก และเมื่ออบรมเสร็จก็ให้นำไปปรับปรุงการเรียนการสอนและนำไปปรับเอกสารวิชาการนำเสนอกรรมการประเมินให้พิจารณาประเมินครั้งใหม่อีกครั้ง ซึ่งครูกลุ่มนี้จะถูกประเมินโดยกรรมการชุดใหม่ ที่ประกอบด้วย กรรมการในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเดียวกัน และอีกสองคนเป็นกรรมการที่อยู่นอกเขตพื้นที่การศึกษาและกรรมการนอกสังกัด

ทั้งนี้ สำหรับเกณฑ์ประเมินการผ่านนั้นยังยึดแนวทางเดิมคือผู้ที่จะผ่านประเมินได้กรรมการทั้ง 3 คนจะต้องให้ผ่านการประเมินซึ่งสาแหตุที่ยึดแนวทางนี้เพราะไม่ต้องการลดมาตรการการประเมิน

ดร.ชินภัทร กล่าวอีกว่า สำนักงาน ก.ค.ศ.จะไปกำหนดรายละเอียดต่างๆ อาทิ หลักสูตรการอบรมพัฒนา ระยะเวลา ซึ่งตามหลักการแล้วจะเน้นพัฒนาในช่วงปิดภาคเรียนหรือวันหยุดเพื่อไม่ให้กระทบกับการเรียนการสอน

และตามหลักการครูจะต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วยบางส่วน ซึ่งทาง สพฐ.ก็รับปากว่าจะมีงบประมาณส่าวนหนึ่งมาช่วยเหลือ ทั้งนี้ การให้ครูได้เข้ารับประเมินอีกครั้งไม่ได้ให้ผ่านการประเมินโดยอัตโนมัติแต่เป็นการให้โอกาสครูและเชื่อว่าจะตอบสังคมได้เพราะการให้ครูอบรมพัฒนาจะนำไปสู่ความมั่นใจว่าครูจะพัฒนาตนเองให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น หากผู้ที่เข้ารับการอบรมและพัฒนาแล้วยังไม่ผ่านการประเมินอีกก็คงไม่ให้โอกาสอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังมอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปจัดคู่มือการประเมินให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศไม่ใช่ว่าบางจังหวัดมาตรฐานเข้มบางจังหวัดไม่เข้มทำให้ครูผ่านการประเมินแตกต่างกันไป รวมทั้งยังเห็นชอบให้เพิ่มจุดตรวจผลงานเพิ่มเติมจากเดิมมีเฉพาะส่วนกลางเป็นหลักแต่จะเพิ่มอีก12 จุดตามเขตตรวจราชการ ทั้งนี้ เพื่อกระจายงานให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการอ่านผลงานวิชาการ อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.ค.ศ.จะไปกำหนดรายละเอียดต่างๆ ตามมติอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งการเยียวยาให้โอกาสครูที่ไม่ผ่านการประเมินวิทยฐานะ อย่างไรก็ตามสำหรับกลุ่มผู้ยื่นขอประเมินและเลื่อนให้มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษกลุ่มใหม่ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้เปิดให้ยื่นรอบใหม่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจะยังยึดแนวทางเดิมทั้งหมดเพียงแต่จะประเมินโดยกรรมการชุดใหม่เท่านั้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้นางศรีลักษณ์ ผลวัฒนะ ร.ร.เบญจมราชาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ สพท.กรุงเทพมหานคร เขต 1 และ น.ส.พรพิมล ชาญชัยเชาว์วิวัฒน์ ร.ร.บางมดวิทยาสีสุกวาดจวนอุปถัมภ์ สพท.กรุงเทพมหานครเขต 3 ผ่านการประเมินให้ได้รับวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษหรือเทียบเท่าระดับ 10 ได้รับเงินวิทยฐานะ 13,000 บาท นับเป็นข้าราชการครูสองคนแรกของประเทศไทยที่ได้รับวิทยฐานะดังกล่าวโดยทั้งสองคนส่งผลงานประเมินในสาขาวิชาเคมี


กำลังโหลดความคิดเห็น