“เฉลิม” ชี้ คนเครียดหนัก เพราะการเมือง ยกตัวอย่างอาซ้อข้างบ้านเลิกทักทายกัน เพราะอยู่ฝั่งพันธมิตรฯ แขวะ “มหา” พฤษภาทมิฬต้องการนายกฯจากการเลือกตั้ง แต่ตอนนี้เอานายกไม่ต้องเลือกตั้งก็ได้
วันนี้ (3 ต.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนมีความเครียดเรื่องการเมืองเป็นอย่างมาก ผลการสำรวจของสำนักวิจัยทั้งหลายก็ยืนยันเช่นนั้น อย่างอาซ้อข้างบ้านที่เคยรู้จักกันตั้งแต่เป็นสารวัตรอยู่ สน.บางขุนเทียน นาน 30 ปี แต่ก่อนรักใคร่ชอบพอกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน แต่พอมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ก็ไปช่วยผัดข้าวผัดให้ พธม.แล้วก็ห่างเหินกันไม่ทักทายกันเหมือนเดิม ทั้งที่ไม่เคยทะเลาะกันเลย ซึ่งถือว่าเป็นความผันผวนทางการเมือง ดังนั้น ก็ให้ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 ซึ่งดูแลในพื้นที่ กทม.ไปตรวจดู ว่า คนกรุงเทพฯเครียดเรื่องการเมืองเพิ่มมากขึ้นหรือไม่
“เช่นเดียวกันกับปี 2535 แกนนำคนสำคัญของ พธม.ในตอนนี้ ซึ่งผมไม่กล้าระบุชื่อ ที่พาประชาชนไปขับไล่ และพาคนให้ล้มหายตายจากคนเดียวกันนี้ในอดีต เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง แต่วันนี้ความผันผวนเกิดขึ้น กลับมาบอกว่า นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งก็ได้ เพราะสภาผู้แทนราษฎรมันจับฉ่าย เป็นสัมภเวสีทางการเมือง พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค วันนี้ก็ไม่แล้วบอกว่านายกรัฐมนตรีและผู้แทนราษฎรมาจากที่ไหนก็ได้ นี่คือ ความผันผวนทางการเมือง ซึ่งถือว่าการเมืองเมื่อเปลี่ยนแปลงไป” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ หาก สธ.จะจัดงานให้ตนเองไปเปิดเป็นประธาน ก็เลือกสถานที่ โดยหากจัดงานที่ จ.อุดรธานี หนองคาย และ กาฬสินธุ์ ก็พอที่จะสามารถเดินทางไปได้ หรือว่าอดใจรอสถานการณ์ก่อน ซึ่งสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีในไม่ช้า
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ โรคซึมเศร้าก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะไม่ว่าใครก็เป็นได้ อย่างรัฐมนตรีบางคน ไม่บอกว่าเป็นใคร รัฐบาลนี้หรือรัฐบาลชุดก่อน เดินๆ อยู่ก็พูดคนเดียว ทั้งที่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มียศฐานบรรดาศักดิ์ มีความพร้อมด้านต่างๆ แต่เดินพูดคนเดียว ซึ่งต่างกับ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีแพทย์วิจารณ์ในสภาว่ามีอาการทางจิต แต่จริงๆ แล้วเป็นบุคลิกของท่านเอง
“มีคนไปกล่าวหาว่า ลุงสมัครแกมีปัญหาทางจิต กินน้ำแดง กินเค้ก ชอบจ่ายตลาด หมอท่าจะบ้า เพราะลุงสมัครแกคงไม่เป็นอะไร เป็นบุคลิกของแก นิสัยส่วนตัวแกชอบกินข้าวระหว่างขับรถ หรือบางครั้งจอดรถแล้วก็กินข้าว หรือไม่ก็จอดรถแล้วเขียนบทความเวลานึกอะไรได้ ไม่ชอบคุยกับใคร แต่คุยกับผม มีทหารมารักษาความปลอดภัยแกก็ไม่เอา แถมขับรถเอง และรถนำขบวนก็ไม่ได้ แกให้รถมาตามต่อจากรถที่แกขับ รถก็ติดยาว นั่นก็เป็นบุคลิกของแกเอง” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ในส่วนของภารกิจด้านการดูแลเรื่องเด็กติดเกมก็ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการติดเกมในร้านอินเทอร์เน็ตนำสู่ การดื่มเบียร์ ดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ ซึ่งเหมือนสถานบริการเล็กๆ แห่งหนึ่ง เด็กอายุ 12 ปีก็เล่นเกมแล้ว จึงจำเป็นต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงวัฒนธรรมในการทำให้เกิดการดูแลอย่างจริงจังทั้งในเรื่อง 1 อายุ 2 เวลาในการเล่นเกม และ 3 เนื้อหาสาระของเกม
“ในเมื่อภาระงานของกรมสุขภาพจิตสำคัญ จากเดิมที่งบประมาณเพิ่มปีละประมาณ 5% ก็จำเป็นต้องของบประมาณที่ไม่ได้คิดจากฐานเดิม แต่ดูเนื้อหางานเป็นหลัก ซึ่งในวันที่ 6 ต.ค.นี้ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณจะมาเข้าพบก็จะหารือว่า สธ.มีงบประมาณในการพัฒนาน้อย ซึ่งจะให้ช่วยเขียนงบประมาณที่ขอแล้วได้รับงบประมาณจริง เหมือนสมัยที่อยู่กระทรวงยุติธรรมจากที่เคยได้งบประมาณไม่เกิน 4 พันล้านบาท แต่ในช่วงที่ผมอยู่ได้รับงบประมาณถึง 8.5 พันล้านบาท” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกรมอนามัยในเวลา 16.30 น.ร.ต.อ.เฉลิม ได้มอบนโยบายว่า ให้สานต่อโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัวให้เป็นรูปธรรมตามที่พระราชประสงค์ 2 ให้คิดว่าจะร่วมมือให้เกิดแรงจูงใจให้ปั๊มน้ำมันร่วมกันสานต่อโครงการห้องน้ำสะอาดปลอดภัย
วันนี้ (3 ต.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนมีความเครียดเรื่องการเมืองเป็นอย่างมาก ผลการสำรวจของสำนักวิจัยทั้งหลายก็ยืนยันเช่นนั้น อย่างอาซ้อข้างบ้านที่เคยรู้จักกันตั้งแต่เป็นสารวัตรอยู่ สน.บางขุนเทียน นาน 30 ปี แต่ก่อนรักใคร่ชอบพอกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน แต่พอมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ก็ไปช่วยผัดข้าวผัดให้ พธม.แล้วก็ห่างเหินกันไม่ทักทายกันเหมือนเดิม ทั้งที่ไม่เคยทะเลาะกันเลย ซึ่งถือว่าเป็นความผันผวนทางการเมือง ดังนั้น ก็ให้ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 ซึ่งดูแลในพื้นที่ กทม.ไปตรวจดู ว่า คนกรุงเทพฯเครียดเรื่องการเมืองเพิ่มมากขึ้นหรือไม่
“เช่นเดียวกันกับปี 2535 แกนนำคนสำคัญของ พธม.ในตอนนี้ ซึ่งผมไม่กล้าระบุชื่อ ที่พาประชาชนไปขับไล่ และพาคนให้ล้มหายตายจากคนเดียวกันนี้ในอดีต เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง แต่วันนี้ความผันผวนเกิดขึ้น กลับมาบอกว่า นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจากการเลือกตั้งก็ได้ เพราะสภาผู้แทนราษฎรมันจับฉ่าย เป็นสัมภเวสีทางการเมือง พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค วันนี้ก็ไม่แล้วบอกว่านายกรัฐมนตรีและผู้แทนราษฎรมาจากที่ไหนก็ได้ นี่คือ ความผันผวนทางการเมือง ซึ่งถือว่าการเมืองเมื่อเปลี่ยนแปลงไป” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ หาก สธ.จะจัดงานให้ตนเองไปเปิดเป็นประธาน ก็เลือกสถานที่ โดยหากจัดงานที่ จ.อุดรธานี หนองคาย และ กาฬสินธุ์ ก็พอที่จะสามารถเดินทางไปได้ หรือว่าอดใจรอสถานการณ์ก่อน ซึ่งสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีในไม่ช้า
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ โรคซึมเศร้าก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะไม่ว่าใครก็เป็นได้ อย่างรัฐมนตรีบางคน ไม่บอกว่าเป็นใคร รัฐบาลนี้หรือรัฐบาลชุดก่อน เดินๆ อยู่ก็พูดคนเดียว ทั้งที่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ มียศฐานบรรดาศักดิ์ มีความพร้อมด้านต่างๆ แต่เดินพูดคนเดียว ซึ่งต่างกับ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีแพทย์วิจารณ์ในสภาว่ามีอาการทางจิต แต่จริงๆ แล้วเป็นบุคลิกของท่านเอง
“มีคนไปกล่าวหาว่า ลุงสมัครแกมีปัญหาทางจิต กินน้ำแดง กินเค้ก ชอบจ่ายตลาด หมอท่าจะบ้า เพราะลุงสมัครแกคงไม่เป็นอะไร เป็นบุคลิกของแก นิสัยส่วนตัวแกชอบกินข้าวระหว่างขับรถ หรือบางครั้งจอดรถแล้วก็กินข้าว หรือไม่ก็จอดรถแล้วเขียนบทความเวลานึกอะไรได้ ไม่ชอบคุยกับใคร แต่คุยกับผม มีทหารมารักษาความปลอดภัยแกก็ไม่เอา แถมขับรถเอง และรถนำขบวนก็ไม่ได้ แกให้รถมาตามต่อจากรถที่แกขับ รถก็ติดยาว นั่นก็เป็นบุคลิกของแกเอง” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ในส่วนของภารกิจด้านการดูแลเรื่องเด็กติดเกมก็ควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการติดเกมในร้านอินเทอร์เน็ตนำสู่ การดื่มเบียร์ ดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ ซึ่งเหมือนสถานบริการเล็กๆ แห่งหนึ่ง เด็กอายุ 12 ปีก็เล่นเกมแล้ว จึงจำเป็นต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงวัฒนธรรมในการทำให้เกิดการดูแลอย่างจริงจังทั้งในเรื่อง 1 อายุ 2 เวลาในการเล่นเกม และ 3 เนื้อหาสาระของเกม
“ในเมื่อภาระงานของกรมสุขภาพจิตสำคัญ จากเดิมที่งบประมาณเพิ่มปีละประมาณ 5% ก็จำเป็นต้องของบประมาณที่ไม่ได้คิดจากฐานเดิม แต่ดูเนื้อหางานเป็นหลัก ซึ่งในวันที่ 6 ต.ค.นี้ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณจะมาเข้าพบก็จะหารือว่า สธ.มีงบประมาณในการพัฒนาน้อย ซึ่งจะให้ช่วยเขียนงบประมาณที่ขอแล้วได้รับงบประมาณจริง เหมือนสมัยที่อยู่กระทรวงยุติธรรมจากที่เคยได้งบประมาณไม่เกิน 4 พันล้านบาท แต่ในช่วงที่ผมอยู่ได้รับงบประมาณถึง 8.5 พันล้านบาท” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกรมอนามัยในเวลา 16.30 น.ร.ต.อ.เฉลิม ได้มอบนโยบายว่า ให้สานต่อโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัวให้เป็นรูปธรรมตามที่พระราชประสงค์ 2 ให้คิดว่าจะร่วมมือให้เกิดแรงจูงใจให้ปั๊มน้ำมันร่วมกันสานต่อโครงการห้องน้ำสะอาดปลอดภัย