ผู้ช่วยเลขา ปชป.รุมสวด “หมัก” ผู้นำจิตบกพร่อง ด่าสื่อเลวโชว์แม่ค้ากลางตลาดไม่เหมาะสมกับสถานะ พร้อมจี้ถอดถอนรายการความจริงวันนี้ เตือนสติอย่าใช้เอ็นบีทีเป็นสมบัติส่วนตัว ชี้ สามเกลอหัวกลมสุมหัวจ้อสร้างความแตกแยก
วันนี้ (4 ส.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อสื่อมวลชน ขณะกำลังเดินจ่ายตลาดอยู่ที่องค์การตลาดกลางเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ว่า จากปรากฏการณ์ที่เป็นข่าวในทีวีเสนอไป โดยท่าทีของนายกฯที่มีต่อสื่อ ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง กับสถานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตนเข้าใจว่า นายกฯกำลังสับสนกับบทบาทของตนเอง และไม่ทราบว่าสถานะของตนเองคืออะไร วันนี้ นายกฯเป็นบุคคลของสาธารณะ เป็นบุคคลในข่าว ที่มีความจำเป็นที่สื่อสารมวลชนจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะถ่ายทอดกิจกรรมของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ แต่นายกฯพยายามที่จะอ้างสิทธิส่วนตัว ไม่ให้สื่อสารมวลชนเสนอข่าว ตนคิดว่า หากนายกฯต้องการความเป็นส่วนตัว ก็ควรให้บุคคลใกล้ชิด เลขานุการส่วนตัว หรือ รปภ.มาพูดกับสื่อน่าจะเหมาะสมกว่า
นายเทพไท กล่าวว่า สื่อคงจะไม่ดื้อดันที่จะไปทำข่าวนายกฯในเรื่องส่วนตัว แต่สื่ออาจจะเข้าใจว่า วันที่นายกฯเข้าไปตลาด อ.ต.ก.ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายกฯไปประจำ เหมือนกับไปชาร์จแบตที่นั่น นายกฯถ้ามีปัญหาอะไรทางการเมืองที่ไม่สบายใจ เท่าที่ผมสังเกตท่านจะไปที่ตลาดอ.ต.ก.เพราะไปที่นั่นแล้วท่านจะสบายใจ เพราะจะได้ซื้อข้าวของและจะได้กำลังใจจากแม่ค้า ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่นายกฯจะไปได้
“ผมไม่แน่ใจว่า เมื่อนายกฯไปตลาด อ.ต.ก.เลยจำเป็นต้องใช้คำพูดสอดคล้องกับแม่ค้าที่อ.ต.ก.หรือไม่ ดังนั้น นายกฯควรที่จะต้องระมัดระวังคำพูด เพราะจะเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนได้ ดูพฤติกรรมนายกฯแล้วรู้สึกเป็นห่วง และคิดว่าไม่ต้องใช้หมอโรคจิตมาวินิจฉัยนายกฯ น่าจะใช้หมอความอย่างผมมาวินิจฉัยนายกฯ ว่า มีพฤติกรรมสอดคล้องกับญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ขาดวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ บกพร่องในจิตสำนึกการเป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ”
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วน รายการความจริงวันนี้ ถ้าติดตามรายการเมื่อคืนที่มีผู้ดำเนินรายการสามเกลอหัวกลม ออกมาพูดในรายการโดยแสดงฐานะแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) อย่างเต็มตัว และมีการกล่าวพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ โดยยกคำพูดของ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ว่า เหตุการณ์ก่อนการเลือกตั้งมีการจับมือกันโดยให้คณะมนตรีป้องกันความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นผู้จัดการให้ทางพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ โดยทางพรรคไม่มีโอกาสตอบโต้ หรือทำการชี้แจงแต่อย่างใด และตนคิดว่าไม่มีความเป็นธรรมอย่างยิ่ง ดังนั้น อยากเรียกร้องให้นายกฯพิจารณารายการนี้ ซึ่งตนเข้าใจว่า นายกฯเป็นผู้ให้โอกาสกับ นปก.กลุ่มนี้ใช้สื่อของรัฐในการแสดงความคิดเห็น
“นายกฯเข้าใจว่า เอ็นบีที คือ สมบัติของตัวนายกฯเอง เพราะดูจากท่าทีที่อยู่ตลาด อ.ต.ก.เมื่อถามถึงเอ็นบีที มีความรู้สึกว่าเหมือนกับสื่อนี้เป็นเครือของนายกฯ ผมคิดว่า เอ็นบีทีเป็นสมบัติของชาติ ที่ดำเนินรายการโดยใช้ภาษีของพี่น้องประชาชนก็น่าที่จะใช้สถานีเอ็นบีทีเสนอข่าวที่เป็นกลางและรอบด้าน ไม่ควรเปิดโอกาสให้ นปก.มาใช้สื่อนี้โจมตีพรรคการเมือง หรือบุคคลที่เห็นต่าง หากนายกฯปล่อยให้บุคคลที่เป็น นปก.แสดงบทบาทที่สนามหลวงยังไม่พอ ยังใช้สื่อของรัฐมาแสดงบทบาทอีก โครงการที่นายกฯคาดหวังว่า วันที่ 12 ส.ค.-5 ธ.ค.เป็นโครงการที่สร้างความสมานฉันท์ใน 116 วัน จะเป็นจริงไม่ได้เลย เพราะนายกฯเรียกร้องให้มีความสมานฉันท์ แต่ขณะเดียวกัน ก็กลับให้ลิ่วล้อหรือลูกน้องสร้างความแตกแยกในสังคม” นายเทพไท กล่าว
ผู้ช่วยเลขาธิการ กล่าวด้วยว่า หากนายกฯต้องการเห็นความสมานฉันท์ในชาติเกิดขึ้นจริง สิงที่นายกฯทำได้ คือ การถอดรายการความจริงวันนี้ ออกจากเอ็นบีทีก่อนวันที่ 12 ส.ค.ที่โครงการนี้จะเกิดขึ้น หากนายกฯทำได้ก็เชื่อว่านายกฯมีความตั้งใจจริงที่จะเห็นความสมานฉันท์เกิดขึ้นในชาติ แต่ถ้ายังปล่อยปละละเลยให้รายการเหล่านี้ออกมาสร้างความแตกแยกในสังคม ตนคิดว่า โครงการของนายกฯเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อ ให้ประชาชนมองว่ารัฐบาลต้องการความสมานฉันท์ แต่ทางกลับกันให้ลิ่วล้อมาสร้างความแตกแยก ถือว่าเป็นพฤติกรรมปากว่าตาขยิบจริงๆ
คลิก! ชม “สมัคร”อารมณ์เสียหน้าส้วม ด่ากราดสื่อ (56K) |(256K)