พันธมิตรฯเชื่อ “หมัก” แกนนำสั่งการ อันธพาลม็อบถ่อยต้านพันธมิตรฯ

พันธมิตรฯสับ “หมัก” หัวหน้า นปก.ตัวจริง เชื่ออยู่เบื้องหลังสั่งการอันธพาลม็อบถ่อย ต้านการเคลื่อนไหวพันธมิตรฯ ชี้ มีความผิดร้ายแรงละเมิดสิทธิ ปชช.หลายเรื่อง อัด รบ.หุ่นเชิดเป็นพวกอัปรีย์กินหัว ทำชั่วอย่างเดียว ลั่นเก่งจริงให้รีบแก้ รธน.เชื่อจ้องแก้ม.63 ปิดทางปชช.ชุมนุม “สมเกียรติ”ย้อนถาม “สุนัขจิ้งจอกหอกหักกระบือ”ที่ไหนพูด ยันจะแก้ 3 มาตราที่เป็นผลประโยชน์ตัวเอง แต่วันนี้ทำดัดจริตกลับกลอกแสร้งไม่แตะ ส่วนที่ยืดแก้รธน.ออกไป 18 วัน เหตุกลัวถูกแฉเลขาฯรับเช็ก 10 ล้าน

วันนี้ (3 ส.ค.) นายสมศักดิ์ โกสัยสุข พร้อมด้วย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯในรายการคู่ขนาดตอบโต้รายการสนทนาประสาสมัคร โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายสมัคร ได้กล่าวหาว่า พันธมิตรฯสร้างความวุ่นวาย ใช้เอสเอสทีวีด่ากราดรัฐบาล พร้อมทั้งนายสมัครยังได้ห้ามกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯออกมามาชุมนุมนั้น แสดงว่านายสมัครเป็นผู้สั่งการกลุ่มชุมนุมต่อต้านพันธมิตรมาโดยตลอด วันนี้ได้สารภาพออกมากลางสื่อของรัฐ เป็นความผิดชัดเจนว่าสั่งการให้มีการก่อกวนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิเสรีภาพอย่างถูกต้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ แปลว่าหัวหน้าใหญ่ของ นปก.คือ นายสมัคร ซึ่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ถือว่านายสมัครเป็นเผด็จทุนนิยมสามานย์ในระบอบรัฐสภา

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเอารถโมบายมีเครื่องมือทันสมัยมาดักฟังแกนนำกลุ่มพันธมิตรเคลื่อนไหวว่า นายสมัครยังสติแตกไม่เลิก แทนที่จะเอาไปดักฟังผู้ก่อเหตุความไม่สงบปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับเห็นพันธมิตรเป็นศัตรูร้ายแรง จึงเอามารังแกพันธมิตร เป็นเหตุโจรใต้ก็ขยายอิทธิพลต่อไป โดยที่รัฐบาลหุ่นเชิดไม่สามารถแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้เลย จึงพยายามบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้มองประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก มองแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ปรับ ครม.ก็ยังเอาคนผิดเข้ามารับตำแหน่งใหม่อีก

“ชี้ให้เห็นว่า นายสมัคร ทำผิด รธน.มาตรา 36 ที่ทุกคนที่สิทธิสื่อสารติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นความร้ายแรง ใช้เครื่องดักฟัง เพื่อต้องการรู้ของคนอื่น เป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน ที่ใช้สิทธิ ตามกฎหมาย ต้องการรู้เรื่องของ ขณะเดียวกัน ยังมากล่าวหาสันติอโศก อยู่เบื้องหลังการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ นายสมัครไม่รู้เรื่องการตีความตามกฎหมาย มาตรา 37 ที่ทุกคนที่มีสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา หรือลัทธิต่างๆ ตามความเชื่อถือของตน โดยไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย บุคคลต้องได้รับความคุ้มครอง รัฐไม่มีสิทธิมาลิดรอน การปฏิบัติตามความเชื่อพิธีกรรม ซึ่งสันติอโศกได้ปฏิบัติตามศาสนาทุกประการ และสันติอโศกไม่ได้เป็นสำนักสงฆ์แต่อย่างใด นายสมัคร บิดเบือนอย่างสิ้นเชิง” แกนนำพันธมิตรฯกล่าว

นายสมศักดิ์ ตั้งข้อสังเกตุด้วยว่า ทำไม นายสมัคร จึงชอบแขวะสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพราะเมื่อไอทีวีซึ่งเป็นโทรทัศน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำผิดกฎหมายตามที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา จนกลายมาเป็นทีวีสาธารณะไทยพีบีเอส ที่ไม่ขึ้นกับนายทุน มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมารัฐบาลหุ่นเชิดจึงกลัวการตรวจสอบจากสาธารณะ และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ พวกอับปรีย์กินหัวจึงทำชั่วอย่างเดียว ไม่ทราบว่านายสมัครคิดอย่างนี้ได้อย่างไร ความคิดเผด็จการ รากฐานความคิดไม่มีจิตสำนึก ปราศจากธรรมะ ขณะเดียวกันยังอ้างจัดงานวันเฉลิมฯ ยาวๆ ถึง 116 วัน โดยอ้างว่าเพื่อให้คนไทยเลิกแบ่งแยก นายสมัคร เป็นถึงนายกฯ การจะกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ควรระมัดระวังคำพูด

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า นายสมัคร ยังคงมีพฤติกรรมเดิมๆ คือ พยายามใช้สื่อของรัฐในการปลุกระดม ไม่ต่างจากเหตุการณ์ 6 ตุลา กล่าวหาว่า พันธมิตรฯดาวกระจายจะไปยึดศาลากลางในแต่ละจังหวัด เพื่อต้องการให้มีการปฏิวัติ ซึ่งมาจากวิธีคิดนายสมัครเองที่อยากให้เกิดการปฏิวัติ อ้างว่ามีการรวมหัวกับไอ้หน้าแหลมฟันดำทำลายรัฐบาล โดยเอาสถาบันมาเป็นข้ออ้าง แต่เชื่อว่าไม่มีทางทำสำเร็จ เพราะรัฐบาลจะไม่ยอมถอย นายสมัครเป็นถึง รมว.กลาโหม พูดแบบนี้ทำให้กองทัพเสียหายหมด

ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ เชื่อว่า นายสมัครต้องการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้ คือ มาตรา 63 เรื่องสิทธิการชุมนุม ซึ่งมีมาตั้งแต่รัฐธรรนูญปี 2517 นี่คือ ธาตุแท้เผด็จการที่รัฐบาลหุ่นเชิดมีธงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อย่าไปเชื่อว่าจะไม่แก้มาตรา 190, 237, 309 ตามที่ได้พูดในรายการวันนี้ ตนเห็นว่า นายสมัคร ไม่ได้ทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 175 ในการถวายสัตย์ฯจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ แค่มีอาชีพโกหกตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้อยู่รัฐบาลหุ่นเชิดอยู่ได้นานๆ อนุมัติโครงการต่างๆ เป็นการหากินเชิงนโยบาย พยายามแก้รัฐธรรมนูญ ช่วยเหลือฟอกผิดให้พวกพ้อง จ้องปราบปรามประชาชนผู้ชุมนุมอย่างถูกกฎหมาย รัฐบาลหุ่นเชิดทำความชั่วความผิดถึงขนาดนี้ เป็นพวกอัปรีย์นรกกินหัว ต้องจบเร็วๆ นี้แน่นอน

ด้าน นายสมเกียรติ กล่าวว่า รายการสนทนาประสาสมัครเป็นรายการที่ไร้สาระที่สุดในโลก โดยกล่าวหาพันธมิตรฯออกโรงต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะกลัวรัฐบาลจะแก้ไข มาตรา 63 คือ การชุมนุม พูดออกมาอย่างหนาๆ ทั้งที่มาตรา 63 มีปฏิญญาสากลคุ้มครองที่รัฐไปทำสัญญากับองค์การสหประชาชาติอยู่แล้ว แต่กลับมาบอกว่ารัฐบาลไม่คิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 237 และ 309 ถามว่า สุนัขจิ้งจอกหอกหักกระบือที่ไหนพูดมาตลอดว่าจะแก้ 3 มาตรานี้ ยังกล่าวหาพวกต่อต้าน ว่า ดัดจริตจะเป็นจะตายกันชาติจะบรรลับวายวอดหรือไง แต่วันนี้กระบือกลับจำคำพูดตัวเองไม่ได้ และย้ำว่า เปิดสภาสมัยนี้เดือน ส.ค.จะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญทันทีเลย ทำไมไม่ยื่นกลัวอะไร ที่ยืดออกไปอีก 18 วัน หรือว่ากลัวกลุ่มอีสานพัฒนา จะแฉข้อมูลลับ มีผุ้หญิงคนหนึ่งอายุ 38 ร่วมมือกับเลขาฯนายกฯ รับเช็กที่มีการโอนมา 10 ล้าน จากคำพูดของ นายศักดา คงเพชร และไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.พรรคพลังประชาชนเอง

นายสมเกียรติ ยังกล่าวต่อว่า นายสมัครได้กล่าวหา สำนักสงฆ์ที่ถูกยกเลิกไปแล้วไม่ยอมยกเลิกอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ซึ่งนายสมัคร หมายถึง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งเรื่องของสันติอโศก เรื่องเสรีภาพในการนับถือศาสนา พระธรรมวินัยยังยอมรับ พระพุทธเจ้าให้อยู่รวมกันได้อย่างไม่แบ่งแยก แม้ศรัทธาในการนับถือศาสนา หรือลัทธิจะต่างกัน ในบรรดาคณะสงฆ์ที่ประพฤติตามวินัยยึดพระธรรมวินัยมากที่สุดในประเทศไทยมาบอกว่าเขาอยู่ข้างหลังได้อย่างไร พล.ต.จำลอง ไม่เคยเป็นอีแอบอยู่ข้างหน้ามาตลอด นายสมัครเคยถูก พล.ต.จำลอง ไล่ สมัย พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกฯ และนายสมัครเป็นรองนายกฯ และต่อมาพรรคประชากรไทยของนายสมัคร รวมทั้งพรรคมวลชน ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เลือกตั้งแพ้พรรคพลังธรรม ของ พล.ต.จำลอง จนเหลือ ส.ส.และสมาชิกพรรคไม่กี่คน จึงเป็นเดือดเป็นแค้น

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า นายสมัคร ยังได้พูดในรายการ ที่พันมิตรเดินขบวนปิดถนนเมื่อวานนี้นั้น นายสมัครไม่รู้หรือว่าเราไปต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไปสักการะพระแก้วมรกตให้คุ้มครองบ้านเมืองให้พ้นจากคนชั่ว ใครคิดร้ายขอให้มีอันเป็นไป และพูดได้อย่างไรที่จังหวัดอุดรว่าเป็นการปะทะกัน ทั้งที่เป็นการทำร้ายพันธมิตรฝ่ายเดียว ยังตั้งนายขวัญชัยเป็นข้าราชการการเมือง ประจำสำนักนายกฯ ทีสัปดาห์ที่แล้วกลับไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย ขณะเดียวกันเหตุการณ์ระเบิด ที่จังหวัดสงขลาไม่สนใจ แต่กลับไปจ่ายตลาดที่ อตก. แถมยังไม่เลิกพูดถึงศาลที่ตัดสินคดีภรรยาอดีตนายกฯ พจมาน ชินวัตร โกงภาษี ศาลท่านตัดสินด้วยความยุติธรรมเป็นกลาง เอากฎหมายเป็นหลักตามนิติธรรม ยึดกฎหมายเหนือสิ่งอื่นใด พอศาลไม่เอียงข้างโกงภาษี ก็ออกอาการเลย