“สมศักดิ์” ชี้ “หมัดหมา” กำลังดิ้นหาที่สูบเลือดใหม่ หลังนายใหญ่ส่อไม่รอดซังเต เหตุเหนี่ยวรั้งกระบวนการยุติธรรมไม่สำเร็จ ขณะเดียวกัน มีทุนกลุ่มใหม่แข็งตัวขึ้นมาประลองกำลัง ด้าน “หมัก” เริ่มทำมาหากินกับเมกะโปรเจกต์ ปรับ ครม.นายทุนพรรคเข้ามาเต็ม “เนวิน” เริ่มประสานทุกกลุ่ม ลอยตัวออกมา เย้ยนายกฯ อยู่ในที่โสโครกจนชิน หลบนักข่าวในห้องน้ำ 40 นาทีเป็นเรื่องปกติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
วันที่ 3 ส.ค.เวลา 22.40 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ ว่า การพูดจาของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเมื่อเช้านี้ เป็นการพูดเรื่อยเปื่อย หลังจากนั้นก็หนีนักข่าวไปเข้าห้องน้ำถึง 40 นาที ไม่มีนายกฯ ที่ไหนในโลกทำ โดยเฉพาะการออกมาด่านักข่าว หาว่าบ้า ที่จริงนายกฯ นั่นแหละบ้า แล้วยังกล่าวหาประชาชนที่ชุมนุมตามสิทธิว่าเป็นพวกแว้ดๆๆๆ อยู่ข้างกระทรวงศึกษาธิการ แต่ตัวเองรนยังกะแมวป่วย แถมยังหมดสภาพและลุแก่อำนาจ
ทั้งนี้ การที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าที่เมื่อวานนี้ไม่มีคนออกมาต่อต้านการเดินขบวนของพันธมิตรฯ เป็นเพราะเขาสั่งระงับเอง ข้อมูลเหล่านี้แสดงว่า หัวหน้าใหญ่ของ นปก.ก็คือนายสมัครนั่นเอง เพราะนายสมัครสั่งการได้ สั่งให้มาก็มา ไม่ให้มาก็ไม่มา
“เมื่อวันเสาร์ ณัฐวุฒิ รองโฆษกรัฐบาล แถลงข่าวว่าพวก นปก.ที่จะมานั้นไม่มาแล้ว แต่พวกเรามาชุมนุมเพื่อให้เห็นว่าเรามาด้วยใจเป็นแสน เป็นไปด้วยคุณภาพ และเดินแสดงพลังให้เห็นว่านี้คือของจริง แต่พวกนั้นรับไปแล้วไม่มา เงินก็ต้องจ่าย เที่ยวนี้ก็คิดว่าคุณทักษิณคงจะเจอเข้าไปพอสมควร เพราะว่าเอาเงินไปจ่ายแล้วสั่งระงับนี่ ก็ไม่มีการคืนเงิน ไม่รู้จะคืนยังไง ก็สุดแล้วก็ว่ากันไป บอกแล้วว่าสัจจะไม่มีในหมู่โจร” นายสมศักดิ์กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี มีการหักหลังกัน และพยายามจับกลุ่มใหม่ ซึ่ง ครม.ที่ได้หน้าตายังเต็มไปด้วยรอยด่าง บาดแผล มีแต่นายทุนพรรคโดยตรงที่บริจาคเงิน วันนี้เวลาเหลืออยู่น้อยนายทุนพรรคจึงมานั่งเอง แล้วจะอยู่ให้นานที่สุดเพื่อจะมาหาเงินจากโครงการเมกะโปรเจกต์ โครงการใหญ่ๆ เมื่อเซ็นไปแล้ว 10 เปอร์เซ็นต์ 20 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้ไป
เมื่อวันอังคารที่แล้ว นายสมัครได้เร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเมกะโปรเจกต์ให้รีบดำเนินงาน เพราะจะกักตุนเอาไว้ เนื่องจากตัวเองเป็นนอมินี เมื่อถึงจุดที่ตัวเองจะได้ประโยชน์ก็ต้องเอาไว้หมือนกัน วันนี้กลุ่มทักษิณกับกลุ่มที่แข็งตัวขึ้นกำลังจะมีกำลังพอๆ กัน จากที่ทักษิณเคยครอบงำเบ็ดเสร็จ ตอนนี้อาจจะ 60-40 หรือ 65-35 หมายความว่าทักษิณก็ยังมีอยู่ แต่ว่าไม่สามารถควบคุมได้ แต่ทิศทางที่จะเปลี่ยนไปมีมากขึ้นจากตัวแปรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวถูกดำเนินคดีมากขึ้น ซึ่งคนที่เป็นจำเลยย่อมรู้ว่าตัวเองผิดหรือไม่ แต่วิธีการที่จะไม่ให้ตัวเองต้องรับผิดคือการเข้าไปแทรกแซงขบวนการตุลาการ ซึ่งอาวุธที่มีอำนาจที่สุดคือเงิน ต้องวิ่งเต้น เพื่อให้มีการระงับ หรือเปลี่ยนแปลงผลคดี เหมือนซุกหุ้นครั้งแรก แต่คราวนี้มันหนักหนาสาหัส จากเอกสารพยานหลักฐานที่มีอยู่ กระบวนการที่จะเหนี่ยวรั้งอาจไปไม่รอด ต้องมาหาทาง แก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือถ้าแก้ไมได้ ก็ต้องยุบสภาเพื่อยืดเวลาออกไป แล้วเงินที่ได้จากการเซ็นเมกะโปรเจกต์ก็เอามาใช้ซื้อเสียงได้ ก็มีแค่นั้น นโยบายของพวกนี้
“การเมืองที่มันเปลี่ยนไปนั้น มันไม่เป้นประโยชน์ แต่ละคนเป็นนายทุนพรรค ถ้านายทุนมาบริหารประเทศ ก็ไม่ไต่างจากระบอบทักษิณ เพียงแต่เปลี่ยนตัวจากคนนั้นมาขูดรีด เป็นคนนี้มาขูดรีดต่อ กลุ่มของนายเนวินก็พยายามประสานทุกกลุ่มเริ่มทำตัวลอยตัวออกมา เป้าหมายเพื่ออะไร ก็เหมือนกับที่ผมเคยพูดหน้าทำเนียบ เรื่องทฤษฎีหมัดหมา ที่มันจะเกาะหมาเป็นๆ ไม่มีตัวไหนเกาะหมาตาย ซึ่งถ้าหมาตายแล้วไม่มีเลือดให้มันดูด มันก็ไปหาตัวใหม่เกาะ นักการเมืองเหล่านี้เหมือนกัน เหมือนเป็ดเหลิมที่ทำตัวเอง และถูกเขี่ยอกมาไม่มีหมัดที่ไหนอยากมาเกาะ เพราะตายแล้ว หมดอำนาจไปแล้ว และวันนี้ยิ่งไปไหนไม่ได้เพราะมันยังใหม่เกินไปที่คนยังหมั่นไส้อยู่” นายสมศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ เรื่องราวทั้งหมดไม่ใช่นิทาน แต่เป็นเรื่องจริง เป็นบทเรียนสอนใจว่าอำนาจไม่ยั่งยืน ไม่เหมือนกับคุณธรรมกับความดีที่ยั่งยืนตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ คนดีเดินไปไหนก็มีรัศมีไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งอะไรทางการเมือง เหมือนนายสมัครที่พยายามขยายอิทธิพลอำนาจ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องวันนี้ต้องชมว่าผู้สื่อข่าวฉลาดมาก นายสมัครไม่สามารถหลอกได้ จึงอารมณ์เสียยืนอบรมผู้สื่อข่าวใหญ่ บอกว่าไม่มีข่าวอย่างอื่นให้ทำหรือยังไง ก็เพราะนายกฯ ไม่ทำอะไร ที่ผ่านมาก็มีแต่กิน จ่ายตลาด กับเข้าห้องน้ำ อยู่แค่นี้แล้วสื่อจะไปทำข่าวอะไรได้ นอกจากนี้ การนำ รมต.ที่ศาลตัดสินว่าขาดคุณสมบัติมามีตำแหน่งอีกครั้ง เหมือนเป็นความดื้อด้าน เหมือนแมวที่เขาเลี้ยงที่บ้าน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเขาคงไม่ได้เอานิสัยมาจากแมว แต่แมวคงติดจากนายสมัครมากกว่า
“กรณีนายไชยา สะสมทรัพย์ ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีไปแล้ว เพราะเมียถือหุ้นเกิน ตอนนี้กลับเข้ามาเป็นรัฐมนตรีใหม่ อ้างว่าขายหุ้นออกหมดแล้ว เหมือนขโมยของถูกจับได้ แล้วคืนของให้มันจบแล้วหรือ คุณธรรมนักการเมือง และผู้นำของบ้านเราต่ำต้อยมาก เทียบกับต่างประเทศที่เขามีปัญหาเพียงเล็กน้อย ถูกตำหนิ เขาจะลาออกทันที แต่ของเราไม่อย่างนั้น ซ้ำนายกฯ ยังไปแปลงสุภาษิตใหม่ จาก ทำดีเป็นศรีแก่ตัว ทำชั่วอัปราชัย ก็เปลี่ยนเป็นว่า ทำดีอัปรีย์กินหัว ทำชั่วมีคนช่วยปกป้องให้ บ้าจริง สงสารเด็ก ไม่รู้คำขวัญวันเด็กจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า ถ้าเป็นจะไม่ดีอย่างแน่นอน เนื่องจากการเป็นผู้นำต้องเป็นแบบอย่างให้คนอื่นได้ และนายกคนนี้ก็ขาดจากเป็นนายกมานานแล้ว เพราะพูดเท็จตลอด” สมศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ การเมืองปัจจุบันมันสกปรก น้ำเน่า การที่นายสมัครอยู่ในส้วมได้นานเพราะมันโสโครก และเหม็นกันทั้งในทำเนียบ และสภา โดยการปรับ ครม.ที่ผ่านไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะเหมือนศพเอามะลิมาโรยก็ยังเหม็นอยู่ดี และยิ่งมาบอกว่าจะไม่แก้ รธน.ยิ่งไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้มันยังกลัวพลังประชาชน แต่มันก็อยู่พรรคพลังประชาชน มันชอบเอาชื่อมาหลอก เบื้องหลังของคนพวกนี้แค่ต้องการประโยชน์เพื่อพวกพ้องตนเองเท่านั้น
นอกจากนี้ การที่นักวิชาการที่ยังมีตำแหน่งในบริษัทเอกชนเข้ามาเป็นที่ปรึกษา แล้วตีความเองว่าไม่ผิด เพราะไม่ได้รับเงินเดือน ไม่เท่ากับขัดผลประโยชน์ แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่าการที่ไม่รับเงินเดือนยิ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนมากกว่า เพราะไม่ได้รับเงินเดือนจากประชาชนแต่รับเงินเดือนของบริษัทที่ตนเป็นบอร์ดอยู่มากกว่า
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทุนนิยมสามาย์ไม่ว่าระบบไหนก็ไม่มีประโยชน์ เหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้ง 6 ตุลา ตากใบ ที่อุดรธานี และการฆ่าตัดตอน มาจากพวกนี้ทั้งนั้น เราต้องต่อสู้ทุกรูปแบบตามรัฐธรรมนูญ ถึงแม้เขาจะมีวิชามารเราก็ไม่กลัว โดยการชุมนุมต้องประชุมและเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ แต่เราต้องยึดถือเป้าหมายเป็นหลักถึงแม้งานบางอย่างจะลุล่วงแล้วแต่เราต้องทำให้ถึงที่สุดคือการไล่รัฐบาลนี้ และสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งเป็นประชาธิปไตยอันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาชนจะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมไม่ใช่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนรัฐบาลนี้กำลังทำ
“นี่หรือผู้นำประเทศ ตอนนี้มันตกต่ำมาก ไม่บอกว่ามันบ้าแล้วจะว่าอย่างไร วันนี้เราซวยมีคนบ้ามาเป็นนายกฯ เราต้องไล่มันออกไป นี่แหละเสนียดแผ่นดิน” นายสมศักดิ์กล่าว
