“นพ.วินัย” เข้าพบ “เหลิม” แจ้ง รพ.เอกชน 22 แห่ง ไม่เข้าร่วมโครงการฟอกไตของ สปสช.แถมอีก 3 เดือนข้างหน้า รพ.อีก 100 แห่ง เตรียมถอนตัวออกจากโครงการหากไม่ปรับขึ้นค่าบริการฟอกเลือดจาก 1,500 เป็น 1,800-2,000 บาท พร้อมขอให้ช่วยขยายเวลาบริการเพิ่มรอบฟอกไต จากวันละ 2 รอบ เพิ่มเป็น 3 รอบต่อเครื่อง ชี้เพิ่มการให้บริการได้ 50%
วันที่ 30 กันยายน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวภายหลังเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อหารือเรื่องการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ที่ต้องล้างไตด้วยการฟอกเลือดผ่านเครื่องไตเทียม ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นวันแรก ว่า ได้รายงานผลการดำเนินการเรื่องการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้ป่วยไตวายฯ ให้ ร.ต.อ.เฉลิม รับทราบ รวมทั้งปัญหาที่โรงพยาบาลเอกชนไม่เข้าร่วมโครงการของ สปสช.ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยไตวายฯ ไม่ได้รับความสะดวกในการรับบริการได้
“ผมขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ช่วยสนับสนุนขยายเวลาในการให้บริการฟอกเลือดของโรงพยาบาลรัฐเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 3 รอบ/เครื่องไตเทียม จากเดิมที่ให้บริการเพียง วันละ 2 รอบ ซึ่งหากทำได้สำเร็จ จะช่วยเพิ่มการให้บริการผู้ป่วยได้มากขึ้นอีก 50% โดยในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เวลา 13.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม และคณะจะตรวจเยี่ยมการให้บริการฟอกไต ที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว สุขุมวิท 24” นพ.วินัย กล่าว
นพ.วินัย กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ผู้ป่วยไตวายฯ สามารถเข้ารับบริการฟอกเลือดได้ตามปกติ ยังไม่น่าจะมีปัญหาหรือมีผู้ป่วยตกหล่นมากนัก ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีสถานพยาบาลทั่วประเทศไม่เข้าร่วมโครงการจำนวน 22 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลเอกชน แต่หลังจากนี้ อีก 3 เดือน หาก สปสช.และสธ.ยังไม่มีการขยายการให้บริการเพิ่มขึ้น หรือไม่มีการปรับราคาฟอกไตจากครั้งละ 1,500 บาท เป็นครั้งละ 1,800-2,000 บาท ตามข้อเสนอขอสมาคมโรงพยาบาลเอกชนจะส่งผลให้สถานพยาบาลอีกประมาณ 100 แห่งทั่วประเทศ จะไม่เข้าร่วมโครงการต่อ จึงเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน
นพ.วินัย กล่าวอีกว่า จากข้อมูลของ สปสช.พบว่า มีผู้ป่วยโรคไตในระบบบัตรทอง ประมาณ 6,200 คน มีผู้ป่วย 4,200 คน ที่แจ้งความจำนงมายัง สปสช.แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่รักษาที่สถานพยาบาลเดิมได้ จำนวน 1,500 คน 2.กลุ่มที่สามารถรักษาในสถานพยาบาลเดิมได้ 3 เดือน จำนวน 2,200 คน และ 3.กลุ่มที่ต้องเปลี่ยนสถานบาลใหม่ ประมาณ 500 คน ส่วนผู้ป่วยที่เหลืออีกประมาณ 2,000 คน ไม่ได้แจ้งความจำนงมายัง สปสช.จึงอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้น ดังนั้น หากมีปัญหาหรือไม่ได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการสามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือประสานเครือข่ายผู้ป่วยโรคไต เพื่อเร่งหาสถานพยาบาลรองรับให้โดยด่วน
