ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.แห่ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ วาดฝันอนาคตกรุงเทพฯกันอย่างคึกคัก “อภิรักษ์” ยันผลักดันให้ กทม.เป็นเมืองแห่งอนาคต “เกรียงศักดิ์” ติดเทอร์โบสร้าง กทม.ด้วยนโยบาย 10 ด้านหลัก “ลีน่า จัง” โอดตกคลองแสนแสบเพราะผู้ว่าฯ กทม.คนก่อนโง่
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้มีการจัดเสวนาเรื่อง อนาคตกรุงเทพฯ กับผู้ว่าฯคนใหม่ โดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หลายราย เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ อาทิ นายกิตติศักดิ์ ถิรวิศิษฎ์ สังกัดอิสระ หมายเลข 1 นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ สังกัดอิสระ หมายเลข 2 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน สังกัดพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) หมายเลข 5 นางลีนา จังจรรจา (ลีน่า จัง) หมายเลข 7 นายภพศักดิ์ ปานสีทอง หมายเลข 11 นางสาววชิราภรณ์ อายุยืน หมายเลข 14 ส่วนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หมายเลข 8 และนายประภัสร์ จงสงวน หมายเลข 10 ขอยกเลิกกะทันหัน เนื่องจากภารกิจหาเสียงในพื้นที่อื่น
โดยนายอภิรักษ์ กล่าวว่า การพัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งอนาคต ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนชาวกรุงเทพฯ ซึงตนจะผลักดันนโยบายส่งเสริมสุขภาพ Home Health Care ดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน ตั้งคณะกรรมการชุมชน ร่วมกันฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้ คลองใส จัดการปัญหาขยะมูลฝอย ตั้งธนาคารขยะรีไซเคิล ส่งเสริมเส้นทางจักรยานร่วมกับชมรมจักรยานให้มีเส้นทางจักยานรณรงค์ให้ขี่จักรยานวันอาทิตย์ และสุดท้าย ส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองศูนย์กลางของการค้าและการลงทุน จับมือกับภาคเอกชน ผลักดันให้มีตลาดส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะย่านขายเสื้อผ้าที่โบ๊เบ๊ พาหุรัด และประตูน้ำ เสื้อผ้าจะต้องมีตราสินค้าของกรุงเทพฯ ไม่ให้มีเสื้อผ้าโหล เป็นต้น
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ตนจะติดเทอร์โบพลิกฟ้า พลิกแผ่นดินขับเคลื่อน กทม.ด้วยนโนบาย 10 ด้านหลัก และ 300 นโยบายย่อย จากที่เข้าไปศึกษาจนทำให้รู้ปัญหาเกือบทุกซอย และจะประปรับปรุงระบบการทำงานให้รวดเร็วโดยจะบอกว่าจะเสร็จในกี่นาที กี่วัน เช่น บัตรประชาชน 15 นาที ต้องเสร็จ เป็นต้นพร้อมกับจะเปิดเผยข้อมูลการทำงานให้ประชาชนตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส ยกเว้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องการด้านกฎหมาย นอกจากนี้ตนเห็นว่า การเป็นผู้สมัครที่มีสังกัดต้องรับฟังเจ้าพ่อที่อยู่ในพรรคจึงไม่มีอิสระ เพราะจะทำอะไรต้องฟังจากผู้อำนาจของพรรค ดังนั้น ผู้ว่าฯ กทม.ที่มีความเป็นอิสระปลอดสังกัดจึงดีที่สุด
นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีนโยบายด้านการจราจรโดยจะบังคับใช้กฎหมายไม่ให้รถยนต์บุคคลวิ่งปะปรกับรถเมล์ในบัสเลน ซึ่งจะทำให้บริการประชาชนได้รวดเร็วมากเพราะไม่มีรถอื่นวิ่งปะปนส่งผลให้การเดินทางเร็วเหมือนรถไฟฟ้า หรืออาจเร็กกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้น จึงควรออกกฎหมายเป็นบัสเลน 100% ส่วนตัวเห็นว่ารถไฟฟ้ายังไม่จำเป็นในตอนนี้แต่บัสเลนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดมั่นใจได้ว่า 1 ชั่วโมง ถึงบ้านแน่นอน พ่อแม่ไม่เป็นห่วงบุตรหลานของตน ส่วนนโยบายช่วยเหลือคนว่างงานตนจะเปิดตลาดการค้าเสรี 24 ชั่วโมง สำหรับทุกอาชีพเพื่อให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น มีการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ไม่มีการก่ออาชญากรรม จี้ ปล้น ค้ายา ในกทม.เพราะทุกคนมีงานทำ
นางลีน่า กล่าวว่า วันนี้ตนตกคลองแสนแสบบริเวณท่าเรือ ประตูน้ำ น้ำมันเหม็น เน่า ดังนั้น ถ้าเลือกตนเป็นผู้ว่าฯ กทม.ตนจะเข้ามาฟื้นฟูน้ำให้ดีขึ้น และจะให้ขึ้นเรือฟรี ซื้อเรือ 100 ลำ ให้ประชาชนนั่งฟรี ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม.คนก่อนๆ โง่ ปล่อยให้เอกชนวิ่งเรือโดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายถึง 17 ปี ขณะที่เอกชนเก็บค่าโดยสารเรือถึง 20 บาท หากเป็นตนไม่มีอย่างนี้แน่นอน นอกจากนี้ ตนจะให้ผู้ค้าในตลาดน้ำแต่งตัวย้อนยุคไป 200 ปีเหมือนทีมงานหาเสียงของตนโดยแจกชุดให้ฟรีเพื่อให้ กทม.เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก เป็นเมืองที่มีจอดรถฟรีทั่ว กทม.ตลอดจนทุกชุมชนจะต้องมีอินเทอร์เน็ตฟรี มีธนาคารอาชีพ สร้างอาชีพให้ทุกคน