กทม.เข้มประหยัดพลังงาน เตรียมผุดเรือ นร.เพิ่มเส้นทางจักรยาน

กทม.เดินหน้าเจรจาห้างดังจัดที่จอดรถสำหรับแท็กซี่ พร้อมคุยผู้บริหาร ร.ร.ดังทำรถโรงเรียนรับส่งบีทีเอส-โรงเรียน และผุดเรือนักเรียนในคลองแสนแสบหากเจรจาเอกชนสำเร็จ เผยเดินหน้าทำเส้นทางจักรยานรอบสยามสแควร์-จุฬาฯ รณรงค์นักเรียน นิสิตรั้วจามจุรีปั่นจักรยานมากขึ้น

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะผู้บริหารกทม. ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนในการเดินทางเพื่อประหยัดพลังงาน โดยคณะผู้บริหารได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ไปประชุมหารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอสซี) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อหามาตรการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว ได้แก่ รถแท็กซี่ รถตู้โดยสาร รถโรงเรียน รถจักรยาน ซึ่งในเบื้องต้น สจส.จะไปสำรวจเส้นทางในย่านที่โรงเรียนดังตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า เพื่อทำพื้นที่จอดรถใต้สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี และหารือกับโรงเรียนในการทำระบบรถโรงเรียนวิ่งรับส่งนักเรียนจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสไปยังโรงเรียน เช่น ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน รร.เซนต์ฟรัง ร.ร.อัสสัมชัญ ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย ร.ร.สายน้ำผึ้ง เป็นต้น เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดด้านหน้าโรงเรียน

นอกจากนี้จะประสานไปยังห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งโลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ เดอะมอลล์ เซ็นทรัล เพื่อให้รถแท็กซี่มาจอดบริเวณห้างสรรพสินค้าตอนเช้าก่อนที่ห้างจะเปิดในลักษณะ Park & Ride ทั้งนี้ กทม.ตั้งเป้าจะจัดหาสถานที่จอดรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ให้ได้ 10 จุด รองรับรถแท็กซี่ได้จำนวน 10,000 คัน เบื้องต้นได้เล็งพื้นที่สนามหลวง 2 ใต้ทางด่วน มุมสวนสาธารณะไว้แล้ว นอกจากนี้จะประสานขอความร่วมมือไปตามอาคารสำนักงาน หน่วยงานราชการต่างๆ ให้จัดหาจุดจอดรถสำหรับรถแท็กซี่ไว้ด้วย

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า สำหรับข้อมูลจำนวนรถแท็กซี่ในปัจจุบันพบว่า พื้นที่ กทม.มีรถแท็กซี่จำนวน 80,000 คัน แต่วิ่งจริงในถนน 60,000-70,000 คัน และกว่า 30,000 คันเป็นรถเปล่าที่วิ่งอยู่ในท้องถนน หาก กทม.จัดหาจุดจอดรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ไว้รองรับได้ 10,000 คัน ก็จะช่วยลดการใช้พลังงานได้คันละ 100 บาท/วัน คิดเป็นมูลค่า 1,000,000 บาท/วัน

นอกจากนี้ยังมีมาตรการเรือโรงเรียน โดยกทม.จะประสานกับ บ.ครอบครัวขนส่งที่เดินเรือในคลองแสนแสบ จัดเรือรับส่งนักเรียนเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น ในส่วนมาตรการส่งเสริมการใช้รถจักรยาน จากสถิติพบว่ามีการใช้รถรถจักรยานใน กทม.จำนวน 30,000 คัน ขณะที่ปัจจุบันกทม.มีจุดจอดรถจักรยาน 2,000 จุด ซึ่งขณะนี้ กทม.กำลังจะขยายจุดจอดรถจักรยานใหม่ 200 จุด นอกจากนี้จะทำเส้นทางจักรยาน และจุดจอดรถจักรยานบริเวณสยามสแควร์-จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโดยรอบถนนอังรีดูนังต์ และถนนพญาไทซึ่งเป็นเครือข่ายเชื่อมต่อกันเพื่อรณรงค์ให้นักเรียน นิสิต หันมาใช้จักรยานมากขึ้น

ด้านนายจุมพล สำเภาพล ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม.กล่าวว่า ปัจจุบันกทม.มีจุดจอดรถแท็กซี่อัจฉริยะกว่า 200 จุดอยู่แล้ว แต่ในเร็วๆ นี้ กทม.จะปรับปรุงจุดจอดบางจุดให้สามารถจอดรถแท็กซี่ได้ 3-5 คัน และเพิ่มปริมาณเป็น 400-500 จุด นอกจากนี้ ในการขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารใหม่ตั้งแต่บัดนี้ไปกทม.จะกำหนดให้อาคารที่ก่อสร้างใหม่ต้องหาที่จอดรถแท็กซี่ไว้ด้วย ส่วนมาตรการประหยัดพลังงานของหน่วยงาน กทม.จะเริ่มต้นโครงการคาร์พูล กทม.1 เสาชิงช้า กับ กทม.2 ดินแดง โดยจะจัดให้มีรถตู้รับส่งในรูปแบบ Shuttle Bus ขนาด 12 ที่นั่ง จำนวน 6 คัน วิ่งรับส่งทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ในเวลาราชการ ซึ่งมาตรการดังกล่าวสามารถทดแทนรถได้ 100 คัน ลดค่าใช้จ่ายได้ 200,000 บาท/วัน หรือคิดเป็น 40 ล้านบาท/ปี

ขณะเดียวกัน กทม.มีนโยบายขายรถหน่วยงานที่ใช้น้ำมันออกไปทั้งหมด แล้วหันมาใช้รถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติมากขึ้น พร้อมกับมีแนวคิดติดตั้งปั๊มแก๊สเอ็นจีวี 2 จุด คือ พุทธมณฑลสาย 2 และ กทม.2 ดินแดง