“อภิรักษ์” ชูนโยบาย ขยายเส้นทางเรือ โว! สร้างเส้นทางรถบีอาร์ที 4 เส้นทาง เชื่อมรถไฟฟ้าเสร็จภายใน 4 ปี ออกสมาร์ทการ์ดบัตรเดียวนั่งได้ทั้ง 3 ระบบ ทั้ง รถบีอาร์ที-รถไฟฟ้าบีทีเอส-รถไฟฟ้าใต้ดิน
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ตลาดสดบางกะปิ และท่าเรือวัดศรีบุญเรือง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 5 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นหาเสียงในย่านดังกล่าว โดยมี นางนาถยา (แดงบุหงา) เบ็ญจศิริวรรณ ส.ส.เขต 7 (บางกะปิ สะพานสูง มีนบุรี ลาดกระบัง) พรรคประชาธิปัตย์ และ นางนฤมล รัตนาภิบาล ส.ก.เขตบางกะปิ และทีมช่วยเดินหาเสียง โดยบรรยายกาศไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากประชาชนเร่งรีบกับการเดินทางไปทำงาน
โดย นายอภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เดินทางมาที่ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ซึ่งเป็นต้นสายของการเดินเรือในคลองแสนแสบ ต้องการให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งทางเรือ ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนกว่า 6 หมื่นคนต่อเที่ยวต่อวัน ซึ่งตนมีนโยบายในการพัฒนาการเดินเรือโดยขยายเส้นทางจากวัดศรีบุญเรือง ออกไปทางฝั่งตะวันออกอีก 14 ท่าเรือ จากเดิม 27 ท่าเรือ ซึ่งจะช่วยให้คนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ได้เดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ในอนาคตจะขยายเส้นทางเพิ่มเติมโดยศึกษาในคลองลาดพร้าวและคลองภาษีเจริญ และขณะนี้เส้นทางจักรยานเลียบคลองแสนแสบ จากท่าเรือวัดเทพลีลา-วัดศรีบุญเรือง ก็แล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้แล้ว
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ การแก้ปัญหาจราจร ตนจะมองทั้งระบบให้เชื่อมโยงกัน โดยระบบขนส่งมวลชน จะต้องรองรับด้วยระบบจอดรถพาร์คแอนด์ไรด์ (Park & Ride) ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะโดยจะทำรถเมล์ด่วนบีอาร์ที (BRT) เชื่อมกับรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 4 เส้นทาง ให้แล้วเสร็จภายใน 4 ปี คือ 1.สายเหนือ จากปากเกร็ด-ศูนย์ราชการ 2.ดอนเมือง –มีนบุรี-สุวรรณภูมิ 3.มีนบุรี-ศรีนครินทร์-แบริ่ง (สุขุมวิท) และ 4.แบริ่ง-สุวรรณภูมิ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.แค่ 1 เส้นทาง ขณะนี้ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ แล้ว 5 เส้นทางจะสามารถทำเสร็จได้อย่างไร นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ที่ไม่เสร็จเพราะติดที่ระบบ ติดเรื่องการร้องเรียน และเพิ่งเริ่มผลักดันได้ในช่วง 2 ปีหลัง ฉะนั้น 5 เส้นทางได้ศึกษาไว้นานแล้ว สามารถเข้ามาแล้วดำเนินการได้เลย โดยจะมีบัตรสมารท์การ์ด สามารถนั่งรถบีอาร์ที รถไฟฟ้าบีทีเอส และ รถไฟฟ้าใต้ดิน บัตรเดียวนั่งได้ 3 ระบบโดยจะกำหนดราคาลดหย่อนตามราคาเช่น นักศึกษา ข้าราชการ ผู้สูงอายุ แตกต่างกันไป
เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ตลาดสดบางกะปิ และท่าเรือวัดศรีบุญเรือง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 5 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นหาเสียงในย่านดังกล่าว โดยมี นางนาถยา (แดงบุหงา) เบ็ญจศิริวรรณ ส.ส.เขต 7 (บางกะปิ สะพานสูง มีนบุรี ลาดกระบัง) พรรคประชาธิปัตย์ และ นางนฤมล รัตนาภิบาล ส.ก.เขตบางกะปิ และทีมช่วยเดินหาเสียง โดยบรรยายกาศไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากประชาชนเร่งรีบกับการเดินทางไปทำงาน
โดย นายอภิรักษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เดินทางมาที่ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ซึ่งเป็นต้นสายของการเดินเรือในคลองแสนแสบ ต้องการให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งทางเรือ ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนกว่า 6 หมื่นคนต่อเที่ยวต่อวัน ซึ่งตนมีนโยบายในการพัฒนาการเดินเรือโดยขยายเส้นทางจากวัดศรีบุญเรือง ออกไปทางฝั่งตะวันออกอีก 14 ท่าเรือ จากเดิม 27 ท่าเรือ ซึ่งจะช่วยให้คนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ได้เดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ในอนาคตจะขยายเส้นทางเพิ่มเติมโดยศึกษาในคลองลาดพร้าวและคลองภาษีเจริญ และขณะนี้เส้นทางจักรยานเลียบคลองแสนแสบ จากท่าเรือวัดเทพลีลา-วัดศรีบุญเรือง ก็แล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้แล้ว
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ การแก้ปัญหาจราจร ตนจะมองทั้งระบบให้เชื่อมโยงกัน โดยระบบขนส่งมวลชน จะต้องรองรับด้วยระบบจอดรถพาร์คแอนด์ไรด์ (Park & Ride) ส่งเสริมการใช้รถสาธารณะโดยจะทำรถเมล์ด่วนบีอาร์ที (BRT) เชื่อมกับรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 4 เส้นทาง ให้แล้วเสร็จภายใน 4 ปี คือ 1.สายเหนือ จากปากเกร็ด-ศูนย์ราชการ 2.ดอนเมือง –มีนบุรี-สุวรรณภูมิ 3.มีนบุรี-ศรีนครินทร์-แบริ่ง (สุขุมวิท) และ 4.แบริ่ง-สุวรรณภูมิ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.แค่ 1 เส้นทาง ขณะนี้ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ แล้ว 5 เส้นทางจะสามารถทำเสร็จได้อย่างไร นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ที่ไม่เสร็จเพราะติดที่ระบบ ติดเรื่องการร้องเรียน และเพิ่งเริ่มผลักดันได้ในช่วง 2 ปีหลัง ฉะนั้น 5 เส้นทางได้ศึกษาไว้นานแล้ว สามารถเข้ามาแล้วดำเนินการได้เลย โดยจะมีบัตรสมารท์การ์ด สามารถนั่งรถบีอาร์ที รถไฟฟ้าบีทีเอส และ รถไฟฟ้าใต้ดิน บัตรเดียวนั่งได้ 3 ระบบโดยจะกำหนดราคาลดหย่อนตามราคาเช่น นักศึกษา ข้าราชการ ผู้สูงอายุ แตกต่างกันไป
