xs
xsm
sm
md
lg

“เกรียงศักดิ์” ดึงตัวอดีตผู้บริหารชินคอร์ปเข้าทีม ลั่นใช้มืออาชีพบริหารองค์กร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ เปิดตัวรองผู้ว่าฯ ฝ่ายโยธา
“เกรียงศักดิ์” เปิดตัว “เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์” อดีตผู้บริหารกลุ่มชินคอร์ปนั่งรองผู้ว่าฯ ด้านโยธา หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. ขณะที่เจ้าตัวเผยจะใช้ความเป็นมืออาชีพมาบริหารจัดการองค์กรและผลักดันรถไฟฟ้าอีกสายครึ่งให้เสร็จใน 4 ปี เชื่อทำงานกับรัฐบาลไม่มีปัญหาเพราะคงไม่มีรัฐบาลไหนไม่อยากให้ กทม.ก้าวหน้า

เมื่อเวลา 09.15 น.วันที่ 15 ก.ย.ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สังกัดอิสระ หมายเลข 2 แถลงข่าวเปิดตัว นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ อดีตผู้บริหารบริษัทเอกชน มาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ด้านโยธา
โดยนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ตนมองเห็นความพร้อม และวิสัยทัศน์ในการทำงานของนายเชิดศักดิ์ จึงได้เชิญมาเป็น 1 ในทีมงาน ทั้งนี้ เชื่อว่าจากประสบการณ์ในฐานะผู้บริหารระดับสูง มีความชำนาญในด้านโทรคมนาคม การบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ การวางแผนกลยุทธ์และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถนำมาปรับใช้กับนโยบายการแก้ปัญหาจราจรของตนได้

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายด้านการจราจร ตนจะแก้ปัญหาแบบครบวงจร เพื่อให้ประชาชนเดินทางสะดวกรวดเร็ว โดยจะผลักดันรถไฟฟ้าครอบคลุมพื้นที่ กทม. 10 สายครึ่ง โดยเพิ่มเส้นทางลาดพร้าว-บางกะปิ และครึ่งสายจากสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานพระปิ่นเกล้า ขณะที่อีก 9 สายจะดำเนินการร่วมกับรัฐบาล จัดทำบัตรบางกอกการ์ด (Bangkok Card) เป็นบัตรสิทธิพิเศษสำหรับคนกรุงเทพฯ บัตรเดียวสามารถเดินทางได้ทั้งระบบ ตั้งแต่รถไฟฟ้า รถเมล์ เรือ รถไฟ แถมได้รับส่วนลดเมื่อใช้บริการต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ในราคาพิเศษ ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดส่งเสริม บุฟเฟต์เดินทาง สามารถใช้ได้ไม่อั้น โดยจะจัดตั้ง กองทุนเดินทางสาธารณะ เพื่อคนทำงานในระบบ โดยลูกจ้างจะส่งเข้ากองทุน 3% ของเงินเดือนโดยไม่เกินเดือนละ 600 บาท และนายจ้างที่เข้าระบบจะต้องส่งเงินเข้ากองทุน 3% ของเงินเดือนเช่นกัน ขณะที่ กทม.จะสมทบอีก 1% คิดเป็นวงเงินประมาณ 3,600 ล้านบาท

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งมีโครงการรถเมล์ศูนย์บาท (Zero-Fare Bus) ให้บริการกับประชาชนที่อาศัยในชุมชนต่างๆ ได้ใช้บริการฟรีไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ นอกจากนี้จะผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครไวแมกซ์ (Wimax) เพื่อให้คนทุกพื้นที่ทั้งในเมืองและชานเมืองเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ดีกว่า Green Wi-Fi 100-150 เท่า ซึ่งเป็นนโยบายของอดีตผู้ว่าฯ กทม.ที่ทำไว้ และจะส่งเสริมให้มีสถานที่ทำงานชั่วคราวใกล้บ้าน(Metro Port) ย่านชานเมือง มีลักษณะเป็นสถานที่ทำงานชั่วคราวผู้ที่มีบ้านชานเมืองสามารถแวะทำงานได้ ทั้งนี้ เพื่อลดการเดินทางได้อีกทางหนึ่ง และส่งเสริมให้มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อไว้ใช้ในการลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการมีรายได้จากการรับส่งนักธุรกิจ ขณะที่ประชาชนที่มีรายได้น้อยแต่อยู่ในช่วงนาทีวิกฤตจะได้ใช้บริการในอัตราที่ย่อมเยา

“หากผมได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.จะดำเนินนโยบายไวแมกซ์ เมโทรพอร์ต รถเมล์ศูนย์บาท และบางกอกการ์ด ก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งผมมั่นใจว่าทุกนโยบายสามรถทำได้จริง และมีทีมงานที่จะเร่งผลักดันทุกวิถี ซึ่งการที่เลือกรองผู้ว่าฯ ด้านโยธา เป็นนายเชิดศักดิ์ เพราะมั่นใจในความสามารถว่าจะมาช่วยพัฒนากรุงเทพฯ ได้ เพราะเคยทำให้บริษัทในกลุ่มชินฯ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในยุคแรกๆ แต่ตอนนี้ได้ตัดขาดมาหลาย 10 ปีแล้ว โดยส่วนตัวจึงไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรกับคะแนนเสียง” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ อดีตผู้บริหารกลุ่มชินคอร์ป ว่าที่รองผู้ว่าฯ
ด้านนายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า เหตุที่ตนตัดสินใจเข้าร่วมเป็นทีมงานโดยรับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ด้านโยธา หากนายเกรียงศักดิ์ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.นั้น เนื่องจากถูกใจในความเป็นอิสระไม่สังกัดพรรคการเมืองของนายเกรียงศักดิ์ อีกทั้งยังมีพื้นฐานความรู้ที่ดี ขณะเดียวกัน ตนก็ได้ศึกษานโยบายแล้วพบว่ามีความครอบคลุมทุกด้านโดยตนจะเข้ามารับหน้าที่ผลักดันนโยบายซึ่งตนจะทำที่ผู้บริหารเชิงปฏิบัติการ หรือ COO ขณะที่นายเกรียงศักดิ์จะเป็น CEO ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าแม้จะเคยเป็นผู้บริหารในภาคเอกชนขนาดใหญ่โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีแต่ก็จะนำประสบการณ์ในด้านธุรกิจ การเป็นมืออาชีพในการบริหารงาน ความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ มาบริหารจัดการองค์กรเพื่อรับใช้ประชาชน ส่วนที่เกรงว่าจะทำงานในระบบราชการไม่ได้นั้นก็ไม่มีปัญหาเพราะตนเคยเป็นนักเรียนทุนของการรถไฟแห่งประเทศไทยมาก่อนซึ่งทำให้ได้เรียนรู้การทำงานระบบราชการ มาถึง 7 ปีเต็ม

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่รองผู้ว่าฯกทม.ฝ่ายโยธาจะเดินหน้าสนต่อโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย และโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีหรือไม่ นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า โครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีก็จะพิจารณาดูว่ามีความคุ้มค่าด้านการใช้สอย คุ้มทุนหรือไม่ หากทำแล้วไม่มีประโยชน์ก็ต้องยกเลิก แต่หากดีก็พร้อมเดินหน้าต่อ ส่วนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่อดีตผู้ว่าฯ กทม.คนก่อนยังติดขัดอยู่นั้นปัญหาสำคัยอยู่ที่นโยบายพรรคมากกว่าโดยคาดว่ารถไฟฟ้าที่จะทำอีกสายครึ่งจะเดินหน้าผลักดันให้เสร็จภายใน 4 ปี ส่วนการทำงานร่วมกับรัฐบาลก็ไม่มีปัญหาเพราะเราจะทำงานเสริมกับเขาคงไม่มีรัฐบาลไหนที่ไม่ต้องการเห็นความเจริญก้าวหน้าของ กทม.

กำลังโหลดความคิดเห็น