ทีมงาน “อภิรักษ์” มั่นใจผลงาน 4 ปี เข้าตาประชาชนจนเทคะแนนให้อีกรอบ ไม่หวั่นคู่ต้อสู้รายอื่น เผย 31 ส.ค.โชว์วิสัยทัศน์ ทิศทาง กทม.ในอนาคต
แหล่งข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในการเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ได้มีการจัดตั้งทีมงาน 6 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.ฝ่ายยุทธศาสตร์ มี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผอ.การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พรรค และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองผู้ว่าฯ กทม.เป็นฝ่ายวางแผน กำหนดนโยบาย วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนของผู้สมัครรายอื่น 2.ฝ่ายประสานงานพื้นที่ โดยมีนายสุกิจ ก้องธรนินทร์ เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. และนายสุทธิสรรค์ ศิวพิทักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งจะเป็นแกนหลักในการประสานสมาชิกสภา กทม.(ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) รวมถึงทีมงานของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในพื้นที่ 3.ฝ่ายกฎหมาย มี นายถวิล ไพรสณฑ์ ที่คอยดูแลไม่ให้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง 4.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และประสานงานสื่อมวลชน มี นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ และ นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษก กทม. เป็นแกนนำ 5.ฝ่ายประสานงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มี นายธนา ชีรวินิจ และ นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กรุงเทพฯ เป็นแกนหลัก และ 6.ด้านข้อมูลและสถิติ มอบหมายให้ ดร.จักรพันธุ์ พรนิมิตร ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่หาเสียงของ นายอภิรักษ์ จะแตกต่างจาก 4 ปีที่แล้วแน่นอน เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามา จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเดินเข้าถึงประชาชนเป็นแบบใหม่ ในขณะที่เมื่อ 4 ปีที่แล้วมีเวลากว่า 8 เดือน ในการหาเสียงเข้าหาประชาชนทุกพื้นที่ ซึ่งคาดว่าๆไม่น่าจะทำให้เป็นปัญหาเพราะการทำงาน 4 ปีของ นายอภิรักษ์ ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ก็น่าจะได้ใจคนกรุงเทพฯ ทั้งนี้ หลังจากที่หาเสียงได้ระยะหนึ่งแล้วจะมีการทำโพล เพื่อรับทราบกระแสตอบรับจากประชาชน ขณะที่ว่าที่ผู้สมัครรายอื่นที่มีการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการไปแล้วเมื่อเทียบกับ นายอภิรักษ์ ก็ไม่น่าหนักใจ แต่ที่น่าสนใจในขณะนี้ ก็คือนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า จะประกาศจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ แต่อาจจะไม่ง่าย เนื่องจากไม่มีฐานคะแนนในพื้นที่ กทม.รวมถึงกระแสที่ว่านายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่อาจจะมาลงสู้ศึกในครั้งนี้เช่นกัน และมีภาพของมือตรวจสอบทุจริตที่จะใช้เป็นจุดขาย ส่วนว่าที่ผู้สมัครรายอื่น อย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ไม่น่าจะคะแนนมากกว่าครั้งที่แล้ว
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทางทีมงานจะไม่ประมาทถึงแม้จะมีผลโพลออกมาว่าคน กทม.ยังต้องการให้ นายอภิรักษ์ กลับมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง เพราะคนกรุงเทพฯมักจะตัดสินใจในวันสุดท้ายที่จะลงคะแนน นอกจากนี้ ในการออกรายการโทรทัศน์ต่างๆ ก็จะต้องมีการตอบข้อซักถาม นายอภิรักษ์ เกี่ยวกับการจัดซื้อรถดับเพลิง ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าที่ยังไม่สำเร็จ โครงการจัดซื้อรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที และโครงการอัจฉริยะต่างๆ ซึ่งจะทำให้ นายอภิรักษ์เสียเปรียบคู่แข็งรายอื่น เพราะต้องใช้เวลาชี้แจงส่วนนี้ไม่น้อยกว่า 40% ขณะที่ผู้สมัครรายอื่นสามารถแสดงวิสัยทัศน์ นโยบายได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ เวลาประมาณ 11.00 น.นายอภิรักษ์ จะเปิดปราศรัยที่พรรค เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในการลงสมัครครั้งนี้ รวมถึงทิศทางของ กทม.ในอนาคต ส่วนทีมรองผู้ว่าฯ กทม.จะยังไม่มีการเปิดตัวในช่วงนี้เพราะอาจจะทำให้ผู้ที่พลาดหวังหมดกำลังใจในการทำงานได้
