“อภิรักษ์” พอใจผลคะแนนแม้ไม่ถึงล้าน แต่เกินเป้าที่ตั้งไว้ ถ้าได้ถือเป็นโบนัส เผย ภารกิจเร่งด่วนหากผ่านรับรอง คือ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ยันไม่กังวลสารพัดเรื่องร้องเรียน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชนที่ให้ความไว้วางใจเลือกตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เป็นสมัยที่ 2 แม้จะมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยลงกว่าครั้งที่ผ่านมาก็ตาม อย่างไรก็ตาม เหตุที่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ อาจจะมาจากประชาชนชื่นชอบในแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมาอย่างยาวนาน และต้องการให้เข้ามาสานต่อโครงการต่างๆ ให้ต่อเนื่อง รวมถึงประชาชนพอใจในผลงานช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า แม้ผลคะแนนที่ออกมาจะไม่ถึงล้านคะแนน เพราะจำนวนผู้มาใช้สิทธิน้อยลงกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2547 แต่ก็ดีใจมาก เพราะตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องได้ไม่ต่ำกว่าเดิม ที่ประชาชนยังมอบความไว้วางใจเลือกตั้งเข้าอีกครั้ง อีกทั้งยังได้มากกว่าครั้งที่แล้ว ทั้งที่มีผู้ใช้สิทธิน้อย ซึ่งผลที่ออกมาก็ค่อนข้างพอใจมาก ถ้าเกินล้าน หรือล้มแชมป์ได้ก็ถือเป็นเรื่อง
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ ภารกิจแรกที่จะเข้าไปดูแล คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะจุดเสี่ยงน้ำท่วมบริเวณที่แนวเขื่อนกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยายังสร้างไม่แล้วเสร็จ รวมถึงการระบายน้ำท่วมในชั่วโมงเร่งด่วนที่จะกระทบต่อการจราจร นอกจากนี้ จะเร่งแก้ปัญหาจราจรโดยจะเร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีลม จากแยกตากสินถึง ถ.ตากสิน 2.2 กม.กับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสุขุม จากอ่อนนุช ถึง แบริ่ง รวมทั้งเชื่อมโยงโครงข่ายการจราจรด้วยระบบอื่น เช่น เรือ พร้อมกับจะประสานกับตำรวจเพื่อแก้ไขจราจรต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะแก้ไขจุดอ่อนเกี่ยวกับผลงานในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาอย่างไร นายอภิรักษ์ กล่าวว่า จะพยายามกำชับให้เจ้าหน้าที่ให้ทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะบางครั้งที่ไม่ได้เข้าไปดูแลใกล้ชิด ทำให้งานออกมาล่าช้า ส่วนโครงการอัจฉริยะต่างๆ เช่น แท็กซี่อัจริยะ อาจมีการปรับปรุงแก้ไขเป็นแท็กซี่แสตนด์ หรือทำจุดจอดรถตามศูนย์การค้าหรือออฟฟิศต่างๆ ให้เหมาะสมกับพื้นที่
ส่วนเรื่องการแต่งตั้งทีมรองผู้ว่าฯ กทม.ทั้ง 4 คน นายอภิรักษ์ กล่าวว่า คาดว่า จะได้รายชื่อทั้งหมดภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์ หลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งการแต่งตั้งจะเป็นลักษณะผสมผสานระหว่างคนเก่ากับคนใหม่ โดยพิจารณาตามความเหมาะสม ตามนโยบายที่จะทำต่อไป ที่สำคัญ จะตั้งทีมที่ปรึกษาควบคู่ไปด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าจะไม่ให้อยู่จนครบวาระ แต่อาจมีการสับเปลี่ยนตำแหน่งกันได้ตลอดเวลา เพื่อความเหมาะสมของงาน
นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับงบประมาณการหาเสียงเลือกตั้ง ขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด แต่ยืนยันว่าไม่เกิน 39 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้แน่นอน ส่วนคดีร้องเรียนต่างๆ ก็ไม่กังวล เพราะที่ผ่านมาทำตามระเบียบอย่างเคร่งครัดและหารือกับ กกต.โดยตลอด