ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.หลายรายเริ่มเดินหน้าชูนโยบาย “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์” หาเสียงวันแรก ชูสานต่อโครงการด้านสุขภาพ “ลีน่า” พร้อมให้ผู้ป่วยเอดส์รักษาฟรี รพ.สังกัด กทม.ด้าน “วิทยา” ชูสร้างรถราง ลดมลพิษ
วันนี้ (1 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมกับ นายวัลลภ สุวรรณดี พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.แถลงนโยบายด้านสาธารณสุข ที่โรงพยาบาลภูมิพล ย่านสะพานใหม่ ว่า ตนจะขยายโรงพยาบาลสังกัด กทม.ออกไปในพื้นที่รอบนอกของ กทม.อีก 4-5 แห่ง เพื่อให้การบริการกับประชาชนที่ต้องการได้อย่างทั่วถึงและสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งโรงพยาบาลที่จะสร้างใหม่นั้น จะมีการพิจารณาหาพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง และจะเน้นให้โรงพยาบาลมีความเป็นเลิศที่ต่างกัน ทั้งนี้ ทุกโรงพยาบาลจะเน้นการรักษาผู้สูงอายุ นอกจากนั้นแล้ว จะให้ชุมชน 1,800 แห่งใน กทม.เป็นเครือข่ายสาธารณสุขประสานความร่วมมือมายังหน่วยแพทย์ของ กทม.ด้วย
ทั้งนี้ รพ.ภูมิพล ไม่ได้อยู่ในความดูแลของ กทม.การได้มาหาเสียงที่นี่ จึงจะช่วยศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลของ กทม.ให้มากขึ้น ปัจจุบัน กทม.มีโรงพยาบาลในเครือข่าย 9 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 2,372 เตียง มีแพทย์ 580 คน จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้แนะนำตัวกับผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้ไปเลือกตั้งในวันที่ 11 มกราคม 2552
** “ลีนา” ชูนโยบายช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์
ด้าน นางลีนา จังจรรจา ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 ได้หารือกับตัวแทนของมูลนิธีเข้าถึงเอดส์ ที่อาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด นครธน สาทร พร้อมพบปะกับผู้ป่วยเอดส์ พร้อมเปิดเผยภายหลังหารือว่า ตนมีนโยบายช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ เบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยในระยะเริ่มแรกที่สามารถทำงานได้ ตนจะจัดอบรมอาชีพ พร้อมกับหาพื้นที่เป็นที่ขายของให้ ส่วนผู้ป่วยระยะที่ป่วยหนักตนจะให้ผู้ป่วยดังกล่าวเข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลสังกัด กทม.
เบื้องต้นนั้นจะมียาที่มีคุณภาพเพื่อผู้ป่วยฟรี และในระยะยาวตนจะสร้างโรงพยาบาลเพื่อรักษาผู้ป่วยเอดส์โดยเฉพาะ ส่วนการลงทุนในเรื่องยานั้น ตนจะเปิดขอรับบริจาคจากองค์กรต่างชาติ และในประเทศเพื่อนำเงินมาจัดซื้อยาให้ผู้ป่วยโดยไม่ต้องใช้เงินภาษีของคนกรุงเทพฯ
** “วิทยา” ชูสร้างรถราง ลดภาวะมลพิษ
ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายวิทยา จังกอบพัฒนา ได้เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เพราะต้องการได้หมายเลข 9 จึงรอให้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล สมัครก่อนทั้งนี้ นายวิทยา กล่าวว่า นโยบายหลักในการหาเสียงครั้งนี้สร้างรถรางไฟฟ้า เพราะเป็นการช่วยลดมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ จะเน้นในเรื่องปัญหาจราจร ที่เป็นปัญหาของคน กทม.โดยจะเร่งแก้ไขให้เร็วที่สุด
สำหรับสโลแกนในการหาเสียงครั้งนี้ คือ ประชาชนสุขสันต์ บ้านเมืองก้าวหน้า ให้ประชาชนรวมพลังและสามัคคีกัน เพื่อความเป็นสุขของคน กทม. อย่างไรก็ตาม การหาเสียงครั้งนี้จะไม่ใช้งบประมาณมาก โดยตนจะขับมอเตอร์ไซค์ไปตามท่าเรือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และอนุสาวรีย์ชัย ส่วนเรื่องของผลการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับประชนเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่คาดหวังกับคะแนน
ขณะที่ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้นำข้าราชการในศาลาว่าการ กทม.เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนในการเป็นข้าราชการที่ดี เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ทั้งนี้ ภายหลังการถวายสัตย์ฯ ปลัด กทม.กล่าวถึงเหตุการณ์ในการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่มาชุมนุมกันบริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.นั้นเหตุการณ์ดำเนินไปด้วยความปกติ และวันนี้ก็เปิดให้มีการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เช่นเดิม ส่วนการปิดโรงเรียน 11 แห่งในเขตพระนคร ต้องขอดูสถานการณ์ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร อีกทั้งการเปิด-ปิดโรงเรียนนั้นเป็นอำนาจของผู้อำนวยการเขต
วันนี้ (1 ธ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมกับ นายวัลลภ สุวรรณดี พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.แถลงนโยบายด้านสาธารณสุข ที่โรงพยาบาลภูมิพล ย่านสะพานใหม่ ว่า ตนจะขยายโรงพยาบาลสังกัด กทม.ออกไปในพื้นที่รอบนอกของ กทม.อีก 4-5 แห่ง เพื่อให้การบริการกับประชาชนที่ต้องการได้อย่างทั่วถึงและสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งโรงพยาบาลที่จะสร้างใหม่นั้น จะมีการพิจารณาหาพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง และจะเน้นให้โรงพยาบาลมีความเป็นเลิศที่ต่างกัน ทั้งนี้ ทุกโรงพยาบาลจะเน้นการรักษาผู้สูงอายุ นอกจากนั้นแล้ว จะให้ชุมชน 1,800 แห่งใน กทม.เป็นเครือข่ายสาธารณสุขประสานความร่วมมือมายังหน่วยแพทย์ของ กทม.ด้วย
ทั้งนี้ รพ.ภูมิพล ไม่ได้อยู่ในความดูแลของ กทม.การได้มาหาเสียงที่นี่ จึงจะช่วยศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลของ กทม.ให้มากขึ้น ปัจจุบัน กทม.มีโรงพยาบาลในเครือข่าย 9 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 2,372 เตียง มีแพทย์ 580 คน จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้แนะนำตัวกับผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้ไปเลือกตั้งในวันที่ 11 มกราคม 2552
** “ลีนา” ชูนโยบายช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์
ด้าน นางลีนา จังจรรจา ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 ได้หารือกับตัวแทนของมูลนิธีเข้าถึงเอดส์ ที่อาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด นครธน สาทร พร้อมพบปะกับผู้ป่วยเอดส์ พร้อมเปิดเผยภายหลังหารือว่า ตนมีนโยบายช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ เบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยในระยะเริ่มแรกที่สามารถทำงานได้ ตนจะจัดอบรมอาชีพ พร้อมกับหาพื้นที่เป็นที่ขายของให้ ส่วนผู้ป่วยระยะที่ป่วยหนักตนจะให้ผู้ป่วยดังกล่าวเข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลสังกัด กทม.
เบื้องต้นนั้นจะมียาที่มีคุณภาพเพื่อผู้ป่วยฟรี และในระยะยาวตนจะสร้างโรงพยาบาลเพื่อรักษาผู้ป่วยเอดส์โดยเฉพาะ ส่วนการลงทุนในเรื่องยานั้น ตนจะเปิดขอรับบริจาคจากองค์กรต่างชาติ และในประเทศเพื่อนำเงินมาจัดซื้อยาให้ผู้ป่วยโดยไม่ต้องใช้เงินภาษีของคนกรุงเทพฯ
** “วิทยา” ชูสร้างรถราง ลดภาวะมลพิษ
ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายวิทยา จังกอบพัฒนา ได้เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เพราะต้องการได้หมายเลข 9 จึงรอให้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล สมัครก่อนทั้งนี้ นายวิทยา กล่าวว่า นโยบายหลักในการหาเสียงครั้งนี้สร้างรถรางไฟฟ้า เพราะเป็นการช่วยลดมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ จะเน้นในเรื่องปัญหาจราจร ที่เป็นปัญหาของคน กทม.โดยจะเร่งแก้ไขให้เร็วที่สุด
สำหรับสโลแกนในการหาเสียงครั้งนี้ คือ ประชาชนสุขสันต์ บ้านเมืองก้าวหน้า ให้ประชาชนรวมพลังและสามัคคีกัน เพื่อความเป็นสุขของคน กทม. อย่างไรก็ตาม การหาเสียงครั้งนี้จะไม่ใช้งบประมาณมาก โดยตนจะขับมอเตอร์ไซค์ไปตามท่าเรือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และอนุสาวรีย์ชัย ส่วนเรื่องของผลการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับประชนเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่คาดหวังกับคะแนน
ขณะที่ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้นำข้าราชการในศาลาว่าการ กทม.เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนในการเป็นข้าราชการที่ดี เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ทั้งนี้ ภายหลังการถวายสัตย์ฯ ปลัด กทม.กล่าวถึงเหตุการณ์ในการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่มาชุมนุมกันบริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.นั้นเหตุการณ์ดำเนินไปด้วยความปกติ และวันนี้ก็เปิดให้มีการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เช่นเดิม ส่วนการปิดโรงเรียน 11 แห่งในเขตพระนคร ต้องขอดูสถานการณ์ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร อีกทั้งการเปิด-ปิดโรงเรียนนั้นเป็นอำนาจของผู้อำนวยการเขต
