ศูนย์ข่าวศรีราชา-คณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ออกโรงหนุนจัดทำรถรางไฟฟ้าพัทยาแก้ปัญหาระบบขนส่ง
เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา นำโดยนายจารึก อนุพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยคณะกว่า 30 คน เดินทางเข้าศึกษาดูแผนการปฏิบัติงานด้านการคมนาคมในพื้นที่เมืองพัทยา ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยมี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา และนายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร ประธานที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหารเมืองพัทยาให้การต้อนรับ
นายพิเชษฐ์ อุทัยวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักการช่าง เมืองพัทยา กล่าวบรรยายสรุปว่า สภาพการจราจรทั่วไปของเมืองพัทยา ยังมีความสาหัสอยู่ในบางช่วงเวลา แม้กระทั่งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีปริมาณรถยนต์บนถนนมากกว่าปกติ 2 เท่าตัว ในส่วนบริเวณของถนนสุขุมวิท และถนนสายหลักของเมืองพัทยาต่างๆ
เมืองพัทยามีแนวคิดในการแก้ปัญหาระยะยาว คือ การจัดสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกสุขุมวิท ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาออกแบบแปลนที่เหมาะสมอยู่ อีกทั้งยังเร่งศึกษารายละเอียดของการจัดทำระบบรถรางไฟฟ้าภายในเมืองพัทยา เพื่อให้ชาวพัทยาหันมาใช้บริการรถสาธารณะมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัว
ด้าน นายจารึก อนุพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา เผยว่า การนำ คณะฯ ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในครั้งนี้มีจุดประสงค์สำคัญที่ความต้องการให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาระบบโครงข่ายการขนส่งในจังหวัดชลบุรี ที่จะเชื่อมโยงจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก และยังมีจุดมุ่งหมายสำคัญที่การเชื่อมต่อระบบขนส่งจากส่วนกลางเพื่อให้การพัฒนาระบบลอจิสติกส์ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากนั้นยังจะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นและความเร่งด่วน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วปานกลางเพื่อใช้ในการขนส่งคน และสินค้า เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่สิ้นเปลืองจากการขนส่งทางบก
ทั้งนี้ ปัญหาที่พบว่าเป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อการพัฒนาระบบโครงข่ายจากส่วนกลางมายังพื้นที่ภาคตะวันออกคือข้อมูลในการพัฒนาจากส่วนกลางมายังพื้นที่ไม่มีความชัดเจน ดังนั้น การนำคณะลงสำรวจพื้นที่จังหวัดชลบุรีซึ่งถือเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก น่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการกำหนดแผนพัฒนาระบบขนส่งในอนาคตที่จะสอดคล้องกันยิ่งขึ้น
ในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบรถไฟเป็นรางคู่ เพื่อให้เห็นปัญหาการจราจรที่พบว่าปัจจุบันแค่เพียงมีรางเดียวยังทำให้การจราจรติดขัดเป็นเวลากว่าชั่วโมง เมื่อมีการเคลื่อนขบวนรถไฟ และหากพัฒนาเป็นรางคู่แล้วการจราจรในจุดนี้จะยิ่งวิกฤตยิ่งขึ้น หากไม่เร่งสร้างเส้นทางคร่อมทางรถไฟ ส่วนโครงการตามนโยบายของเมืองพัทยา ในการจัดทำระบบรถรางไฟฟ้า ภายในเมืองนั้น เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องมีการศึกษารายละเอียดอย่างรอบครอบ เพื่อไม่ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว อีกทั้งควรมีการกวดขันวินัยการจราจรมากขึ้น และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา นำโดยนายจารึก อนุพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยคณะกว่า 30 คน เดินทางเข้าศึกษาดูแผนการปฏิบัติงานด้านการคมนาคมในพื้นที่เมืองพัทยา ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา โดยมี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา และนายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร ประธานที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหารเมืองพัทยาให้การต้อนรับ
นายพิเชษฐ์ อุทัยวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักการช่าง เมืองพัทยา กล่าวบรรยายสรุปว่า สภาพการจราจรทั่วไปของเมืองพัทยา ยังมีความสาหัสอยู่ในบางช่วงเวลา แม้กระทั่งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีปริมาณรถยนต์บนถนนมากกว่าปกติ 2 เท่าตัว ในส่วนบริเวณของถนนสุขุมวิท และถนนสายหลักของเมืองพัทยาต่างๆ
เมืองพัทยามีแนวคิดในการแก้ปัญหาระยะยาว คือ การจัดสร้างอุโมงค์ลอดทางแยกสุขุมวิท ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาออกแบบแปลนที่เหมาะสมอยู่ อีกทั้งยังเร่งศึกษารายละเอียดของการจัดทำระบบรถรางไฟฟ้าภายในเมืองพัทยา เพื่อให้ชาวพัทยาหันมาใช้บริการรถสาธารณะมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนตัว
ด้าน นายจารึก อนุพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา เผยว่า การนำ คณะฯ ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในครั้งนี้มีจุดประสงค์สำคัญที่ความต้องการให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาระบบโครงข่ายการขนส่งในจังหวัดชลบุรี ที่จะเชื่อมโยงจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก และยังมีจุดมุ่งหมายสำคัญที่การเชื่อมต่อระบบขนส่งจากส่วนกลางเพื่อให้การพัฒนาระบบลอจิสติกส์ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากนั้นยังจะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นและความเร่งด่วน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วปานกลางเพื่อใช้ในการขนส่งคน และสินค้า เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่สิ้นเปลืองจากการขนส่งทางบก
ทั้งนี้ ปัญหาที่พบว่าเป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อการพัฒนาระบบโครงข่ายจากส่วนกลางมายังพื้นที่ภาคตะวันออกคือข้อมูลในการพัฒนาจากส่วนกลางมายังพื้นที่ไม่มีความชัดเจน ดังนั้น การนำคณะลงสำรวจพื้นที่จังหวัดชลบุรีซึ่งถือเป็นประตูสู่ภาคตะวันออก น่าจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการกำหนดแผนพัฒนาระบบขนส่งในอนาคตที่จะสอดคล้องกันยิ่งขึ้น
ในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบรถไฟเป็นรางคู่ เพื่อให้เห็นปัญหาการจราจรที่พบว่าปัจจุบันแค่เพียงมีรางเดียวยังทำให้การจราจรติดขัดเป็นเวลากว่าชั่วโมง เมื่อมีการเคลื่อนขบวนรถไฟ และหากพัฒนาเป็นรางคู่แล้วการจราจรในจุดนี้จะยิ่งวิกฤตยิ่งขึ้น หากไม่เร่งสร้างเส้นทางคร่อมทางรถไฟ ส่วนโครงการตามนโยบายของเมืองพัทยา ในการจัดทำระบบรถรางไฟฟ้า ภายในเมืองนั้น เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องมีการศึกษารายละเอียดอย่างรอบครอบ เพื่อไม่ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว อีกทั้งควรมีการกวดขันวินัยการจราจรมากขึ้น และการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง